The Independent รายงานว่า
ประเทศจีนทำให้ความภักดีต่อรัฐกลายเป็นเกม ด้วยการสร้างเครื่องมือวัด
‘คะแนนพลเมืองดี’ ชื่อ Sesame Credit (คะแนนถั่วงา) โดยจะคำนวณคะแนนจากพฤติกรรมการใช้โซเชียลเน็ตเวิร์กและการซื้อของออนไลน์
คะแนนที่ว่าจะ ‘ขึ้น’
เมื่อเราโพสต์อะไรที่ดีงามต่อรัฐบาล เช่น โพสต์สนับสนุนนโยบายต่างๆ
หรือข่าวดีเกี่ยวกับตลาดหุ้น หรือซื้อของที่รัฐบาลเห็นชอบ เช่น ผลิตภัณฑ์พื้นบ้าน
ผลิตภัณฑ์การเกษตรที่ผลิตในประเทศ ในทางกลับกัน คะแนนจะ ‘ลด’
เมื่อเราโพสต์รำลึกจัตุรัสเทียนอันเหมิน โพสต์ วิพากษ์วิจารณ์นโยบายรัฐ
โพสต์ข่าวหุ้นตก หรือซื้อของที่รัฐไม่เห็นชอบอย่างการ์ตูนอนิเมะที่มาจากญี่ปุ่น
คะแนนพลเมืองดีที่ว่านี้ไม่ใช่ว่าคำนวณเฉยๆ
ออกมาให้อวดกันเล่น แต่มีข่าวลือออกมาว่า ถ้าคะแนนของใครต่ำมากๆ
รัฐอาจจะลงโทษโดยการลดความเร็วอินเทอร์เน็ต หรือห้ามไม่ให้สมัครงานในบางตำแหน่ง
ในขณะที่ถ้าคะแนนของใครสูงมากๆ รัฐก็จะให้รางวัล เช่น ขอเอกสารต่างๆ
จากราชการได้ง่ายขึ้น ไปต่างประเทศสะดวกขึ้น กู้เงินง่ายขึ้น เป็นต้น
หลังจากที่ประกาศใช้เครื่องมือนี้
ก็มีคนเริ่มออกมา ‘อวด’ คะแนนพลเมืองดีของตัวเอง ในโซเชียลเน็ตเวิร์กของจีนอย่าง
Weibo
กันแล้ว ทั้งๆ ที่มีข่าวว่ารัฐจะเริ่มบังคับใช้ในปี 2020
หลังจากที่โพสต์ข่าวนี้ออกไป มีหลายคนบอกกับผมว่าเหมือนกับระบบที่ใช้ในการ์ตูนเรื่อง Psycho-Pass ซึ่งจินตนาการถึงอนาคตอันมืดหม่นที่รัฐมีอำนาจควบคุมเหนือความคิดความเชื่อของประชาชนในอาณัติของตน ผ่านเซนเซอร์ที่คอยสแกนสภาพจิต บุคลิกภาพ และโอกาสที่จะก่อเหตุอาชญากรรมของคนในบริเวณนั้น
แน่นอนครับ
ผมคิดว่านโยบายนี้เป็นเรื่องเหลวไหลและเป็นการแสดงความ ‘กลัว’
ของรัฐบาลจีนในแบบที่โงหัวไม่ขึ้น แต่ความพยายามนี้ก็มีความน่ากลัวในตัวของมัน
ลองจินตนาการถึงสังคมที่เราตรวจสอบได้ว่าใครมีความเชื่อ ‘ตรง’ หรือ ‘ไม่ตรง’
กับเรา โดยดูจากแค่ตัวเลขหนึ่งๆ สิครับ ลองจินตนาการถึงหมู่บ้านที่ออกกฎว่าคุณต้องมีคะแนนถึงเกณฑ์เท่านั้นจึงจะอาศัยอยู่ในหมู่บ้านนี้ได้
นี่ไม่ใช่เรื่องยากที่จะเกิดขึ้นเลย ลองดูอย่างในประเทศไทยที่มีการ ‘ขับไล่’
คนที่มีความเห็นไม่ตรงกับตัวเองออกจากถิ่นอาศัยโดยมาตรการกดดันทางสังคมต่างๆ ดู
ดังนั้นมาตรการคะแนนนี้จึงไม่ใช่แค่ความพยายามของรัฐที่จะควบคุมประชาชน
แต่เป็นความพยายามที่จะให้ประชาชนสอดส่องควบคุมกันเอง (ซึ่งจะทำได้ก็ต่อเมื่อมี
‘คนเข้าข้างรัฐ’ มากพอ ซึ่งจีนมั่นใจอย่างนั้น)
ถ้าเป็นเมื่อก่อน ผมคงรู้สึกว่านี่เป็นข่าวที่ไม่ค่อยเกี่ยวกับประเทศเราตรงๆ
จีนก็ยังคงมีความเชื่อเดิมอยู่อย่างนั้น ความเชื่อที่ว่าคนไม่ควรจะ
‘ก่อให้เกิดคลื่น’ คนควรจะ ‘รักษาความสงบของบ้านเมือง’ ไม่ควรมีใคร ‘แหลม’ ขึ้นมา
ถ้าเป็นเมื่อก่อน
ผมอ่านข่าวนี้แล้วคงรู้สึกว่าเป็นเรื่องไกลตัวเหลือเกิน
แต่ปัจจุบัน เมื่ออ่านข่าวนี้จบ
ผมกลับรู้สึกกลัว