หลายๆ วงการในโลก เริ่มนำไอเดียที่เคยผ่านมาแล้ว มารีไซเคิลใช้ใหม่กันทั้งนั้นนะครับ ที่เห็นชัดๆ เลยก็วงการมือถือ ที่ปากกา Stylus เริ่มกลับมามีอิทธิพลกันอย่างเห็นได้ชัด หลังจากที่โดนด่ากว่าล้าหลังไปเมื่อหลายปีก่อน
วงการ sneaker ก็เช่นกัน ปี 2015 ก็เป็นปีแห่งการเอาของเก่ามา ‘Retro’ รีไซเคิลใหม่เช่นกัน และนี่คือ 5 Sneaker ที่ Mass สุดๆ แห่งปี 2015
Nike Airmax 90
Nike Airmax 90 ถูกวางขายครั้งแรกในปี ค.ศง 1990 ในชื่อ Nike Airmax III แต่พอหลังปี 2000 เป็นต้นมา ก็รู้จักกันในนาม Nike Airmax 90 ตามปีแรกที่วางขาย ถือเป็นรองเท้าคู่แรกๆ ของไนกี้ที่เห็นหลอดแอร์อยู่ตรงพื้น ซึ่งก็ขายดีตามเรื่องตามราว แล้วไม่รู้ยังไง จู่ๆ ปีนี้ ก็กลับมาดังเปรี้ยงปร้างอีกครั้งซะงั้น เห็นกันทุกหัวระแหง จนทุกวันนี้แยกไม่ออกแล้วว่าคู่แท้ คู่ไหนเทียม แต่เดิม Airmax 90 วางขายในสี Infrareds (ตามรูป) แต่ปัจจุบัน Airmax 90 มีสี...นับไม่ถ้วน
Converse All Star Chuck Taylor II
ไม่ต้องอธิบายอะไรกันแล้วแหละสำหรับ All Star Chuck Taylor เพราะพวกเราเกิดมาก็เห็นไอ้รองเท้าคู่นี้กันแล้ว แต่ถ้าจะให้เล่ากันจริงๆ All Star Chuck Taylor วางขายครั้งแรกเมื่อปี 1917 และไม่เคยเปลี่ยนดีไซน์อะไรเลยจนกระทั่งปี 2013 Nike ได้เข้าซื้อบริษัท Converse และในปี 2015 ปู่ Chuck Taylor ก็ได้รับการอัพเกรดครั้งแรกในรอบ 98 ปี! โดยเปลี่ยนวัสดุให้ดีขึ้น และเปลี่ยนพื้นรองเท้าซะใหม่ โดยใส่เทคโนโลยีพื้น Lunarlon Sockliner ของ Nike ให้นุ่มขึ้น ทำเอาหลายๆ คนเห็นแล้วใจคอไม่ดีเอาเลยทีเดียว (แต่ดูรูปแล้วมันก็...เหมือนเดิมนะพี่)
Adidas Ultra Boost
จะเรียกว่า Adidas เป็นลูกไล่ Nike ก็ไม่ผิดนัก เพราะทำอะไรออกมาคนก็ไม่ค่อยชอบ ดีไซน์แปลกๆ เหมือนจะดีแต่เดี๋ยวนะ...(ดูได้จาก adidas blade runner หรือดูได้จากซีรีย์รองเท้าบอลโลกที่ผ่านมา...อัลไลของแก) จนเมื่อปี 2012 Adidas ได้นำสิ่งที่เรียกว่า Boost Technology มาอวดชาวโลก พูดกันแบบชาวบ้านคือ พื้นรองเท้าหน้าตาเหมือนโฟมแพ็คทีวีโลตัส...ชาวโลกก็แบบ...เหรอ? อืม...มันก็มีคนชมแหละ แต่ก็ไม่ได้ปังอะไร
แต่มาปี 2015 Adidas Ultra Boost เท่านั้นแหละ ขายกระจุยเว๊บไซต์รองเท้าทั่วโลกต่างยกให้เป็นรองเท้าวิ่งที่นิ่มที่สุด ที่ดีที่สุดของโลก (แต่แพงชมัดเลยนะ)
แต่มาปี 2015 Adidas Ultra Boost เท่านั้นแหละ ขายกระจุยเว๊บไซต์รองเท้าทั่วโลกต่างยกให้เป็นรองเท้าวิ่งที่นิ่มที่สุด ที่ดีที่สุดของโลก (แต่แพงชมัดเลยนะ)
Nike Roshe Run
ดังกันข้ามปีกันละคู่นี้... Nike Roshe Run วางขายครั้งแรกเมื่อปี 2012 คำว่า Roshe มาจากคำว่า Roshi ที่แปลว่า “ท่านอาจารย์” ในภาษาญี่ปุ่น เพราะรองเท้าคู่นี้ออกแบบตามหลักเซน คือมีแต่สิ่งจำเป็นเท่านั้น พื้น และสิ่งที่มาห่อเท้า ไม่มีเทคโนโลยีอะไรหวือหวา เอาแค่นี้แหละ...นะ
ดังนั้น Roshe Run จึงเป็นรองเท้าไนกี้เพียงไม่กี่รุ่นที่ราคาไม่แพง (วางขายครั้งแรกในไทย ราคาไม่เกิน 2,000 บาท)
ตอนนี้เหรอ มีขายกันตั้งแต่ shop nike siam ยันแผงตะวันนาแถวราม และราคาก็ขึ้นเรื่อยๆ จนคนไม่ซื้อใส่กัน เพราะถ้าจะจ่ายเงินขนาดนี้ซื้อไอ้ผ้าห่อเท้าแบบนี้ เพิ่มเงินอีกนิดไปซื้อ Airmax 90 ดีกว่า
Adidas Supercolor
Adidas Superstar ถือว่าเป็นรองเท้าโคตรรีเมคของ Adidas รีเมคบ่อยมาก ประมาณบ้านทรายทองของวงการทีวีบ้านเรา รีเมคทีก็จะออกมา สามสี นิดๆ หน่อยๆ คนซื้อก็มักจะบ่นกันกระปอดประแปดว่า ทำไมไม่ทำสีนั่นบ้างสีนี้บ้าง มาปี 2015 ครับ Adidas ไปจับมือกับ Pharrell Williams นักร้อง นักแต่งเพลง + Producer + Designer + Fashion influrencer (คนมันจะเป็นอะไรให้เยอะแยะวะ?) ออกรองเท้ารุ่น Adidas Supercolor ทีเดียว 50 สี! (โหดสัด)
แล้วเป็นไง...สู้รบตบตีแย่งกันอยู่ 3-4 สีเหมือนเดิม (อ่าวอินนี่)