เรื่องสั้นโดย... ปิยภัทร จำปาทอง ผลงานลำดับที่ 10 ในคอลัมน์ "เล่นแร่แปรวัตถุดิบ"
คลิกเพื่ออ่าน.....บทนำ: เล่นแร่แปรวัตถุดิบ...รวมเรื่องชุดโดยนักเรียนเขียนเรื่อง 2018 ได้ที่นี่
ความสุข ใครก็คงจะอยากมีกันใช่ไหม
กรณีผู้เขียนคือใช่ แต่ยิ่งแก่ตัวลงก็ยิ่งพบว่าความสุขมันไม่ใช่ของได้มาง่าย ๆ
ตอนยังเล็กอาจจะแค่อยากได้ขนม อยากได้ของเล่น อยากดูการ์ตูน
ตอนนั้นเรามีคนคอยประเคนให้เพราะเรายังเป็นเด็ก ตามใจผู้ใหญ่ให้พอใจแล้วค่อยโต
จนเริ่มเป็นวัยรุ่นเท่านั้นแหละ ยิ่งอายุเยอะก็ยิ่งมีเรื่องให้คิดเยอะกว่าจะไปถึงความสุขได้
เพราะงั้นวันนี้ลองหันกลับไปดูดีไหม
ว่าความสุขของเรามาจากอะไร
ระหว่างนั้นผู้เขียนขอคุยกับเด็ก ๆ ที่ได้เจอซักสองสามคนในความทรงจำให้พอให้คิดตามหน่อย
▼
“ผมชื่อบิ๊ก ผมตัวโตกว่าเพื่อน ๆ ในห้อง เรื่องใช้แรงทั้งโรงเรียนไว้ใจผม”
ร่างกายกำยำแต่คล่องแคล่วว่องไว พบเขาได้ไม่หลังห้องเรียนก็หลังห้องน้ำ
บางวันเห็นเขาคุยเล่นหัวกันกับพี่รปภ. หรือตำรวจแถวนั้นด้วยซ้ำ
กลิ่นบุหรี่เคล้าเหล้าคละคลุ้งประจำ แต่ถ้าอาจารย์ไม่เรียกไปต่อว่า รอยยิ้มก็เต็มหน้าเขาทุกเวลา ยกเว้นว่าบางทีคนรู้จักต่างสถาบันมีเรื่อง ก็มีเครียดให้เห็นเหมือนกัน
“นี่พี้ยาเปล่าวะ เยิ้มตลอดเชียว”
“คิดไงล่ะเพื่อน”
“เราไม่รู้ เราไม่เอาด้วยก็แล้วกัน”
บทสนทนาเล็ก ๆ ระหว่างร่วมกันลอกการบ้านที่ส่งไม่ทัน
ปกติบิ๊กจะยิ้ม ๆ แบบนี้ เสมือนไม่เกรงกลัวอะไร ตอบหน้ารื่น ๆ กลางห้อง
ชวนให้คิดว่าก่อนร่วมชั้นเดียวกันเขาผ่านอะไรมาบ้าง
แต่เทียบกับตัวเราแล้วเขาช่างร่าเริงสดใส
ไม่ว่าจะด้วยฤทธิ์นิโคตินหรือแอลกอฮอล์ รอบตัวเขาก็เต็มไปด้วยมิตรสหาย
จนแทบน่าอิจฉา
บิ๊กแสวงหาความสุขจากเพื่อนรอบตัวและอิสระที่เขามี
ต่อให้หลุดจากกรอบที่สังคมตีไว้ไม่น้อยก็ตาม
ป่านนี้แล้วเขาจะเป็นยังไงกันนะ
▼
“ดิฉันชื่อชุติมา ดิฉันคะแนนดีเป็นอันดับต้น ๆ ของห้อง และเป็นหัวหน้าห้องค่ะ”
ต่อมา ตัวละครประเภทนักเรียนดีเด่นคนหนึ่งในชีวิตเรา
ทางของครรลองคือทางของเธอ
เธอเชื่อฟังคำสอนครูบาอาจารย์ และจริงจังจนตกเป็นเป้าให้ผู้ชายในห้องแกล้งแหย่เล่นเสมอ
บางทีก็มีน้ำโหเพราะเพื่อนบางคนแกล้งเธอแรงไป แต่ไม่นานก็ให้อภัยกันได้
นี่เธอเป็นแม่พระเหรอ
เพอเฟคเกิร์ลควรจะเป็นสมญานามของเธอ
จนกระทั่งวันที่อาจารย์วิชาสังคมแกล้งให้คะแนนเธอต่ำ
น้ำตาเปรอะกระดาษขาว
เธอร้องไห้ยาวนานกว่าที่ใคร ๆ ในห้องเคยได้เห็น
เป็นวันที่เหมือนโลกจะแตก
เธอร้องไห้ดั่งเธอทำผิดร้ายแรง จนอาจารย์ที่ขี้แกล้งแบบนี้เป็นประจำยังเคร่งเครียดตาม
เธอสารภาพกับอาจารย์ว่ากลัวที่บ้านต่อว่า
เธอทำคะแนนดี 4.0 มาตลอด และการให้คะแนนต่ำครั้งนี้จะทำให้เกรดเธอตกเป็น 3.5
เพื่อนร่วมชั้นที่เป็นคนนอกก็ได้แต่กระอักกระอ่วน พลางคิดว่าครอบครัวแบบนี้มีจริงเหรอ
มีจริงครับ เด็กสาวคนนี้นี่แหละ
ปกติเธอมีความสุขที่ประสบความสำเร็จในการเรียน
แต่เห็นสภาพแบบนี้ก็ได้แต่พูดไม่ออกบอกไม่ถูกไปตาม ๆ กัน
ป่านนี้แล้วเธอจะเป็นยังไงกันนะ
▼
“เราชื่อแคน เราชอบอ่านหนังสือเลยชอบแต่งนิยายด้วย”
ส่วนคนนี้เป็นรุ่นพี่ของเราเอง
เด็กหออยู่คนเดียว ไปไหนมาไหนก็ตัวคนเดียว แต่หลายคนในโรงเรียนจะรู้จักเขา
พี่เขาเฟรนลี่กับทุกคน แต่แค่สุงสิงกับหนังสือมากกว่าคน เลยดูลึกลับกว่าใคร
วันหนึ่งเราชวนพี่เขาคุยว่าทำยังไงถึงแต่งนิยายได้ยาว ๆ เหมือนพี่
“มันเป็นเรื่องของกระบวนการคิดนะ”
พี่แคนเริ่มร่ายอย่างบันเทิงอารมณ์
“ในหัวพี่จะเก็บความคิดไว้เหมือนโฟลเดอร์ในคอมน่ะ เวลาคิดอะไรก็เรียกออกมา”
“แล้วทำยังไงถึงรู้เยอะแบบพี่ล่ะ”
“กำปั้นทุบดินคือเสพให้เยอะ แต่ใครเขาก็พูดกัน ถ้าให้พูดมากกว่านั้นคือระหว่างเสพก็ต้องคิดตาม เรื่องที่เสพ ๆ อยู่มันจะได้ถูกบันทึกด้วย ลงสมองเนี่ย”
“พี่พูดเหมือนหัวทุกคนเป็นคอมพิวเตอร์”
“ก็ใกล้เคียงนะ นี่ที่คิดเร็วก็เพราะจัดระเบียบความคิดด้วยแหละ เหมือนตั้งชื่อความทรงจำในหัวเรียงตามลำดับแล้วจัดเข้าโฟลเดอร์แยกกันเงี้ย ลองฝึกได้นะ”
พี่แคนครับ จนถึงวันนี้ผมยังทำไม่ได้เลย
นิยายพี่เขาเขียนไว้ ตอนเจอกันครั้งสุดท้ายก็ไม่แน่ใจว่าเขียนจบหรือยัง
แต่ก็ไม่ได้เจอมาสี่ห้าปีแล้ว
ป่านนี้แล้วพี่เขาจะเป็นยังไงกันนะ
▼
พวกนี้คือเด็กสามคนในชีวิตผู้เขียน ที่ตอนนี้พวกเขาน่าจะเป็นผู้ใหญ่กันไปแล้ว
บิ๊ก เด็กชายที่อยู่ในเขตสีทึม ๆ จากสายตาภายนอกแต่มีรอยยิ้มตลอดเวลา
ความสุขของเขามาจากมิตรสหาย
ชุติมา เด็กสาวผู้ดูดีในสังคม แต่ตรอมตรมกับความกลัวเรื่องผิดพลาด
ความสุขของเธอมาจากความสำเร็จและความสมบูรณ์แบบ
กับ แคน เด็กหนุ่มผู้ปลีกตัวออกจากโลก จมอยู่กับทะเลความคิดของตน
ความสุขของพี่เขามาจากสมองเขาเอง
มาถึงจุดนี้ จะไล่ให้คุณผู้อ่านกลับไปหาความสุขของตัวเองหลังจากอ่านความสุข(และไม่สุข)ของคนอื่นก็แลดูจะเชยเกินไป
เพราะงั้นขอปิดท้ายด้วยความสุขของผู้เขียนก็แล้วกัน
เราไม่รู้
เพราะเราไม่รู้ว่าอะไรทำให้เรามีความสุขนี่แหละ เราเลยอยู่ไปวัน ๆ เหมือนไม่มีจุดหมาย
แต่ก็ไม่ได้เบื่อ ข้าวก็อร่อยดี ตั้งแต่ตอนเด็กเรามีแทบทุกอย่างที่อยากได้
แม้บ้านจะไม่ได้รวยอะไรก็ได้มาเรียนสถาบันหน้าใหญ่ ๆ แต่ก็รู้สึกเหมือนได้มาอยู่แค่นั้น
เห็นงั้นชีวิตก็สนุกดีนะ
ก็ไม่ใช่ว่าไม่มีความฝันยิ่งใหญ่แล้วจะตายซะหน่อย
เพราะงั้นวันนี้ เราก็จะหาความสุขของเราต่อไป
(ที่มารูป https://www.irasutoya.com/2017/10/blog-post_992.html)
~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~
ผู้สนใจสามารถคลิกที่ชื่อเรื่องเพื่อเข้าถึงงานเขียนเรื่องนั้นๆ
ผลงานชุด “เด็กเด็กเด็ก” ประกอบด้วย
- ความเรียง “ฉันผิดที่เป็นเด็กสายศิลป์” โดย ธนวิชญ์ นามกันยา
- เรื่องสั้น “คุยกับเด็กในความทรงจำ” โดย ปิยภัทร จำปาทอง
- เรื่องสั้น “ดอกแก้วแลดาวเหนือ” โดย กัลยรัตน์ ธันยดุล
วัตถุดิบ
- บทกวีคำซ้ำเรื่อง “เด็ก” ของ จ่าง แซ่ตั้ง
- บทกวีเรื่อง “ผีเสื้อไม่ใช่ปูเสฉวน” ของ โรสนี นูรฟารีดา
- ความเรียงเรื่อง “เอ๋ย...เจ้าช่อดอกแก้ว” ของ รักษิตา
- คำว่า “คล่องแคล่ว” ในคลังคำของ รศ.ดร.นววรรณ พันธุเมธา
~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~
ผลงานเรื่องอื่นๆ สืบเนื่องจากกิจกรรม "เล่นแร่แปรวัตถุดิบ"
ผลงานชุด “LUNCH” ประกอบด้วย
- เรื่องสั้น “อาหารกลางวันบนชั้น 21” โดย วรันพร ตียาภรณ์
- เรื่องสั้น “อาหารฝันกลางวัน” โดย ชัญญานุช ปั้นลายนาค
- เรื่องสั้น “อาหารกลางวันที่เจ้าบ้านหายไป” โดย ณิชา เวชพานิช
ผลงานชุด “ความทรงจำ” ประกอบด้วย
- ความเรียงเรื่อง “ให้ความทรงจำเป็นเหมือน ‘ขยะ’” โดย สิริโชค โกศัลวิตร
- เรื่องสั้น “ชื่อที่ไม่มีวันลืม” โดย ปุณยาพรสุข ศาลาสุข
- เรื่องสั้น “This white dog and that white wolf” โดย พิมพ์ภาณิณ โชติมา
ผลงานชุด “ต้นไม้” ประกอบด้วยเรื่อง
- เรื่องสั้น “พักพิง” โดย บุณฑริกา จิตพินิจกุล
- เรื่องสั้น “ต้นไม้โตขึ้นบ้าง หรือ กระถางเล็กลงหน่อย” โดย ธีรศักดิ์ คงวัฒนานนท์
- เรื่องสั้น “ ‘กระถิน’ ปลูกลงดินไม่ได้” โดย จุฬารัตน์ กุหลาบ
ผลงานชุด “หมู่บ้านล้านดอก” ประกอบด้วย
- เรื่องสั้น “ดอกบัว” โดย นันทวัน มงคลสถิต - เรื่องสั้น “กะฮอม” โดย เมธินี โสภา - เรื่ิองสั้น “ดาวเรือง” โดย ณฐพร ส่งสวัสดิ์
ผลงานชุด “ชะตากรรม” ประกอบด้วยเรื่อง
- เรื่องสั้น “กรำชะตา” โดย พิชญา วินิจสร
- เรื่องสั้น “กำชะตา” โดย ณิชมน จันทวงศ์
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in