"ส่งงานด้วยครับ" เคล็ดลับทวงงานนักเขียน

บ.ก. หรือบรรณาธิการ บุคคลผู้กุมชะตาของหนังสือแต่ละเล่มไว้ในกำมือ เรียกได้ว่าหนังสือจะดีหรือจะดับนั้น บ.ก.ก็มีส่วนไม่แพ้นักเขียนกันเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นการรับผิดชอบหนังสือ จัดทำ รวบรวม ตรวจแก้ คัดเลือก และทวงงานนักเขียน




อ๋อใช่ ไม่ได้อ่านผิดหรอก การทวงงานนักเขียนก็เป็นอีกหน้าที่หนึ่งของบ.ก.เหมือนกัน และขอบอกว่านี่ไม่ใช่สิ่งที่จะทำกันได้ง่ายๆ ซะด้วยนะ ถ้าใครกำลังนึกภาพ...

บ.ก.:(เดินมา) นี่ๆๆ ส่งงานหน่อยสิเตง
นักเขียน: อ้ะ เอาไปเลยเตง อันนี้ก็ด้วย นี่ก็เสร็จแล้ว นี่อีกอัน เย้ๆๆๆ
บ.ก.: เย้ๆๆๆ


...ขอแนะนำให้รีบตื่นจากความฝันอันสวยงามซะเดี๋ยวนี้ ไม่ใช่เลย มันไม่ใช่เลย การทวงงานนักเขียนของบ.ก.เราจะมองว่าเป็นสงครามย่อมๆ ก็ไม่เกินไปนัก เพราะมันต้องใช้การอ่านเกม วางแผน ชิงไหวชิงพริบ และวาทศิลป์ในการเจรจา เพื่อให้ได้ต้นฉบับมา เฮ้ย! นี่สำนักพิมพ์หรือสามก๊กกันเนี่ย!

แต่ใครที่อยากเป็นบ.ก.ก็อย่าเพิ่งรู้สึกท้อแท้ไป บัดนี้ทางมินิมอร์จะขอแนะนำให้รู้จัก บ.ก. กาย บรรณาธิการแห่งสำนักพิมพ์แซลม่อน เจ้าของคำพูด "ส่งงานด้วยครับ" ที่ทวงงานนักเขียนมาแล้วสารพัดรูปแบบ ทั้งทวงง่าย ทวงยาก ทวงยากชิบเป๋ง กายก็ยังสามารถทวงงานมาตีพิมพ์จนขายดิบขายดีไปไม่รู้กี่เล่มต่อกี่เล่ม และเมื่อเราขอร้อง กึ่งอ้อนวอน แกมบังคับ ให้กายช่วยบอกวิธีทวงงานนักเขียนให้หน่อยเถอะนะ กายก็ตอบโอเคและขอให้เราวางมีดปอกผลไม้ลง จากนั้นกายก็เริ่มเผยเคล็ดลับมาทีละสเต็ป

"แรกสุดเลยก็จะให้ตัวนักเขียนเองนั่นแหละ เป็นผู้กำหนดเดดไลน์ก่อน"



เริ่มมาด้วยบรรยากาศแห่งมิตรภาพ ให้นักเขียนรู้สึกปลอดภัย สามารถกำหนดเวลาส่งงานได้เอง เท่านี้นักเขียนก็จะตายใจยอมมอบตัวถวายงานให้เต็มที่แน่นอน

"เมื่อใกล้ถึงเดดไลน์ให้ทักทายไปด้วยข้อความที่แสดงถึงความห่วงใย เช่น เป็นไงบ้างครับ, งานถึงไหนแล้ว"



อืม ก็จริงนะ ถึงแม้จะกำหนดเวลาด้วยตัวเอง แต่ก็อาจมีเผลอลืมตัวอู้กันบ้าง แต่ถ้าเจอแบบนี้ ต่อให้ใจแข็งยังไงก็อู้ไม่ไหวหรอก ต้องรีบวิ่งไปปั่นงานที่ค้างอยู่โดยเร็วทันที ส่วนคนที่ไม่ได้อู้เจอแบบนี้ก็จะยิ่งเร่งสปีดขึ้นไปอีก โอ้โห ฟังดูไม่มีอะไร แต่จริงๆ แล้วมี!

"พอถึงวันนั้น หากเช็คอีเมลแล้วยังว่างเปล่า เช็คเฟซบุ๊กแล้วยังเงียบเหงา โปรดส่งสติกเกอร์ที่แสดงอารมณ์อ้อนวอนไปหาผู้เขียนโดยทันที"



ถ้าเป็นนักเขียนที่ทำตรงตามกำหนดก็จะรอดพ้นจุดนี้ไปแล้ว เราจะไม่กล่าวถึง แต่นักเขียนคนไหนที่มาถึงตรงนี้แสดงว่าต้องมีเหตุผลที่ลึกซึ้งบางอย่างจนส่งงานได้ไม่ทันตามกำหนด ...ก็น่าสงสารล่ะนะ แต่เราสงสารตัวเองมากกว่า ขอส่งสติ๊กเกอร์น่ารักประเภทหมาน้อยตาใสวิ๊งๆ ไปกดดันนิดหน่อยก็แล้วกัน

"แน่นอนว่าส่วนใหญ่แล้วมักจะเงียบ... ระหว่างนั้นโปรดจงเฝ้าระวังโซเชียลฯ ของนักเขียนไว้ คอยกดไลค์ทุกการเคลื่อนไหว คอย reply ทุกความคิดเห็น"



น...นี่เป็นการกระทำที่แผ่รังสีอำมหิตออกมาชัดเจนมาก นักเขียนคนไหนเจอแบบนี้รับรองว่าถึงขั้นขวัญหนีดีฝ่อ จากที่รู้สึกผิดนิดหน่อย ก็จะรู้สึกผิดมากขึ้น มากขึ้น แต่จะมากยังไงก็ไม่มากไปกว่าความกลัวแน่ๆ

"ถ้ายังไร้สัญญาณตอบกลับอีก ก็อาจตะล่อมนักเขียนด้วยการส่งข้อความไปชวนคุยเรื่องอื่น (ถ้าจะให้ดี ลองคุยเรื่องเงินๆ ทองๆ ส่วนใหญ่จะตอบเร็วมากกก)"



ไม้หนักแล้วก็กลับมาไม้เบา นี่มันเทคนิค Good Cop/Bad Cop ชัดๆ ...แต่เดี๋ยวก่อน ดูเผินๆ เหมือนการชวนคุยเรื่องที่ไม่ใช่เรื่องงานจะเป็นไม้เบา แต่การเข้าเรื่องเงินนี่ดูเป็นการพูดกลายๆ เลยนะว่า 'ถ้าไม่ส่งงานก็จะไม่ได้เงินนะ แล้วเรื่องความมั่นคงของชีวิตล่ะจะเป็นยังไง บ้านก็จ่าย รถก็ผ่อน ลูกเมียพ่อแม่หมาแมว จะอยู่กันยังไง อีกทั้ง...' พอๆๆ จะกลับไปทำงานแล้วคร้าบ

"หากโลกโซเชียลฯ ไม่ได้ผล ก็จงหยิบโทรศัพท์ รีบจิ้มเบอร์โดยไว รอดูซิว่าจะรับมั้ย (อ้อ ควรใช้เบอร์แปลกโทร.ไป แม้จะเสี่ยงต่อการถูกหาว่ามาขายตรง แต่ก็มีโอกาสที่เขาจะรับมากกว่าใช้เบอร์ส่วนตัว)"



ตามปกติแล้วคนเราจะหลีกเลี่ยงเบอร์แปลกๆ ที่ไม่รู้จัก แต่เหล่านักเขียนที่มาถึงสเต็ปนี้แล้วจะมีพฤติกรรมตรงกันข้าม โทรศัพท์ดังทีก็สะดุ้งที ยิ่งเห็นเหลือบๆ ว่าเป็นชื่อที่บันทึกยิ่งลนลาน เลยกลายเป็นว่าถ้าเป็นเบอร์แปลกๆ ก็จะรู้สึกสบายใจ รับสายได้ไม่ใช่บ.ก.ชัวร์ๆ ฮัลโหลครับ ใครโทรมาครับ ... ..

"แต่ถ้าใครดวงกุดถึงขนาดที่นักเขียนปิดทุกช่องทางการติดต่อ ทางเดียวที่ทำได้คือ ทำใจ ระหว่างนี้คุณควรใช้เวลาว่างไปนั่งสมาธิ เดินจงกรม สวดภาวนาต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ อ้อนวอนให้เบื้องบนช่วยลูกช้างด้วย..."



โธ่... ถ้าถึงขั้นนี้ก็คงต้องตัดใจแล้วล่ะ เห็นมั้ยบอกแล้วว่าการทวงงานนักเขียนมันไม่ใช่ง่ายๆ และ... เอ๊ะ เสียงเมลล์เข้าใช่มั้ยนั่น



......



เย้!


เกี่ยวกับกาย
กาย หรือ ปฏิกาล ภาคกาย บรรณาธิการแห่งสำนักพิมพ์แซลม่อน ผู้ปลุกปั้นหนังสือดีๆ ให้กับสำนักพิมพ์หลายต่อหลายเล่ม แต่ใช่ว่าเขาจะทำแต่หนังสือคนอื่นเท่านั้น หนังสือของตัวเองเขาก็ทำ (ซึ่งก็ไม่รู้ว่าใช้สเต็ปทวงงานของตัวเองกับตัวเองรึเปล่า) ในชื่อ 'CULTURE STRIKE ไม่ไทยแลนด์ ทำแทนไม่ได้' ใครสนใจแวะชมกันได้ที่ minimore store