ย้อนวันวานยุคฮิปปี้ แฟชั่นทรงอิทธิพลที่ส่งแรงบันดาลใจถึงปัจจุบัน

เมื่อฮิปปี้กว่าครึ่งล้านมารวมตัวกัน 3 วัน 3 คืน มีวงดนตรีน้อยใหญ่มาร่วมงานกว่า 33 วง ในแง่ดนตรี นิตยสาร Rolling Stone ยกให้ Woodstock เป็น 1 ใน 50 เหตุการณ์ที่เปลี่ยนประวัติศาสตร์วงการดนตรี ในทางแฟชั่นก็เช่นกัน มันทำให้ยุค 60s ที่ชาวม้อดกับร็อกแอนด์โรลครองเมือง ต้องแบ่งพื้นที่ความชิคให้เหล่าฮิปปี้ได้กลายเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก


    เพราะ Woodstock คือพื้นที่ของความสนุกและหลุดกรอบอย่างสุดขั้ว ภายใต้แนวคิดหลักๆ คือการหลีกหนีความโหดร้ายของสงคราม หยุดฆ่ากัน แต่หันมาส่งยิ้ม เต้นรำ ฟังดนตรี พี้กัญชา และอยู่ร่วมกันโดยสันติตามแบบฉบับบุปผาชน 
    แฟชั่นคือหนึ่งในกลไกสำคัญที่จะประกาศว่าพวกเขานั้นมีจิตวิญญาณอันเสรี เพราะนอกจากขบถต่ออำนาจทหารในทางการเมือง ขบถต่อกฎเกณฑ์ทางสังคม ในทางแฟชั่นยังเป็นการขบถต่อการครอบงำของดีไซเนอร์และเทรนด์กระแสหลักด้วย 
    พอบวกกับความที่วัยรุ่นทุกคนล้วนแต่อยากแสดงอัตลักษณ์ของตัวเองให้ชัดเจนอย่างที่ Valerie Steele ผู้อำนวยการของ The Museum at the Fashion Institute of Technology ในนิวยอร์กกล่าวไว้ว่า “ที่ Woodstock คุณต้องพยายามสร้างความแตกต่าง ในขณะที่ทุกคนก็พยายามสร้างความแตกต่างในแบบที่คล้ายๆ กัน” 


  
  ผลที่ได้คือแฟชั่นแบบ DIY ตัดปะนั่นนี่สารพัดรูปแบบ หันหลังให้เสื้อผ้าแบรนด์เนม พยายามใส่อะไรก็ได้ให้ตรงข้ามที่สุด บ้างก็กลับไปหาความสวยงามของพื้นเมือง อย่างแฟชั่น ethnic (ชาติพันธุ์) และ tribal  (ชนเผ่า) ออกไปให้ไกลจากแฟชั่นในตัวเมือง บ้างก็กลับไปหาความสวยงามของธรรมชาติ เดินเท้าเปล่า หลายคนก็เปลือยกาย มีเพียงช่อดอกไม้ป่าประดับอยู่ตามเส้นผม
    นอกจากอุดมการณ์อันแรงกล้าแล้ว อาจเป็นไปได้ว่าสภาพการณ์ตอนนั้นก็ส่งเสริมให้พวกเขาต้องใส่   แฟชั่นที่เสรีสุดๆ เพราะใน 3 วันอันยาวนาน เริ่มตั้งแต่วันที่ร้อนอบอ้าวในตอนบ่าย และอีกวันก็ฝนตกหนัก ส่วนวันที่สามพื้นที่ทั้งหมดก็กลายเป็นทะเลโคลน พอบวกกับการเสพกัญชา (ซึ่งไม่ผิดกฎหมาย) การรียูสเสื้อผ้าหรือการเปลือยกายจึงไม่น่าแปลกใจ บางคนก็คว้าผ้าห่มลายงามมาห่มกันหนาวในยามเช้า กลายเป็นภาพเก๋ๆ อย่างบนปกอัลบั้มไลฟ์ของงาน Woodstock I



    และแม้จะเลอะเทอะวายป่วงขนาดไหน แต่งานที่จุคนไว้ถึงห้าแสนกว่าคนนี้ก็ผ่านไปได้ด้วยดี ไม่มีการทะเลาะวิวาทถูกบันทึกไว้ ยกเว้นความขัดแย้งเล็กๆ น้อยๆ ของวง The Who มีคนตายก็เพียง 3 คน จากการเสพยาเกินขนาด 1 คน และอุบัติเหตุอีก 2 ถือเป็นการอยู่ร่วมกันด้วยสันติภาพที่แท้จริง ส่วนทางด้านอุดมการณ์ แม้ Woodstock จะไม่ได้มีผลในการหยุดยั้งสงครามอย่างเป็นรูปธรรมแต่ก็ช่วยส่งต่อความคิดเรื่องสันติภาพให้กลายเป็นเทรนด์ของคนรุ่นใหม่ ส่งต่อมาได้ถึงทุกวันนี้ 



    ผ่านมากว่า 40 ปี เสื้อผ้าของเหล่าฮิปปี้ก็ยังถูกเอามาเล่าซ้ำทำใหม่อยู่เรื่อยๆ เป็นแหล่งแรงบันดาลใจชั้นยอดสำหรับการแต่งตัวของวัยรุ่นทุกวันนี้หรือในเทศกาลดนตรีต่างๆ อย่างเช่นที่เห็นในงาน Wonderfruit ทุกๆ ปลายปีของบ้านเรา
    และจะดีแค่ไหน ถ้าเมื่อไหร่ที่เราแต่งตัวแบบฮิปปี้แล้วยังไม่ลืมแนวคิดแบบบุปผาชนของพวกเขาด้วย