รวม 15 ปกหนังสือ ที่...ตั้งชื่อแบบนี้ก็ได้เหรอ? - Judge A Book By Its Cover



เรื่องมันเริ่มจากเหยื่อ (ไม่สิ เพื่อน) คนหนึ่งที่เคยเดาหนังสือกับมินิมอร์ ได้ส่งภาพปกหนังสือแปลกๆ มาให้ และให้มินิมอร์เดาว่าเรื่องมันเป็นยังไง โอ้โห ดาบนั้นคืนสนอง! แต่เอ๊ะ มันน่าสนุกนะ วันนี้  Judge A Book By Its Cover เลยหาปกหนังสือแปลกๆ มาให้ลองเดากัน ว่าถ้าพากันออกทะเลทั้งชื่อทั้งปกมันจะเป็นอย่างไร!





Still Stripping After 25 Years โดย Elanor Burns

ถ้าดูแค่ชื่อ...คุณป้าเขาต้องอยู่ลาสเวกัส แล้วเป็นนักเต้นระบำเปลื้องผ้าแน่ๆ! ความเฟี้ยวคือทำงานนี้มา 25 ปีแล้ว แล้วก็ยังเต้นระบำเปลื้องผ้าอยู่! ต้องโทษจิตอกุศลของเราหรือว่าเป็นความผิดคนตั้งชื่อเนี่ย...ใครไม่เข้าใจว่ามันคืออะไร เอาคำว่า stripping ไปเสิร์ชนะฮะ *ปิดตา*

fact : พอดูปกแล้วคนละเรื่องจ้ะ ใครมันช่างตั้งชื่อ...เป็นเรื่องของคุณ Elanor Burns ที่จัดเป็นเอกอุด้านงานควิลท์ (การต่อลายผ้าให้เป็นลวดลาย) ซึ่งงานควิลท์นี่จัดเป็นงานคราฟท์ที่นิยมกันมาก ถ้าเข้าไปตามเว็บขายอุปกรณ์งานศิลปะ ผ้าแนวๆ แบบบนปก เขาจะเรียกว่าผ้าลายคันทรี่ ดูแล้วก็น่ารักดีเนอะ

ดูเพิ่มเติม






How to Cook Husbands โดย Elizabeth Strong Worthington

"แม่มต้องต้มผัวกินแน่ๆ" นี่คือความคิดแรกที่ผุดขึ้นมาในหัวของมินิมอร์ ก็ดูสิ ประคองตระกองกอดสามีที่ดูอ่อนแอ....นั่นมันคืออะไร้! สร้างภาพรักสามีเหรอ เพ้อ จริงๆ คือหล่อนกำลังหามุมหมุนหักกระดูกคอสามี ประเมินอยู่ว่าต้องใช้กำลังแค่ไหนใช่มั้ยล่ะ แถมที่กอดศีรษะของสามีไว้คือกะว่าจะพอดีถาดเงินที่มีอยู่มั้ยน้า... แล้วยิ่งใช้คำว่า husbands นี่คือไม่ใช่รายแรก ไม่ใช่เมนูแรกใช่มั้ย นังแมงมุมแม่ม่ายดำ! หล่อนทำอย่างนี้มากี่รายแล้ว นี่มันฆาตกรโหด! ฅนเฬว! 

fact :  อุ้ย ผิด ออกตัวแรงไปหน่อย เรื่องนี้เป็นนิยายเขียนโดย Elizabeth Strong Worthington ตั้งแต่ปี 1898 (สมัยวิคตอเรียน) ซึ่งเป็นยุคที่ผู้หญิงมีบทบาทมากขึ้นในสังคม แต่ต้องอยู่ในกรอบที่กำหนดนะ แม้จะดูเป็นนิยายพาฝัน สาวสวย พระเอกรวย แต่จริงๆ พูดถึงเรื่องความสัมพันธ์ของชีวิตคู่ การดำเนินชีวิตไว้ไม่น้อย ....แต่มีทีมงานมินิมอร์เดาเรื่องถูกล่ะ คือเขาเป็นคนดีกว่าเราหรือไร จิตใจเราทำไมใฝ่แต่เรื่องร้าย

อ่านฟรี ได้ในลิงก์ข้างต้นเลย เป็นหนึ่งในโปรเจคต์กูเตนเบิร์ก ซึ่งเอางานเขียนเก่าๆ ที่หมดอายุลิขสิทธิ์และกลายเป็นสาธารณะ มาทำเป็นไฟล์ดิจิทัลเพื่อการเผยแพร่ ในกูเกิลก็มีให้อ่านนะ





The Manly Art of Knitting โดย Dave Fougner

แมนๆ ขี่ม้าครัช...ขี่ม้าไปถักนิตติ้งไป เหย นี่มันอะไร เรื่องผู้ชายถักนิตติ้งอะ มินิมอร์เข้าใจนะ ว่าเป็นกิจกรรมสร้างสมาธิและไม่จำกัดเพศ แต่คือเป็นคาวบอยขี่ม้า มาโช สุด แต่ก็ถักนิตติ้งไปด้วย พี่! พี่อยู่บนหลังม้าพี่ไม่ควรถักนิตติ้ง พี่ควรจับบังเหียน *โยนงูปลอมใส่*

fact : จริงๆ ก็เป็นไปตามปกแหละ (เพียงแต่ไม่ได้สอนวิธีนิตติ้งบนหลังม้า) หนังสือเล่มนี้กำเนิดขึ้นครั้งแรกในปี 1972 เพื่อส่งเสริม ให้กำลังใจ ผู้ชายที่ถักนิตติ้งทุกคน ว่า "เฮ้ย มันทำได้ ผู้ชายก็ถักนิตติ้งได้" สอนตั้งแต่จุดเริ่มต้นเลยแหละ มินิมอร์ว่าหนังสือเล่มนี้เฟี้ยวมากนะ ในช่วงปี 1972 ที่ยังไม่มีคนใส่ใจเรื่อง gender equality มากนัก การถักนิตติ้งในภาพจำของคนทั่วไปคืองานของผู้หญิง (ชราด้วย) แล้วผู้ชายที่ถักได้ต้องหวานๆ หรือไม่ใช่ชายแท้ ซึ่งผิดจ้า ผู้หญิงมีสิทธิ์ทำกิจกรรมลุยๆ เหมือนเพศชาย ผู้ชายก็ชอบกิจกรรมแม่บ้านหรือทำอาหารทำขนมมุ้งมิ้งได้ ไม่ผิด เรื่องความชอบกับเพศสภาพ เพศวิถี มันแยกกันเนาะ 

ถ้าใครอยากหามาอ่าน ลองเลย! แต่ไม่รู้ว่าได้ผลมั้ย...

ดูเพิ่มเติม





Who Cares About Elderly People? (Who Cares Series) เรื่องและภาพประกอบโดย Pam Adams และ Rachael Letch 

โอ้โห เห็นปกแล้วอยากด่าว่าหลานทรพี "แล้วใครสนใจคนแก่อะ?" ทำไมพวกเจ้าเป็นเด็กที่แย่เช่นนี้ พ่อแม่ไม่เคยเล่าให้ฟังเหรอว่าปู่ย่าตายายเป็นยังไง ใจร้าย ใจดำ อำมหิต

fact : จริงๆ เป็นซีรีส์ Who Cares ซึ่งเป็นชุดเสริมทักษะและความเข้าใจให้เด็กๆ เกี่ยวกับเรื่องต่างๆ รอบตัว ทั้งสถานที่ สิ่งของ และบุคคล โดยในเล่มนี้เกี่ยวกับคนแก่ไง พูดนัยว่าท่านต่างกับเรายังไงนะ แล้วเราควรดูแลท่านอย่างไร จริงๆ เป็นหนังสือที่ดีสำหรับสังคมที่เป็นครอบครัวเดี่ยวมีแค่ พ่อ-แม่-ลูก อย่างในสมัยนี้เลยนะ คนสมัยก่อนเรียนรู้จากการอยู่ร่วมกันในบ้านใหญ่ที่มีหลายรุ่น แต่สมัยนี้หายากแล้ว การเรียนรู้จากหนังสือก็ไม่เลวเลย

แต่ชื่อโคตรแสดงความเฉยเมย *ร้องไห้*

ดูเพิ่มเติม





How to Avoid Huge Ships โดย Captain John W. Trimmer

วิธีการหลีกเลี่ยงเรือใหญ่! บอกฝูงวาฬสินะ หรือฝูงเงือกที่กำลังว่ายน้ำไปร้องเพลงไป บางทีอาจจะบอกกัปตัน แจ็ค สแปร์โรว ผู้โดนขโมยเรือก็ได้ ใจดีจัง ไม่ก็บอกให้บรรดาสาวๆ ในแฟนด้อมหนังมาร์เวล หลีกเลี่ยงการชิปคู่ที่ป๊อบมากๆ ระดับเรื่องสำราญ!

fact :  ผิดหมดจ้า จริงๆ เป็นหนังสือเกี่ยวกับการพัฒนาตนเองล่ะ Huge Ships ในที่นี่คือการอุปมาอุปมัยว่าเรือใหญ่นั้นคือปัญหาที่ต้องเผชิญ แล้วเราจะทำยังไงเมื่อต้องเจอกับปัญหาตรงหน้า จะเลี่ยงอย่างไรได้ ถือว่าเป็นหนังสือที่เจ๋งเลยทีเดียว แม้การตั้งชื่อแบบอุปมาอุปมัยนี้จะทำให้คนอ่านสงสัยว่ามันคืออะไร แต่ฉลาดเลยนะ เราชอบ!

ดูเพิ่มเติม





Teach Your Wife to Be a Widow โดย Donald I. Rogers

อ่านหนแรกแล้วชะงัก พี่...ใจเย็นๆ นะ คือพี่ตั้งใจทำอะไร อย่าพยายาม suicide attempt นะ คนเรามีปัญหาอะไรบอกกันได้ พูดกันเถอะ 

fact : จริงๆ เป็นหนังสือที่ดีนะ! ดูรู้หรือไม่ว่าจริงๆ หนังสือเล่มนี้พูดถึงการเงินการลงทุน และการดำเนินชีวิต เป็นเรื่องของการแนะนำ และสอนให้ภรรยา/ผู้หญิง ได้รู้จักเรื่องการอดออม การลงทุน และมีแนวคิดเตรียมพร้อมสำหรับวันที่จู่ๆ สามีก็จากไปอย่างกะทันหัน เธอจะได้สามารถเป็นผู้นำแทนได้ แม้จริงๆ แล้วผู้หญิงสมัยนี้จะมีความสามารถด้านการเงินการลงทุนไม่น้อยหน้าผู้ชายแล้ว *มองบรรดาเพื่อนๆที่มีพอร์ตหุ้นของตัวเอง* แต่ไอเดียสำหรับเรื่องนี้ก็เจ๋งอยู่

ดูเพิ่มเติม





Natural Bust Enlargement with Total Mind Power: How to Use the Other 90 % of Your Mind to Increase the Size of Your Breasts โดย Donald L. Wilson

หน้าอกใหญ่ไม่ต้องพึ่งหมอ! สวยอย่างไรในราคา 0 บาท พลังจิตสิคือคำตอบ โอ๊ย นี่มันหนังสืออะไร *ร้องไห้*

fact : ก็เป็นอย่างบรรทัดบนแหละ แต่หมายถึงว่าแค่คิดก็อึ๋มได้...(หนักกว่าเดิม) มินิมอร์งงมาก ทำไมคนเราจะหน้าอกใหญ่ได้ด้วยพลังจิต โอ้โห หมอชื่อดังตามโรงพยาบาลตกงาน รายการ let me in ไม่ได้เกิด เออ...แต่อาจจะไม่มีกระแสเอาไฟฉายส่องหน้าอกให้ซิลิโคนเรืองแสงก็ได้นะ ว้าววว นี่เอง ประโยชน์มหาศาล *สแตนดิ้งโอเวชั่น*

ดูเพิ่มเติม





How to Raise Your I.Q. by Eating Gifted Children โดย Lewis Burke Frumkes

ต้ม ตุ๋น นึ่ง อบ เคี่ยว! สารพัดเมนูเพื่อสร้างสติปัญญา ด้วยการกินเด็กที่เปี้ยมด้วยพรสวรรค์! เฮ้ย ไม่น่าจะใช่แล้ววว

fact : เป็นหนังสือที่เรียกเสียงฮา และเสียดสี โดย Lewis Burke Frumkes ซึ่งมีชื่อเสียงทางด้านนี้อยู่แล้ว โดยการสร้างพฤติกรรมประหลาดๆ อ้างว่ามันจะอัพระดับสติปัญญาให้เราได้ ทำก่อนสอบจะได้คะแนนดี อ่านแล้วจะเพลินแน่นอน ขออย่างเดียวคืออย่าเชื่อและทำตาม ระดับความเหนือจริงสูงมาก 

ดูเพิ่มเติม




HELP! A Bear is Eating Me! โดย Mykle Hansen

...เหมือนป้ายเตือนระวังหมีกิน แบบ เตือนกันอย่างเป็นทางการ เฮ้ ข้างหน้านี้นะ จะมีหมีอยู่ล่ะ ถ้านายเข้าไปก็จะเจอหมีแน่ๆ เหมือนป้ายเตือนระวังที่ชุมชนให้ลดความเร็ว แบบนั้นเลยยยย

fact : เหมือนจะเป็นฟิคชั่นเกี่ยวกับคนที่ติดอยู่ในป่ารกร้างของอลาสก้า...ในรถ SUV ของตัวเอง ได้แต่รอคอยความช่วยเหลือจากหน่วยกู้ภัย โดยที่ข้างนอกนั่นมีสิ่งมีชีวิตลำดับบนสุดของห่วงโซ่อาหาร รออยู่...ปกนี้ตรงตัวมาก ไม่สามารถมองเป็นอย่างอื่นได้จริงๆ คารวะ!

ดูเพิ่มเติม





Hello Kitty Must Die โดย Angela S. Choi

"คิตตี้ต้องตาย" ทำไมต้องฆาตกรรมคิตตี้ของมนุษยชาติ ถึงมินิมอร์จะมีเพื่อนที่เกลียดแมวแอ๊บแบ๊วตัวนี้มาก แต่เพื่อนเราก็ไม่เคยคิดฆ่ามันนะ เอ๊ะลืมไป คิตตี้ไม่ใช่แมว คิตตี้เป็นเด็กผู้หญิง ทำไมคนคนหนึ่งถึงคิดฆ่าสาวน้อยที่อ่อนหวานและมีเสน่ห์ แล้วก็ยังมีชื่อเสียงดังไปทั่วโลกแบบนี้ คนใจไม้ไส้ระกำ!

fact : แท้จริงแล้วเป็นหนังสือนิยายที่พูดถึงผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งเกิดมาเป็นคนอเมริกันเชื้อสายเอเชีย การใช้ชีวิตท่ามกลางวัฒนธรรมอันสตรองสองสาย ทำให้การวางตนเป็นเรื่องยากลำบาก ไม่ว่าจะเป็นตอนเด็กหรือโต จะอเมริกันเต็มตัวก็เกรงใจทางบ้าน แสดงออกแบบเอเชียเต็มขั้นก็พานจะเข้ากับคนอื่นไม่ได้ จริงๆ ปัญหานี้น่าสนใจมาก เพราะหลายๆ งานวิจัยบ่งชัดเลยว่ามีความเหลื่อมล้ำทางสังคมสำหรับประชากรหลากเชื้อชาติในสหรัฐอเมริกาจริงๆ ล่าสุดที่เพิ่งได้ยินมาคือเพศชายได้เงินเดือนมากกว่าผู้หญิง O_O แล้วคนเอเชียได้เงินเดือนมากกว่าคนอเมริกัน น่าจะราว 0.9%-1.x% แต่เพราะอะไรล่ะ นิยายเรื่องนี้น่าจะสะท้อนสภาพแวดล้อมสังคมคนเอเชียได้ดีเลย

ดูเพิ่มเติม





Anybody Can Be Cool-- But Awesome Takes Practice (Devotionals for Teens) โดย Lorraine Peterson 

เห็นปกแล้วเสียงในใจมินิมอร์คือ "นี่กวนooกันเหรอ..." ก็ดูปกสิ เหมือนจะให้กำลังใจ ตบหัวแล้วลูบหลังชัดๆ เหมือนพี่คนนี้กำลังเล่าความเจ๋งของตัวเองอยู่ อธิบายไปจนหมดสิ้น แล้วก็บอกเด็กๆ ว่า เฮ้ย แต่ที่พี่ทำได้นี่เพราะพ่อแม่รวยหรอกนะแก ลาก่อน...

fact : จริงๆ เป็นหนังสือเชิงศาสนา เกี่ยวกับการพัฒนาตนเอง ค้นหาข้อดีของตัวเอง โดยอิงจากคำสอน แนะนำให้คนรักและภูมิใจในตนเอง และเอาจุดเด่นนั้นมาฝึกฝน มีคนไม่น้อยเลยที่ขาดความมั่นใจในตัวเอง เหตุผลคือไม่รู้ว่าตัวเองมีอะไรดีบ้าง หนังสือบอกให้คนเราเรียนรู้ตัวเองให้มากขึ้น หาความเจ๋งในตัวเองให้เจอ แล้วเมื่อเจอแล้วก็แสดงมันออกให้คนรู้บ้างก็ได้ อย่าเก็บงำไว้คนเดียว มันอาจจะช่วยคนอื่นได้ด้วยนะ

ดูเพิ่มเติม





Adolf in Wonderland โดย Carlton Mellick III 

ฮิตเลอร์หลับอยู่ใต้ร่มเงาไม้ใหญ่หลังจากประชุมกับพวกเกสตาโปแล้ว จู่ๆ รากไม้ก็เปิดเป็นโพรง ฮิตเลอร์ตะโกนออกไปว่า "ไฮ" แล้วก็ไม่มีใครตอบ "ไฮ ฮิตเลอร์" เลยเขาจึงกระโดดลงไปในโพรงนั้น และกินของที่่วางบนโต๊ะเข้าไป แล้วฮิตเลอร์ก็ตัวหดเล็ก อีกแป๊บฮิตเลอร์ก็ตัวใหญ่ แล้วยังมีฮิตเลอร์กับงานเลี้ยงน้ำชาของคุณกระต่ายและแมดแฮทเตอร์... ฮิตเลอร์ไปเจอราชินีแดงที่หัวโต *ซบหน้ากับฝ่ามือและพยายามล้างจินตภาพเหล่านั้น* 

fact : จะว่าเป็นดิสโทเปียได้ไหมนะ? (ร้องไห้) จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อฮิตเลอร์ไม่ได้แพ้สงคราม และอำนาจของเขาแผ่ไปทั่วโลก และครองโลกนี้อย่างเบ็ดเสร็จ  แม้ปกจะ...หวือหวาไปหน่อย แต่เป็นไอเดียที่น่าสนดีนะ นึกถึงซีรีส์เรื่อง The Man in the High Castle เลย

ดูเพิ่มเติม




Fart Proudly: Writings of Benjamin Franklin You Never Read in School โดย Benjamin Franklin

เอาจริงๆ มินิมอร์คิดว่ามันต้องเป็นบทความคูลๆ ของเบนจามิน แฟรงคลิน (รัฐบุรุษคนสำคัญของอเมริกา นับได้ว่าเป็นผู้ก่อตั้งชาติเลยนะ) แต่ก็ยังสงสัยเรื่องการตั้งชื่อ คือ...การตด กับรูปเบนจามิน แฟรงคลิน ....นึกว่าเป็นคอมิคล้อเลียนเถอะ

fact : เป็นหนังสือรวมบทความของเบนจามิน แฟรงคลินจริงๆ โดยเป็นข้อคิดที่ตั้งชื่อได้หยิกแกมหยอก อย่าง "On Choosing a Mistress" ...คือต้องลองไปอ่านแหละ ถึงจะรู้ว่ามิสเทรสที่ว่านั่น หมายถึงผู้หญิงเฉยๆ หรือเมียเก็บ ดูตั้งชื่อเข้า ท่าทางเป็นคนสนุกนะ

ดูเพิ่มเติม





COOKING WITH POO โดย Saiyuud Diwong

เหยยยย เราคนไทย เราก็รู้แล้วว่าเป็นหนังสือสอนทำอาหารโดยคุณปู แต่คนทำปก ทีมงาน ตั้งใจมั้ยยย เพราะคำว่า poo ในภาษาอังกฤษแปลว่าอุจจาระไง แล้วคุกกิ้ง-วิธ-ปูคือ...ทำอาหารจาก... นี่มันไม่ใช่คุกกี้อึของยัยแม่บ้านในเรื่อง The Help นะ!

fact : เหมือนข้างบนเลย เราแก้ต่างให้แล้ว ไม่รู้จะอธิบายยังไงดี แต่ว่าหนังสือเล่มนี้เลื่องลือมาก!

ดูเพิ่มเติม


เล่มสุดท้ายแล้วววว



Bitch Are You Retarded?: Stop Being a Dumbass! Either He Loves You, He's in Love with You, or You're Just Something to Do for Right Now. Either Way, Learn the Difference, and When to Walk Away. โดย Carlos J. Lee

เป็นหนังสือที่เห็นแล้วบอกว่าพี่...ใจเย็น วางถุงกาวลงก่อน มีอะไรค่อยๆ พูดค่อยๆ จานะพี่นะ ทีแรก(ก่อนดูชื่อและพบว่าคนเขียนเป็นผู้ชาย) คิดว่าคนเขียนนางต้องเป็นอาเจ้ที่ต้องการจะสอนสาวๆ ให้มีสติในการคบหาคนแน่ๆ แบบ ชะนีน้อยฟังเจ้นะลูก เจ้มีอะไรจะสอน แต่พอเป็นผู้ชาย....หรือพี่คาร์ลอสเขาจะเป็นพี่สาว...??

fact : ความจริงคืออออ พี่คาร์ลอสเขาหล่ออออ เขารวยยย เขาเป็นเพลย์บอยตัวพ่อ เลยเขียนหนังสือสอนบรรดาสาวๆ ว่าเหยย เธอ ผู้ชายเขามีไมด์เซ็ทแบบนี้ ในช่วงระยะกำลังอินเลิฟพฤติกรรมเขาจะเป็นแบบนี้ อย่ามโนไปเองว่าเขารัก แล้วถ้าจะทิ้งผู้ชายควรทำตอนไหน ตอนที่เขาหมดรักแล้วหรือเปล่า

ดูเพิ่มเติม



การได้ทำเรื่องนี้ ทำให้รู้ว่าชื่อหนังสือนี่มันช่างหลากหลายจริงๆ บางอย่างก็พลาด บางเล่มก็มีความหมายแฝงอยู่ในเนื้อหา ต้องอ่านเรื่องราวถึงจะเข้าใจได้ทั้งหมด แต่กับบางชื่อนี่รู้เลยว่าตั้งชื่อเรียกแขก แล้วก็ได้ผลด้วย! ถ้าวันหนึ่งเพื่อนๆ มีหนังสือเป็นของตัวเองจะตั้งชื่อว่าอะไร แล้วเขียนแนวอะไร เล่าให้มินิมอร์ฟังได้นะ


ขอบคุณที่มาของภาพและข้อมูลจาก
boredpanda.com
mentalfloss.com
huffingtonpost.com
amazon.com
goodread.com