อั นตั ว เ ร า เ กิ ด ม า มิ รู้ สิ่ งอั น ชี ว า ใ ช่ ว่ า จ ะ รู้ แ จ้ งอั น สั ง ข า ร สิ้ น แ ล้ ว มิ ย้ อ น ม าอั น วิ ญ ญ า เ ลื อ น ล า ลั บ ห า ย ไ ป(ขอ) ดวงจิตลาแล้วสู่โลกภูมิ...
ดวงดาราที่พร่างพรายบนนภา สุกสกาววาววับสุกสดใสดั่งแววตาของ เ ธ อ ที่จ้องมา ที่ได้ซึ้งติดในใจไม่เลือนหายหมู่เมฆคล้อยเคลื่อนมาผ่านเลยไป เปรียบกาลเวลาที่ต้องเดินวินาที แต่ฉันจะยังคงเฝ้าคอย ดวงจันทราดวงนั้นคืนกลับมาจะยืนรอที่เดิม...
ยามคุณเสียใจกับเรื่องราววันนี้ เมื่อตอนคุณร้องไห้กับเรื่องเมื่อวาน ให้ฉันได้ยืนตรงนี้ได้ฟังเรื่องราวเหล่านั้นได้ไหม " ให้ฉันได้เป็นคนนั้น " ที่เล่าเรื่องที่ทำให้คุณหัวเราะได้ไหม ให้ฉันได้เป็นเรื่องราวที่ทำให้คุณยิ้มได้ . . .จะได้ไหม...
ผมไม่อาจบอกได้ว่าคุณควรใช้ชีวิตอย่างไร ผมไม่สามารถบอกคุณได้ว่าต้องทำยังไงถึงจะประสบความสำเร็จ ผมไม่สามารถยื่นความสุขให้คุณได้ แต่รู้ไว้เถอะนะว่าทุกช่วงเวลาที่คุณกำลังดำเนินไป ผมก็กำลังเดินทางกับชีวิตของผม เราต่างกำลังเขียนเรื่องราวของตัวเอง " กับการตัดสินใจที่เราเลือก "...
ในราตรีไฟเลือนลาง ท่ามกลางดนตรีที่บรรเลงไป " คุณเดินเข้า "มาจุดประกายความมืดมิดให้สิ้นไป สายตาละมุนคู่นั้นแอบซ่อนความซุกซน แอบเข้ามาวกวนในความคิดของฉันไม่ลางไป อย่าไปสนใครมองว่าไง ให้คุณมองที่ฉันดื่มด่ำไปกับค่ำคืนนี้ ให้มีเพียงแค่เราสองใต้แสงดาว...
ท่องนภาจันทราดาราส่อง ชั่วข้ามคืนเราสองได้เปลี่ยนผัน ผ่านเวลากาลพ้นคืนวันหาย บรรจบกลับมาเคียงชิดคู่ คนึงจิตกลิ่นกายามิรู้คลาย จะกล่าวคำหวานวาจาให้ใจชื่น ให้ใจชื้นชีวันไม่เคลือนหาย...
ในเส้นทางมืดมิดที่ไร้ผู้คน โดดเดี่ยวไปกับถนนที่ว่างเปล่า จิตใจวกวนข้างในไม่มีใครเข้าใจได้เลย แต่ในทันใดในความเงียบเหงา เหมือนแสงสว่างได้ส่องขึ้นมา " เ ธ อ คนนั้น " ที่ปลุกฉันจากฝันมืดมนเป็นดั่งดวงดาราที่พร่างพราวบนนภาเป็นแสงส่องทางให้ฉันได้มีลมหายใจ...
แม้ไกลเพียงดวงจิต แต่ฉันจะไม่ปล่อยมือไม่ให้เธอไกลห่าง ผูกใจไว้พันเกี่ยวกัน แม้โชคชะตากำหนดหรือฟ้าดินได้ขีดไว้ ไม่ให้ใครยุ่งเกี่ยวพรากเธอจากฉันไป ฉันจะขอเขียนบทรักนี้ด้วยตัวเองให้เธออยู่ในอ้อมกอดที่สองมือโอบประคอง...
ค่ำคืนนี้อาจเหน็บหนาว เหมือนหมอกร้ายพัดคลุมคลอบงำหัวใจ ท่ามกลางความอ้างว้างที่แสนเดียวดาย เหมือนดังกาลเวลาขีดลิขิตเธอมา ให้เราใกล้ชิดกันสัมผัสให้ลึกลงไป ให้ฉันได้มาพบเจอ พันผูกเชื่อมเยื่อใยสองเราไปนิรันดร์ ความจริงที่ซ่อนในเศษหนึ่งของหัวใจ...
เหมือนกับว่าความเหนื่อยล้าในวันวานได้หายเป็นปลิดทิ้งไปทันทีเมื่อพบคุณ ทำไมกันนะ แสงสว่างเหมือนพระอาทิตย์ยามเช้า กลับเป็นใบหน้าคุณที่กำลังส่งยิ้มมา สายฝนที่ดูน่าเบื่อ กลับดูอบอุ่นขึ้นเมื่ออยู่ในอ้อมกอดคุณ แดดร้อนยามสาย กลับดูช่างสดใสเมื่อเดินข้างคุณ...
เพราะหัวใจของฉันมันเต้นเป็นจังหวะ มันสั่นระรัวจนแทบอกจะหัก เ พี ย ง แ ค่ คุ ณ ยิ้ ม ม า{ }แ ค่ คุ ณ เ ดิ น เ ข้ า ม า เพราะทำนองที่มันกู่ก้องดังสนั่น ราวมนต์สะกดให้สองเรามาสบัด บรรเลงคลอเคลียไปตามเสียงเพลง ใต้ฟลอร์คืนนี้คงไม่เ ดี ย ว ด า ย...
ให้เสียงเพลงของฉันนั้นคอยขับกล่อม ให้เรื่องราวได้เดินทางไป ปล่อยเวลาให้เดินช้า " ค่อยเดินช้าๆ " ให้สองเราได้มีเวลาพูดคุย ฟังเสียงกันแล้วสบมองกัน แววตาที่บอกซึ้งว่าข้างในลึกๆว่ า ทำ น อ ง ที่ เ รี ย บ เ รี ย ง ขึ้ น ม า ล้ ว น ม า จ า ก คุ ณ...
ส บ ต า กั บ คุ ณ ใ ห้ น า นติ ด ต รึ ง น า ที นี้ เ อ า ไ ว้ ทั้ ง ห ม ด " ความรัก " ที่ มีวันวานผ่านคืนพ้นตลอดจนนิ รั น ด ร์ ไ ม่ เ ป็ น ไ ร { }ไ ม่ ต้ อ ง ร้ อ ง ค่อยๆเกลี่ยหยดน้ำตาที่มันไหลริน แค่เพียงได้จับมือจากคุณสักครา ไ ด้ เ อ่ ย คำ ร่ำ ล า ที่ ก ลั่ น ข้ า ง ใ น ก่ อ น ที่...
โ อ้ ยอดดวงใจ อย่าหายหน้าหนีไปจากพี่เลยไ ด้ โ ป ร ด รั บ ฟั ง คำ พู ด ว า จ า ที่ พี่ ลื ม ห ล ง จะโกรธจะเคืองด้วยเหตุผลใด ขอตัวเจ้าอย่าได้ห่างไกล ตัวพี่นั้นพร้อมยอมทั้งใจ แม้หัวใจพี่นั้นแทบร้าวราน แ ต่ ข อ รั ก มั่ น ใ น ฤ ทั ย ให้วันวานของเราสองคน ได้เดินหน้าจับมือกันไป . . . -- ไ ม่ ห น่ า...
บ้ า น ที่ ล็ อ ค ปิ ด กั้ น โ ล ก ข อ ง คุ ณ อาจเป็นจักรวาลที่คุณต้องเรียนรู้ ก่อนเผชิญกับดาวเคราะห์ดวงอื่น ลองเปิดประตูบานนั้น สักวันคุณคงจะพบกับเส้นทาง " ที่ เ ป็ น ข อ ง คุ ณ เ อ ง " เมื่อถึงวันนั้นเมื่อไหร่ หวังว่าคุณจะเดินตามเสียงหัวใจ และซื่อตรงกับความรู้สึกของคุณเอง ...