ตั้งแต่ปี 2016 เป็นต้นไป นายแบบหรือนางแบบในประเทศฝรั่งเศสจะต้องมีใบรับรองจากแพทย์ว่าค่า BMI หรือดัชนีมวลกาย ไม่ต่ำกว่า18 ถ้าใครต่ำกว่านั้นแล้วรับงานถ่ายแบบหรือเดินแบบ จะต้องโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน และปรับไม่เกิน 75,000 ยูโร หรือคิดเป็นเงินไทยคือ ประมาณ 2,850,000 บาท
ทางด้านผู้ประกอบการก็ไม่รอด ไม่ว่านิตยสารเล่มไหนที่เผยแพร่ภาพซึ่งร่างกายนางแบบถูกตกแต่งด้วยโปรแกรมแต่งภาพ เช่น โฟโตช้อป จะถูกปรับเป็นเงิน 37,500 ยูโร หรือ 30% ของรายได้ที่ได้จากงานโฆษณาชิ้นนั้น
นั่นเพราะการรีทัชรูป ไม่ได้มีไว้แค่ปิดบังความอ้วนหรือไขมันส่วนเกิน แต่ยังมีการใช้เพื่อปิดบังความผ่ายผอมด้วย โดยภาพของดารานางแบบที่โด่งดังในเคสนี้คือภาพของ Cameron Diaz ที่มีการรีทัชเติมร่องแก้มและลบร่องกระดูกเชิงกราน และภาพของ Karlie Kloss ที่มีการรีทัชเอาร่องกระดูกซี่โครงออกไปอย่างเห็นได้ชัด
ทั้งหมดทั้งมวลนี้ก็เป็นเรื่องของสุขภาพล้วนๆ เพราะจากสถิติล่าสุด ผู้หญิงฝรั่งเศสเฉลี่ยแล้วมีความผอมที่สุดในบรรดาผู้หญิงยุโรปทั้งหมด และกว่า 11% ของผู้หญิงฝรั่งเศสเข้าข่ายผอมเกินเหตุ (extremely thin) และมีความเสี่ยงสูงที่จะป่วยเป็น eating disorder อย่างเช่น อะนอเร็กเซีย
อะนอเร็กเซียไม่ใช่เรื่องใหม่ มันเคยเป็นประเด็นร้อนกว่า 20 ปีมาแล้ว แต่ถึงอย่างนั้น วงการแฟชั่นก็ทำให้มันไม่หมดไปสักที และถึงแม้เทรนด์การออกกำลังให้ผอมแบบมีกล้ามเนื้อกำลังเป็นที่นิยม แต่ผลสำรวจก็บอกชัดเจนว่า ยังมีคนที่คลั่งผอมจนเสี่ยงเป็นโรคอยู่ไม่น้อย
ขอข้ามไปอ้างอิงในฝั่งสหรัฐฯ นางแบบในลอสแองเจลิสและนิวยอร์ก 64.1% ถูกต้นสังกัดสั่งให้ลดน้ำหนักทั้งที่ผอมอยู่แล้ว บ้างก็ต้องลดหุ่นอย่างเร่งด่วนหลังจากฟิตติ้งชุดแล้วพบว่ายังใส่ไม่ได้ และ 31.29% ของพวกเธอก็ป่วยเป็น eating disorder แต่แทบไม่มีใครรู้ เพราะเมื่อภาพเหล่านั้นออกสื่อ ก็ได้ถูกรีทัชให้ดูสุขภาพดีเสียหมดแล้ว
และภาพที่ออกสื่อก็ส่งผลกับสังคมในวงกว้างไปอีก โดย 47% ของเด็กสาวอายุ 10-18 ปีในสหรัฐฯ ใช้ภาพถ่ายแฟชั่นเป็นแรงบันดาลใจในการลดน้ำหนัก และ 69% รู้สึกว่าร่างกายที่เพอร์เฟกต์นั้นต้องเป็นแบบที่ปรากฎอยู่ในภาพถ่ายแฟชั่นเท่านั้น ดังนั้น ถ้าอยากหุ่นดี ก็ต้องผอมให้ได้อย่างนางแบบ ซึ่งกว่าจะไปถึงจุดนั้น หลายคนก็พ่ายแพ้ให้กับ eating disorder ในที่สุด
ถ้านึกภาพกันคร่าวๆ หลายคนยังเห็นความผอมมาพร้อมกับความคูล ความคล่องตัว หรือความเย็นชา ความน้อย ซึ่งนั่นเป็นภาพที่แฟชั่นต้องการ ส่วนความอวบอั๋นล่ะ มาพร้อมกับภาพของการกิน ความอืดอาด ความเยอะ ซึ่งแม้จะรู้ว่ามันเป็นมายาคติ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ายังรู้สึกแบบนั้นอยู่ดี
ดังนั้น ตัวเราเองคงต้องหาจุดที่พอดีของตัวเองให้เจอแล้วกัน ส่วนกฎหมายของฝรั่งเศสนั้น ถือเป็นก้าวแรกที่ดีแล้ว ก็ได้แต่ฝันว่าสักวันบ้านเราจะมีการผลักดันกฎหมายอะไรแบบนี้ขึ้นมาบ้างน่ะนะ...
จากคอลัมน์ Anywear โดย ฉัตรรวี เสนธนิสศักดิ์—giraffe Magazine 30 Depression Issue