Eatigo แอพฯสุดเจ๋งสำหรับคนรักอาหารและการลดราคา

เรื่องกินนั้นเป็นเรื่องใหญ่สำหรับคนไทยเสมอ ไม่ว่าจะไปที่ไหนสิ่งที่เราไม่เคยขาดแคลนก็คืออาหาร ตั้งแต่ในร้านหรูคู่ดาวมิชลินไปจนถึงเพิงอาหารตามสั่งริมถนน นี่จึงเป็นต้นทุนที่ทำให้เกิดธุรกิจเกี่ยวกับอาหารผุดขึ้นเต็มไปหมด แต่สิ่งหนึ่งที่ยังไม่มีใครเข้าไปจัดการก็คือเวลาซึ่งเป็นทรัพยากรที่มีมูลค่ามากที่สุดสำหรับทุกคน และแอพพลิเคชั่น Eatigo ก็ตอบโจทย์นี้ได้อย่างดีเยี่ยม



ว่ากันว่าเมืองไทย ล้มลงไปตรงไหนก็เจอของกิน เพราะอาหารเป็นส่วนสำคัญของวัฒนธรรมการใช้ชีวิตของคนไทยมาตั้งแต่ครั้งยังพายเรือขายของตามคลอง จนกระทั่งทุกวันนี้มีตัวเลขร้านอาหารจำนวนกว่าสองแสนร้านในปัจจุบัน จึงไม่ใช่ตัวเลขที่น่าแปลกใจ แต่แม้จะเป็นเช่นนี้ ร้านอาหารไม่น้อยก็ต้องเจอกับช่วงเวลานั่งตบยุงในแต่ละวันไม่ต่างกัน 

โต๊ะว่าง ก็ไม่ต่างจากห้องว่างในโรงแรม หลุยส์—ภูมินทร์ ยุวจรัสกุล ผู้ทำธุรกิจโรงแรมมาก่อนจึงมองเห็นโอกาสใหม่ๆ จากช่วงเวลาที่ร้านอาหารมีคนเข้าน้อย ยื่นข้อเสนอให้ร้านต่างๆ ใจป้ำยอมลดราคาให้สูงสุดถึง 50% ด้วยเครื่องมือที่ชื่อว่า Eatigo ซึ่งเป็นแอพพลิเคชั่นจองร้านอาหารออนไลน์ที่มอบส่วนลดให้แก่ผู้ที่จองโต๊ะร้านอาหารโดยไม่คิดค่าบริการ ซึ่งแตกต่างจากการซื้อดีลไว้ก่อน แต่ยังไม่รู้ว่าร้านเป็นยังไง ต้องสั่งเมนูอะไรบ้าง

ระบบการจองของแอพฯ นี้ทำให้เราสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติเพียงแค่กดจองโต๊ะตามเวลาที่สะดวก เลือกกินอาหารที่ชอบจ่ายเงินตามส่วนลดที่เลือกไว้ เป็นการให้แต่ละคนมีสิทธิ์ออกแบบประสบการณ์ของตัวเองได้อย่างอิสระ ทำให้ร้านอาหารไม่ต้องเตรียมวัตถุดิบเพื่อทำเมนูที่ขายดีลไปจำนวนมากเกินพอดี เพราะทำให้ร้านกำหนดได้อย่างคร่าวๆ ด้วยว่าจะมีลูกค้าเข้ามากี่คนในแต่ละวัน ส่วนฝั่งผู้ที่มาใช้บริการก็ได้ทั้งอิ่มทั้งประหยัด แถมยังเป็นการเปิดโอกาสให้กล้าลองจองกินร้านใหม่ๆ ที่ยอมลดไม่อั้นอีกด้วย ซึ่งรายได้ของตัวกลางอย่าง Eatigo นั้นจะมาจากการเก็บค่าหัวตามจำนวนผู้ใช้บริการเพื่อลดความยุ่งยากในการคำนวณ 

ปัจจุบันนอกจากเราจะเห็นโฆษณาแอพลิเคชั่นนี้ทั่วเมืองแล้ว ยอดดาวน์โหลดใช้งานที่ 500,000 ครั้ง และอัตราการเติบโต 20-25% ต่อเดือน ก็น่าจะบ่งบอกความสำเร็จของพวกเขาได้ประมาณหนึ่งเลยทีเดียว แต่สำหรับหลุยส์แล้วการทำธุรกิจของเขาไม่มีคำว่าฟลุก การโปรโมตแอพพลิเคชั่นในระยะเริ่มแรกนั้นใช้กลยุทธ์ดึงดาราที่มีชื่อเสียงมาเป็นพรีเซนเตอร์ เพื่อให้ร้านอาหารเชื่อมั่นในแบรนด์ บวกกับการลงทุนด้านสื่อไปกว่า 70 ล้านบาท เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในระยะยาว 

“ทุกอย่างที่เราทำคือสิ่งที่วางแผนไว้ตั้งแต่วันแรก” ทุกอย่างที่ว่านั้นหมายถึงความตั้งใจที่จะขยายธุรกิจไปยังระดับเอเชีย จึงเลือกใช้ระบบบัญชีมาตรฐานสากล และทดลองตลาดในไทยเพื่อเก็บข้อมูลผู้บริโภคของประเทศกำลังพัฒนา ส่วนสิงคโปร์ก็เป็นตัวแทนสำหรับประเทศพัฒนาแล้ว จึงทำให้ง่ายต่อการขยับขยายไปยังประเทศอื่นๆ ที่ใหญ่ขึ้น 

ทุกวันนี้โลกใบใหญ่ในสายตาของพวกเขาเล็กลงเรื่อยๆ เมื่อยักษ์ใหญ่อย่างเฟซบุ๊กและกูเกิลเป็นฝ่ายติดต่อเข้ามาหาพวกเขาด้วยตัวเอง หลุยส์มองว่าในเมื่อโมเดลนี้ได้ผลสำเร็จเป็นอย่างดี หลังจากนี้ไม่นานเราน่าจะได้เห็นบริการรูปแบบเดียวกันในธุรกิจเสริมความงาม สปา และบริการต่างๆ ที่ยังมีช่องโหว่เรื่องเวลาตามมาอีกเพียบ  

แน่นอนว่าทั้งหมดนี้เป็นความคิดที่ถูกวางรากฐานไว้อย่างแน่นหนาตั้งแต่วันแรก