Bangkok Dangerous : คู่มือเอาตัวรอดให้ปลอดภัยใน กทม.

การใช้ชีวิตในกรุงเทพฯ เมืองหลวงแสนศิวิไลซ์และเต็มไปด้วยโอกาสจะว่าเป็นเรื่องสะดวกสบายก็สะดวกสบายสุด ๆ ไปเลย ทั้งอาหารการกินที่มีสารพัด ทั้งแหล่งงาน แหล่งเงิน แต่ถ้าจะพูดถึงเรื่องดราม่าจากการใช้ชีวิตในเมืองหลวงแห่งนี้ ก็บอกได้เลยว่า ดราม่าในเดอะเฟซไทยแลนด์จะต้องอาย ทั้งปัญหาแท็กซี่ที่เรียกสิบคันไปหนึ่งคัน ทั้งน้ำท่วมขังชวนให้ลงไปเล่นน้ำตอนฝนตก ฯลฯ วันนี้มินิมอร์เลยจะพามาดู 5 วิธีมีชีวิตรอดปลอดภัยเมื่อต้องใช้ชีวิตในกรุงเทพฯ (I Will Survive!)


giphy.com


1.มองถนนหนทางทุกย่างก้าว เพราะตกท่อขึ้นมาไม่มีเงินเยียวยาให้นะ บอกเลย 

ใครจะไปนึกว่าทางเท้าที่เราใช้กันอยู่ทุกวันจะนับเป็นอีกด่านอันตรายของกรุงเทพฯ ที่ต้องระวังให้มากถ้าอยากมีชีวิตรอด! เพราะถ้ามีท่อไหนชำรุด ท่อไหนลืมปิด แล้วเผลอเดินตกลงไปล่ะก็ ผู้ว่าฯเขาออกมาบอกแล้วนะว่า "ระเบียบราชการยังไม่มีข้อกำหนดให้สามารถมอบเงินช่วยเหลือเยียวยาใด ๆ"

เพราะอย่างนั้นก็ควรเดินอย่างระมัดระวังตัวเอง มองถนนหนทางให้รอบคอบ อย่ามัวเล่นแต่มือถือหรือคุยกับคนข้าง ๆ เพลินล่ะ จะได้ปลอดภัยไปอีกหนึ่งอย่าง แต่ถ้าเกิดตกท่อบาดเจ็บฉุกเฉินขอให้สตรองเข้าไว้แล้วโทรหาหน่วยแพทย์ฉุกเฉินได้ที่เบอร์ 1646

2.อันตราย! อย่าแตะเสาไฟซี้ซั้ว เพราะไฟอาจรั่วเมื่อไหร่ก็ได้

เพิ่มเลเวลความอันตรายขึ้นมาอีกระดับ เมื่อมีผู้เสียชีวิตจากไฟฟ้าที่รั่วออกมาจากเสา CCTV ของกทม. แต่เจ้าหน้าที่กทม.เขาก็ไม่ได้นิ่งดูดายนะ ออกมาตรวจเสาต้นนั้นเหมือนกัน แต่ตรวจแล้วไม่พบปัญหา แถมเจ้าหน้าที่แนะนำด้วยว่า "ถ้าใครถูกไฟช็อตให้ถ่ายรูปไปให้ดู"

ดังนั้นมินิมอร์ขอเตือนไว้เลยว่าห้ามเอามือไปแตะเสาไฟ เสา CCTV ซี้ซั้ว (ว่าแต่มีใครชอบเอามือไปแตะเสาไฟด้วยเหรอเนี่ย) แต่ถ้าพบเห็นไฟรั่วหรือถูกไฟช็อตก็อย่าลืมควักมือถือขึ้นมาถ่ายรูปตามที่เจ้าหน้าที่เขาบอกล่ะ (ควรไปโรงพยาบาลก่อนดีไหม) และถ้าพบเหตุฉุกเฉินก็ตั้งสติให้มั่นแล้วโทรเรียกหน่วยกู้ชีพ วชิรพยาบาลได้ที่เบอร์ 1554 

3.เลี่ยงที่มืด ที่เปลี่ยว เพราะเกิดอันตรายขึ้นมา กล้อง CCTV ไม่เกี่ยวนะ

แม้จะมีเสา CCTV ที่พร้อมปล่อยกระแสไฟรั่วออกมา แต่ไม่ได้แปลว่าทุกเสาจะมีกล้องนะ แถมจุดที่มีกล้องผู้อำนวยการสำนักการจราจรและขนส่งก็ออกมาบอกแล้วว่ากล้องทุกตัวมีคุณภาพติดอันดับต้น ๆ ของโลก แต่ที่ภาพไม่ชัด เพราะขึ้นอยู่กับระยะและมุมที่ติดตั้ง (แต่จับภาพคนฝ่าไฟแดงนี่ภาพชัดทุกแยกเลยล่ะ)

เพราะฉะนั้นเราก็ควรเอาชีวิตรอดจากอาชญากรรมแบบไม่ง้อกล้อง ด้วยการหลีกเลี่ยงการเดินในที่มืดและเปลี่ยว (เดี๋ยวกล้องเก็บภาพได้ไม่ชัด) หรือจะเลือกยืนในมุมที่ไฟสว่างและกล้องทำมุมองศาที่ตำแหน่งเราพอดี ที่สำคัญอย่าหยิบมือถือขึ้นมาเล่นล่อคนร้ายล่ะ

แต่ถ้าเกิดเหตุด่วนเหตุร้ายขึ้นแล้ว อยากทดสอบคุณภาพกล้องสามารถขอดูภาพและสำเนาบันทึกภาพได้ฟรีที่ศาลาว่าการ กทม. นะ (ไม่ต้องเขินหรอก ปี ๆ นึงมีคนขอดูกล้องเพราะเกิดอาชญากรรม ตั้ง 7,000 รายแหนะ มีเพื่อนแน่นอน)


gifsec.com



4.บูทต้องพร้อม แตะต้องมา ถ้าน้ำท่วมแล้วไม่อยากไปอยู่บนดอย

หน้าฝนมาถึงทีไร ชาวบางกอกสยองเป็นแถว ๆ เพราะต้องมีน้ำท่วมขังให้ได้แช่เท้าเล่นกันแน่นอน มินิมอร์ขอแนะนำให้พกรองเท้าบูทติดตัวหรือทิ้งไว้ที่ทำงานสักคู่ เพื่อป้องกันน้ำท่วม โรคฉี่หนู และความสกปรกที่มากับน้ำ แต่ถ้าเป็นสายลุยก็พกรองเท้าแตะมาลุยน้ำกันให้สะใจ หรือจะต่อเรือมาแจวฝ่าน้ำให้รู้แล้วรู้รอดกันไปเลย


 news.sanook.com


 daily.bangkokbiznews.com


5.ถ้าน้ำแล้งห้ามตื่นตกใจ แต่ให้ช่วยกันภาวนาให้ฝนตก

ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองเวนิสตะวันออกชีวิตคนในเมืองหลวงย่อมต้องสัมพันธ์กับน้ำตลอดเวลา มีน้ำท่วมแล้ว น้ำแล้งก็ต้องมา และเมื่อน้ำแล้งปีที่ผ่านมา แล้งแสนแล้งจนผลผลิตทางการเกษตรของกรุงเทพฯตะวันออกกำลังจะเสียหาย ผู้ว่าฯของเราก็ออกมาประกาศชัดว่าไม่ต้องตื่นตระหนกไป ขอให้พวกเราช่วยกันภาวนาให้ฝนตก นอกจากสวดมนต์ภาวนาอย่างที่ท่านผู้ว่าฯแนะนำแล้ว มินิมอร์ก็แนะนำว่าช่วยกันแห่นางแมวขอฝนควบคู่กันไป แล้วอย่าลืมประหยัดน้ำกันล่ะ อาบน้ำเนี่ยก็อาบ 2 วันครั้งก็พอ (เอ๊ะจะดีหรอ ?)


buildernews.in.th

ขึ้นชื่อว่าเมืองหลวง ก็ย่อมเป็นเมืองที่คนมาอาศัยอยู่รวมกันเป็นจำนวนมาก ปัญหาก็เพิ่มขึ้นมากตามเป็นธรรมดา เจ้าหน้าที่ที่มีจำนวนไม่มากนักก็อาจดูแลได้ไม่ทั่วถึง ดังนั้นการจะมีชีวิตรอดปลอดภัยไม่ว่าในเมืองหลวงหรือเมืองไหน ๆ ของโลกใบนี้ ก็คงหนีไม่พ้นการใช้ชีวิตอยู่บนความไม่ประมาทนี่แหละ ชีวิตเราเราก็ต้องดูแลกันให้ดีที่สุด จะไปหวังให้คนอื่นมาดูแลแทนเราได้ยังไงกัน มินิมอร์ขอให้ทุกคนมีชีวิตดี ๆ ที่ลงตัวในทุกที่ที่ไปอยู่แล้วกันเนอะ