5 นโยบายสุดฮอตแห่งวงการการศึกษาไทย

ถ้าให้พูดถึงวัยเด็กหรือชีวิตวัยเรียน ผู้อ่านชาวมินิมอร์หลายคนอาจจะอายุล่วงเลยมาไกลจนไม่ค่อยอินแล้ว (แหม่ รู้หรอกน่า) แต่ช่วงชีวิตวัยเรียนนี่เป็นอะไรที่ชวนให้จดจำน่าดูเลยล่ะว่าไหม นอกจากแก๊งค์เพื่อนที่มีอิทธิพลต่อความรู้สึกเรามาก ๆ แล้ว กระทรวงศึกษาธิการ องค์กรเกี่ยวกับการศึกษาไปจนถึงบรรดาอาจารย์ที่ทั้งน่าเคารพ (และน่ายำเกรง) ก็มีอิทธิพลต่อชีวิตในโรงเรียนไม่แพ้กัน

วันนี้มินิมอร์จะพามาดู 5 นโยบายสุดฮอตแห่งวงการการศึกษาไทยในรอบ 2 ปีที่ผ่านมา ว่านโยบายไหน แนวคิดใด ที่พอประกาศออกมาแล้วทั้งเด็ก ทั้งผู้ใหญ่พากันตาโต "โห แบบนี้ก็ได้เหรอ ?"


gifsec.com




1.นักเรียนจงเดินแถวจากบ้านไปโรงเรียน เพื่อฝึกระเบียบวินัย

เมื่อเด็กไทยถูกมองว่าไม่มีระเบียบวินัยเอาซะเลย ที่ประชุมคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานเลยเสนอให้เด็ก ๆ ควรเข้าแถวจากบ้านแล้วเดินไปโรงเรียนอย่างเป็นระเบียบ จะได้ช่วยให้มีระเบียบวินัยและรู้จักหน้าที่ของตัวเองมากขึ้น ไอเดียนี้เพิ่งถูกพูดถึงขึ้นมาสด ๆ ร้อน ๆ เมื่อวันที่ 5 มกราคมที่ผ่านมา แต่ก็ไม่ใช่เป็นโครงการใหม่นะ เพราะเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานบอกว่าโครงการนี้เคยได้ผลมาแล้วในอดีต เอ้า เด็ก ๆ เตรียมเดินไปโรงเรียนกันเถอะ (ใครบ้านไกลก็ตื่นเช้าหน่อยนะ) 



2.จงบันทึกความดี จงบันทึกความดี แค่นี้ก็เข้ามหาวิทยาลัยได้แล้ว (โห ดีอ่ะ)

สมุดพกความดี หรือ พาสปอร์ตความดีเป็นไอเดียดี ๆ จากที่ประชุมกระทรวงศึกษาธิการที่อยากให้นักเรียนจดบันทึกการทำความดีของตัวเองลงสมุดทุกวัน แถมยังเสนอไปยังสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษาให้รับเด็กดีที่บันทึกพาสปอร์ตความดีเป็นประจำเข้าเรียนต่อในมหาวิทยาลัยด้วย ไอเดียดี ๆ นี้เป็นที่พูดถึงอย่างกว้างขวางน่าดูในเดือนกรกฏาคม ปี 2557 (นี่สินะที่เขาเรียกว่าคนดีผีคุ้ม แฮ่) 



3.ใครเจาะหู ใครมีรอยสัก ห้ามเรียนอาชีวศึกษานะ 

อ้าปากค้างกันไปทั้งเมืองเมื่อสมาคมวิทยาลัยเทคโนโลยีและอาชีวศึกษาเอกชนแห่งประเทศไทยออกมาบอกว่าจะไม่รับเด็กที่มีรอยสักและเจาะหูเข้าเรียน โดยให้เหตุผลว่ามักมีบุคคลไม่พึงประสงค์แฝงตัวเข้ามาในโรงเรียน (เหมือนสายลับปลอมตัวมา ทำนองนี้สินะ) และคนกลุ่มที่เข้ามาทำตัวเสื่อมเสียและก่อเหตุทะเลาะวิวาทนี้มักจะมีรอยสักหรือเจาะหู (โธ่ อุตส่าห์ปลอมตัวมาเป็นนักเรียนทั้งที ไม่เนียนเลยพี่ ลาก่อน)


giphy.com


4.รับน้องเต้นท่าไม่เหมาะสม ต้องโดนปรับทัศนคติกับพี่ ๆ ทหาร

ช่วงเปิดเทอมทีไร ก็มักมีคลิปรับน้องแปลก ๆ มาให้ดูได้ทุกปี เดือนกันยายน ปี 2558 ก็ไม่น้อยหน้าปีอื่น ๆเมื่อมีคลิปนักศึกษามหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งออกมาเต้นเพลงกล้วยทับรับน้อง (ที่เขาว่ากันว่า เต้นกันได้ไม่เหมาะสมเอาเสียเลย) รองอธิการบดีฝ่ายกิจการนักศึกษาและคณบดีก็เลยโชว์สปิริตควักเงินในกระเป๋าพานักศึกษาไปเข้าค่ายทหารเพื่อปรับทัศนคติ (โห เพิ่งรู้ว่านอกจากพี่ ๆ ทหารจะสอนเรื่องความมีวินัยได้แล้ว ยังสอนท่าเต้นที่เหมาะสมให้ด้วย สุดยอด!)



5.ดูแลธงชาติให้มีสีสันสดใส เพื่อสร้างแรงบันดาลใจในการเรียน เฮ้!

รัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการออกมาประกาศนโยบายเมื่อเดือนสิงหาคมปีที่แล้วว่า โรงเรียนต้องดูแลธงชาติให้ใหม่และมีสีสันสดใส เพื่อสร้างแรงบันดาลใจในการเรียน (เอ เกี่ยวกันมั้ยนะ) จริง ๆ แล้วรัฐมนตรีท่านก็หวังดีอยากให้เด็ก ๆ ได้เรียนในสภาพแวดล้อมที่สวยงามสะอาดตานั่นเอง (เรื่องภายนอกก็สำคัญไม่แพ้โครงสร้างการศึกษาภายในหรอกเนอะ)

แม้นโยบายจะชวนให้ตาโตพร้อมคิดตามว่า โอ้โห เอาจริงดิ ? แต่ทุกไอเดียก็ล้วนมาจากเจตนาที่ดีของผู้ใหญ่ที่อยากให้เด็ก ๆ ได้มีการศึกษาที่มีคุณภาพ มีระเบียบวินัย และอยู่ในกรอบความประพฤติที่ดีงาม หลาย ๆ นโยบายที่ดูเคร่งครัดเกินไป เมื่อได้รับการท้วงติงจากหลายฝ่าย ผู้ใหญ่ก็พร้อมปรับบ้าง แก้บ้าง ยกเลิกบ้าง เพื่อให้เหมาะสมที่สุด

มินิมอร์เชื่อว่าแม้หลายคนผ่านวัยเรียนมาพอสมควรแล้ว (โอ๊ย นี่ก็ย้ำอยู่ได้) แต่นโยบายการศึกษาไม่ใช่เรื่องที่จะสมบูรณ์อย่างใจหวังจากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเท่านั้น แต่เป็นเรื่องของทุกคนทั้งเด็ก ทั้งผู้ใหญ่ และทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องที่จะช่วยกันคิด ช่วยกันแสดงความคิดเห็น เพื่อให้เด็กเติบโตไปเป็นอนาคตของชาติและมีชีวิตช่วงวัยเรียนอย่างมีความสุขไปพร้อม ๆ กัน  


ที่มา : matichon.co.thmanager.co.thnationtv.tvmanager.co.ththaigov.go.th