แม้ประเทศไทยของเราจะโชคดี๊ดีที่ตั้งอยู่ในจุดที่ไม่ค่อยเกิดภัยธรรมชาติร้ายแรงมากนัก (แผ่นดินไม่ไหวจนเวอร์ ภูเขาไฟให้ระเบิดก็ไม่มี พายุหนัก ๆ ก็ไม่ค่อยเห็น) แต่ขึ้นชื่อว่าภัยอันตรายมันก็อาจจะมาจากน้ำมือมนุษย์และสิ่งรอบตัวนี่เอง แต่ไม่ต้องห่วงไป เพราะวันนี้มินิมอร์จะพามาดูวิธีตรวจสอบและป้องกันภัยอันตรายต่าง ๆ แบบไทย ๆ ที่เชื่อว่าถ้าได้รู้แล้วเราคงจะใช้ชีวิตไปไหนมาไหนด้วยความมั่นใจ และสตรองขึ้น (เหรอ?) บ้างแน่นอน
gifsec.com
1.เมื่อมีไฟรั่ว กทม.ส่งคนเท้าเปล่าไปคุกเข่าตรวจสอบ
เริ่มต้นกันที่ภัยใกล้ตัวเลเวลแรก ซึ่งคงจะหนีไม่พ้นปัญหาไฟดูด ที่เป็นปัญหาในบ้านเรือนทั่วไป แต่ละบ้านก็มีวิธีป้องกันแตกต่างกันไป ทั้งป้องกันด้วยเซฟตี้คัท ตัดก่อนตาย หรือหมั่นตรวจสายไฟเป็นประจำเท่านี้ก็อุ่นใจไปได้หนึ่งระดับ
แต่เดี๋ยวก่อน แล้วถ้าเป็นปัญหาไฟรั่ว ในระดับเสากล้อง CCTV ของกทม.ล่ะ ? เราคนไทยก็ไม่ต้องห่วงไป เพราะ กทม.เขาพร้อมส่งเจ้าหน้าที่กระจายกำลังลงพื้นที่ตรวจสอบ โดยใช้วิธีทดสอบแบบพอเพียงไม่ต้องอาศัยเครื่องไม้เครื่องมืออะไรมาก ด้วยการให้เจ้าหน้าที่ไม่สวมรองเท้า เอาเท้าแตะพื้นดิน แล้วเอามือจับที่เสาไฟ ถ้าโดนดูดก็จะเห็นได้จากอาการชักของเจ้าหน้าที่นั่นเอง (ช่างเสียสละยิ่งนัก ผู้ว่าฯ กทม.ต้องยกนิ้วให้เลยทีเดียว)
อ้อ ผลการตรวจสอบเบื้องต้น ยังไม่พบเสาที่มีไฟรั่วนะ ยังไงมินิมอร์ก็ขอปรบมือดัง ๆ ให้กับความเสียสละของเจ้าหน้าที่ กทม.ทุกท่านจากใจ
giphy.com
2.GT200 เครื่องตรวจสอบวัตถุระเบิด พลังเฉื่อย
มาต่อกันที่เลเวล 2 เมื่อระดับความอันตรายเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด หากเราต้องเผชิญกับวัตถุต้องสงสัยอย่างระเบิด แต่ไม่ต้องตื่นตระหนกเพราะประเทศไทยของเราก็มีเครื่องตรวจสอบวัตถุระเบิดรุ่น GT200 ที่จะชี้ไปในทางที่มีวัตถุระเบิดอยู่ (เจ๋งจัง) โดยประเทศไทยก็นำเข้ามามากถึง 1,100 เครื่อง รวมมูลค่ากว่า 1.13 พันล้านบาท (เห็นรูปร่างเหมือนกระป๋องฉีดยุงอย่างนั้น เครื่องละเป็นล้านเชียวล่ะ)
แม้สุดท้ายผลการตรวจสอบจะออกมาว่าเจ้าเสาอากาศท่อฉีดยุงที่เห็นชี้ไปมา นั้นเป็นเพราะมันเคลื่อนที่ไปตามแรงเฉื่อยของผู้ถือเท่านั้น แต่อย่างน้อยที่สุดเราก็เห็นความตั้งใจของกองทัพที่ทุ่มทุนเสมอในการดูแลประชาชนตาดำ ๆ อย่างพวกเราให้ปลอดภัย ซึ้งใจจริง ๆ
news.sanook.com
gifsec.com
3.ตรวจกระเป๋าฉับไว แบบฉบับป้าไสว ซีไอเอ แห่งรถไฟฟ้า
4.'จ่าเฉย'ตำรวจผู้ป้องกันภัยจราจรอย่างแข็งขัน (แข็งมากบอกเลย)
นักซิ่งตีนผี มนุษย์จอมปาด แก๊งค์ฝ่าไฟแดง สารพัดภัยสังคมบนท้องถนนทั้งหลายต้องหลบไป เมื่อเจอกับ'จ่าเฉย'! นวัตกรรมป้องกันภัยจราจรแบบไทย ๆ โดยจ่าเฉยถือกำเนิดขึ้นครั้งแรกเมื่อ พ.ศ. 2550 มีจุดประสงค์เพื่อป้องปรามผู้ขับขี่ไม่ให้กระทำผิด และเพื่อลดอุบัติเหตุ กลางค่ำกลางคืนใครผ่านมาเปลี่ยว ๆ เจอจ่าเฉยก็ต้องมีผวาเกรงกลัวจนไม่ทำผิดกฏจราจรขึ้นมาบ้างแหละน่า
lomography.com
lomography.com
5.อุทกภัยต้องหลบไป เมื่อเจอสิ่งศักดิ์สิทธิ์ไล่น้ำ
ถ้าพูดถึงอุทกภัยครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 10 ปีของไทยก็คงจะหนีไม่พ้นภัยน้ำท่วมใหญ่เมื่อปี พ.ศ.2554 ที่ได้รับความเดือดร้อนต้องลอยคอหนีน้ำกันถ้วนหน้า แต่พ่อเมือง กทม. อย่างท่านผู้ว่าฯก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ นอกจากทำงานหนักแข็งขันตรวจพื้นที่แล้ว ก็ถือคติว่าถ้าป้องกันไม่ได้ด้วยเล่ห์ก็ต้องเอาด้วย ซึ่งถ้ากลไม่ได้ก็ต้องพึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์กันดูซักตั้ง!
siamtownus.com
พิธีไล่น้ำหน้าศาลหลักเมืองกรุงเทพฯ จึงเกิดขึ้น โดยเป็นการขอพรจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์เพื่อให้น้ำลดลง มีทั้งพิธีบวงสรวง (ตามแบบพราหมณ์) ทั้งพิธีเจริญพระพุทธมนต์ และอัญเชิญพระพุทธรูปปางห้ามสมุทรมาด้วย (สาธุ) แม้สุดท้ายจะห้ามน้ำยังไงก็เอาไม่อยู่ แต่เราก็ได้เห็นน้ำใจและการช่วยเหลือกันเมื่อภัยมาในทุกกระบวนท่าไม้ตายเท่าที่จะนึกออกจริง ๆ
เป็นความโชคดีของเราที่ได้เกิดมาในประเทศที่รักสงบและมีภัยอันตรายใหญ่ ๆ น้อยเหลือเกิน วิธีตรวจสอบป้องกันภัยแบบไทย ๆ ก็เลยเป็นแบบสบาย ๆ ตามไปด้วย คงจะดีไม่น้อยเราเป็นทั้งประเทศที่สงบสบายไปพร้อม ๆ กับมีมาตรการรักษาความปลอดภัยอย่างเคร่งครัดจนอุ่นใจกัน ว่าไหม
ที่มา : kapook.com, manager.co.th,Salmon house, thairath.co.th