ตามมาดู! '10 หนังคัน(ที่ทำไมต้องคัน?)ประจำปี 2015' ของต่อ คันฉัตร

เหมือนเป็นธรรมเนียมตายตัวไปแล้วว่าทุก ๆ สิ้นปีจัดเป็นช่วงยอดฮิตที่บรรดานักวิจารณ์ นักเขียน นักข่าว ไล่ยาวไปถึงนักนั่นนักนี่ทั้งที่เรารู้จักกันดี (หรือบางทีก็ต้องอุทานในใจว่า'นี่ใครวะ...') ออกมาจัด10 อันดับสารพัดสิ่งประจำปี


มินิมอร์ก็เช่นกัน มินิมอร์ชวน'คันฉัตร รังษีกาญจน์ส่อง' อาจารย์พิเศษ นักเขียน นักวิจารณ์ภาพยนตร์ สารพัดนักในคนเดียว ที่สำคัญเขาเคยทำสถิติดูหนัง 155 เรื่องภายในหนึ่งปี (ทำไมต้องดูเยอะขนาดนั้น!)  วันนี้คันฉัตรจะรวบรวมหนังคัน 10 เรื่องที่เขาชอบประจำปี 2015 ให้ได้ไปตามดูตามเกากันต่อ   

sompi.com

1. Han Gong Ju (2013, Su-jin Lee)

หนังเกาหลีที่เล่าจากเหตุการณ์จริงของนักเรียนสาวชื่อฮันกงจู เธอโดนนักเรียนชาย 43 คนรุมข่มขืนและพยายามจะกลับมาใช้ชีวิตเป็นปกติ คันฉัตรชอบตรงที่หนังเหมือนจะมีความหวัง แต่สุดท้ายก็ไม่มี (อ้าว!) สิ่งที่ชวนเกาต่อก็คือ หรือมนุษย์ที่อ้างความหวังดีเพื่อจัดการชีวิตคนอื่นนั่นแหละคือต้นเหตุที่ทำให้ชีวิตคนอื่นไม่ปกติ ?

 
collider.com

2. Arabian Night (
2015, Miguel Gomes)

หนังไตรภาคความยาว 318 นาที! ตีแผ่สภาพสังคม เศรษฐกิจที่ล่มสลายโดยเล่าผ่านความแฟนตาซีชวนพิศวง แถมยังเล่าเป็นเรื่องเล่าซ้อนเรื่องเล่าอีกที (จะซับซ้อนไปถึงไหนกัน!) ความคันของหนังเรื่องนี้คือการทำลายรูปแบบโครงสร้างของความเป็นหนังแบบเดิม ๆ ให้เป็นรูปแบบไม่ตายตัว (ก็แน่ล่ะ ซับซ้อนซ่อนเงื่อนขนาดนี้)

             

imdb.com

3. Marguerite & Julien (2015, Valérie Donzelli)
ว่ากันว่า "หนังที่โดนด่าที่เมืองคานส์ มักเป็นหนังที่ดี" เรื่องนี้ก็เช่นกัน นี่เป็นหนึ่งในหนังที่โดนด่าที่คานส์ จึงเป็นความท้าทายที่คันฉัตรบอกว่าต้องดู! หนังสร้างจากเรื่องจริงของพี่ชายน้องสาวร่วมสายเลือดที่รักกันเอง นอกจากความย้อนยุคของหนัง และฉากที่จงใจทำออกมาให้ดูผิดยุคผิดสมัย ความคันของหนังเรื่องนี้คือความรักความสัมพันธ์ที่ผิดไปจากกรอบที่สังคมตั้งไว้ เรายอมรับกันได้แค่ไหน ?

                

citytv.com

4. Wayward Pines (2015)
นักสืบลับที่ประสบอุบัติเหตุ ก่อนจะลืมตาตื่นขึ้นมาในเมืองประหลาดที่ห้ามคนในเมืองถาม ห้ามสงสัย และห้ามออกไปจากเมืองนี้! สิ่งที่ชวนให้เกาต่อไปก็คือ ถ้าสุดท้ายเราตั้งคำถามและพบความจริงอันเจ็บปวด เราจะยังเลือกที่จะรับรู้มันอยู่ไหม หรือจะก้มหน้าก้มตามีความสุขต่อไปแทน ? (โหยย เลือกยากอ่ะ!)

                 

likeseries.com

5. Hormones 3 (2015, เกรียงไกร วชิรธรรมพร)
แน่ล่ะใคร ๆ ก็ต้องมีบาดแผลและความเจ็บปวดกันทั้งนั้น ซึ่งนี่คือสิ่งที่ทำให้คันฉัตรชอบฮอร์โมนซีซั่นล่าสุดนี้ (ถึงแม้เขาจะแอบเมาท์กับเราว่าทีแรกคิดว่าไม่น่าจะทำออกมาได้ดีขนาดนี้!) ฮอร์โมนส์ซี่ซั่น 3 จึงชวนแสบ ๆ คัน ๆ กว่า 2 ซีซั่นที่ผ่านมา ทั้งแสบกับบาดแผลและปมของตัวละครที่คอยขับเคลื่อนเรื่องราว ทั้งคันกับการตั้งคำถามกับปัญหาของสังคมมากกว่าจะไปตัดสินแทนคนดู

               

imdb.com

6. The New Girlfriend (2014, François Ozon)
พ่อหม้ายที่เพิ่งสูญเสียภรรยา และชอบแต่งตัวเป็นผู้หญิงเลี้ยงลูกตัวเองคือคำบรรยายสั้น ๆ ของ The New Girlfriend สิ่งที่น่าเกาต่อของหนังเรื่องนี้คือการตั้งคำถามว่าสังคมยอมรับได้แค่ไหนกับคนที่เป็นผู้ชายแท้ ๆ แต่ชอบแต่งกายเป็นผู้หญิง เขาสามารถมีครอบครัวได้ไหม แล้วถ้าเขาจะรักกับเพื่อนของภรรยาตัวเองจะเป็นยังไง ?

                                              

imdb.com

7. Inside Out (2015, Pete Docter, Ronnie Del Carmen)
แม้ภายนอกจะฉาบไว้ด้วยความเป็นแอนิเมชั่น แต่ Inside Out กลับมีเนื้อหาจริงจัง ความคันของหนังเรื่องนี้คือการบอกว่าเราจะอยู่กับความเศร้าได้อย่างไร แถมนี่คือหนังที่กู้ภาพที่กำลังตกต่ำของพิกซาร์แอนนิเมชั่นสตูดิโอให้กลับมาน่าตื่นตาตื่นใจได้อีกครั้ง!

             

majorcineplex.com

8. ฟรีแลนซ์ ห้ามป่วย ห้ามพัก ห้ามรักหมอ (2015, นวพล ธำรงรัตนฤทธิ์)
มีหนังไม่มากนักที่พูดถึงชีวิตฟรีแลนซ์ คันฉัตรจึงชอบเรื่องนี้เพราะมันเหมือนชีวิตการเป็นฟรีแลนซ์ของเขาเองด้วย โดยปกติหากมีตัวละครในหนังสักเรื่องต้องประสบเหตุร้าย เขามักคิดในใจว่าขอให้เกิดหายนะกับตัวละคร (อะไรจะขนาดนั้นน!) ความคันของหนังเรื่องนี้คือการที่ตัวละครทำให้ผู้ชม (โดยเฉพาะผู้ชมเลือดเย็นอย่างเขาล่ะสินะ) เกิดความเห็นอกเห็นใจตัวละครขึ้นมาได้

                                        

imdb.com

9. The Lobster (2015,Yorgos Lanthimos)
"นี่คือหนังโหด ที่ไม่ได้โหดออกมาแบบแหวะ ๆ" คันฉัตรว่าไว้แบบนั้น แม้ชื่อไทยว่า "โสด เหงา เป็นล็อบเสตอร์" จะชวนให้คนไม่น้อยเข้าใจว่าเป็นหนังรักมุ้งมิ้ง ความคันของหนังเรื่องนี้คือผู้กำกับที่คันฉัตรติดตามมาเสมออย่างยอร์กอส ลานธิมอส ซึ่งแม้จะต้องทำหนังออกมาไม่อินดี้ และมีนายทุนไม่เหมือนอย่างที่เคย แต่ยังคงรักษาความแสบ ๆ คัน ๆ จิกกัดจนต้องซี้ดไว้ได้!

                                       

imdb.com

10. Kurt Cobain: Montage of Heck (2015, Brett Morgen)
"ปกติหนังสารคดีจะน่าเบื่อ แต่เรื่องนี้เป็นสารคดีที่ดูไม่รู้เรื่อง" หนังว่าด้วยชีวิตแต่ละช่วงของเคิร์ท โคเบน ตลอดเรื่องเต็มไปด้วยแอนนิเมชั่น กราฟฟิค ปนกันจนเหมือนเมายาอยู่ตลอด! ความคันของหนังเรื่องนี้คือการที่เราไม่อาจเข้าใจเคิร์ธ โคแบนด้วยเหตุผล แต่รับรองว่าเราจะเข้าถึงความรู้สึกของเคิร์ธในแต่ละช่วงชีวิตได้แน่ ๆ


คันฉัตรทิ้งท้ายไว้ว่าหนังที่เขาชอบมักเป็นหนังที่เต็มไปด้วยความมืดมน ความเจ็บปวดบางอย่างที่ไม่ฟูมฟาย เขาให้เหตุผลกับเราว่า "หนังที่มีความรู้สึกดี ๆ ไม่ค่อยน่าจดจำ ถ้าจบแบบ Happy Ending เดี๋ยวเดียวคนก็ลืม" อย่าง 10 อันดับหนังดีตลอดกาลบางเรื่องเขาก็ลืมไปแล้วด้วยซ้ำว่าจบอย่างไร

ถึงตอนนี้ไม่ว่าคุณจะได้อ่าน 10 อันดับหนังดี หนังเด่น หนังฟินมาแล้วไม่รู้กี่สำนัก มินิมอร์อยากชวนคุณขบคิดเล่น ๆ ว่าจริง ๆ แล้วมีหนังกี่เรื่องในชีวิตกันที่ชวนให้คุณคัน คุณขบคิด ถกเถียงกับตัวเองได้ไม่รู้จบ ไม่ว่ามันจะผ่านมาแล้วกี่ปี ...