จู่ๆ กระแสรื้อฟื้นชีวิตในยุค 90s บูมขึ้นมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย จนชาวทวิตเตอร์เริ่มแชร์ความทรงจำของตนเองเกี่ยวกับยุคนั้นกันอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเรื่องโทรศัพท์ (จ้ะ จริงๆ เราใช้เพจเจอร์!) อินเทอร์เน็ท (เสียงเชื่อมสัญญาณอี๋อ่อ แอ๊ดดดดดด ที่รอนาน และหลุดทันทีเมื่อมีคนโทร.เข้า) ยุคนั้นมันมีอะไรนักหนา ทำไมคนพูดถึงจัง! ทำให้มินิมอร์นึกออกว่า เฮ้ย จริงๆ แล้วเราเองก็มีหนังสือที่เหมือนคนแก่ย้อนวัยนี่นา... (ใช่ จะบอกว่านักเขียนเราเริ่มเจริญด้วยวัยแล้วก็เกรงใจ)
แม้หนังสือบางเล่มอาจจะสั่งซื้อไม่ได้แล้ว แต่ก็ยังพอมีตัวอย่างให้ลองอ่านได้อยู่ ซึ่งข้อความไม่กี่หน้าสั้นๆ ก็สามารถรื้อฟื้นความทรงจำของเราได้ สำหรับคนที่อายุน้อย...(กว่ามินิมอร์และนักเขียน) ก็จะได้เข้าใจคร่าวๆ ว่า "อ๋อออ ยุคเจ้ๆ กะเฮีย เขาใช้ชีวิตกันแบบนี้นี่เอง โถ สงสารนะ นอนอ่านหนังสือรออินเทอร์เน็ตคอนเน็ค" (อะไรแบบนี้) ....ทำไมเขียนไปแล้วเศร้า *ปาดน้ำตา* มาเรียนรู้ชีวิตในโลกที่เป็นจุดเชื่อมต่อของสองยุคกันเถอะ!
แต่ถ้าเล่มไหนมีข้อความว่า add to cart ก็หยิบใส่รถเข็นได้นะ ฮู้ยย... เข็นรถให้เลย *ปรนนิบัติพัดวี* เรามีตัวอย่างทั้งให้อ่านเป็น e-book แบบพลิกหน้าได้ แล้วก็มีบางเรื่องที่เขียนลงไว้ใน Minimore Maker ด้วยนะ อ่านง่ายเลยทีเดียว ถ้าใครอ่านของนักเขียนท่านไหนแล้วชอบพอหน้าตา Makers ก็มาเขียน Makers ได้เลยจ้ะ *ขายทุกอย่างตั้งแต่หนังสือยันเว็บ*
ปะ ได้เวลาไปอ่านแล้ว โดooมอน ขึ้นไทม์แมชชีนกันนน
'กลับหลังหัน 1 และ กลับหลังหัน 2'
ผู้เขียน ART jEENO
ความทรงจำของนักวาดหนุ่ม ที่เริ่มถ่ายทอดเรื่องราวในอดีตของตนเองลงบล็อกชื่อดังจนหลายคนชื่นชอบ กลายมาเป็นหนังสือที่บรรจุเรื่องราวของก๊วนเพื่อน ที่อาจจะไม่ได้มีไอเทมให้ยกมาพูดถึงแบบชัดเจน แต่เรื่องบรรยากาศในยุคนั้นนี่อบอวลตลอดเล่ม มาเต็ม! บอกเลย มินิมอร์ชวนให้เพื่อนๆ ลองอ่าน เผลอๆ จะเพลินจนอ่านรวดเดียวจบก็ได้นะ มินิมอร์เองไม่ได้มีความทรงจำของเด็กชายสักเท่าไหร่... (ก็ไม่ควรจะมีรึเปล่าถ้าไม่ได้เปลี่ยนเพศได้แบบปลาการ์ตูน) บางอย่างอาจจะเหมือนไกลตัว แต่จริงๆ แล้วไม่เลย เราอยู่ร่วมช่วงเวลาเดียวกัน เรามีเพื่อนที่ซื้อขนม โอoooย่า เพื่อเอาการ์ดแล้วทิ้งขนม มินิมอร์เลยบอกไปด้วยน้ำเสียงเด็ดเดี่ยวว่า "เอามา กินเอง!" เหมือนในกลับหลังหันเลย อิน!
คราวนี้ถึงตาของสาวๆ บ้างแล้ว
ชีวิต 18- : Girl's Generation
ผู้เขียน Plariex
เกิร์ลไอเทมของสาวๆ มีอะไรบ้าง! Plariex เล่าตั้งแต่เรื่องเครื่องเขียนกระจุกกระจิก ปากกายี่ห้อฮิต ปลอกสวมปากการองนิ้วไม่ให้ด้าน จนถึงเพื่อนเสมือนจริง(รึเปล่า?)สุดฮิตที่หิ้วไปไหนมาไหนได้อย่างทามาก็อตจิ มันเฟี้ยวมากนะ! มีทั้งไดโนเสาร์ นก เป็ด ไก่ หมา (เดี๋ยว ทำไมหมาเกิดจากไข่) นี่มินิมอร์ก็ยังไม่เข้าใจว่าทำไมเราถึงผูกพันกับไอ้ไข่สัตว์ประหลาดนักนะ ทั้งป้อนข้าว อาบน้ำ ต้องเล่นกับมันอีก! แถมยังต้องเสี่ยงชีวิตหลบครูเอาขึ้นห้องด้วย ชีวิตสาวๆ ในวัยเรียนช่วงนั้นมีอะไร ปลารี่จะเล่าให้ฟัง สมัยมินิมอร์อายุ 18- ตอนนั้นยังสาวๆ ก็มองเพื่อนๆ กลุ่มอื่นที่ถือกระเป๋านักเรียนหนังจาค็อป แต่ไม่ใส่อะไร...แล้วเอาตัวหนีบหนีบไว้ให้มันแบน ไม่เข้าใจจริงๆ ว่าทำไม (จากคนที่พกสีไม้ 36 สีไปเรียน) นี่...เราไม่ได้เรียนมศ.6 อะไรแบบนั้น เราไม่ได้เรียนป.มูลด้วย มินิมอร์รุ่นๆ 90s เชื่อสิ! มีอะไรสาวน้อยแบบใน ชีวิต 18- : Girl's Generation จริงจริ๊ง *เสียงสูง*
นั่งสาย 47 เข้าสยามกันต่อเลย! (จริงๆ ทันเปิดใช้ BTS นะ แต่หน้าบ้านรถไฟฟ้าไม่ผ่าน..)
Siam Discovery สยาม มนุษย์ สถิต
ผู้เขียน คันฉัตร รังษีกาญจน์ส่อง
"ทำไมวัยรุ่นต้องไปสยาม?" มาสำรวจวิถีชีวิตของมนุษย์เหล่าต่างๆ ที่เดินเวียนวนในศูนย์กลางความสนใจของวัยรุ่นทุกยุคสมัยไปพร้อมกับคันฉัตร จากยุครถเมล์ผ่าน นั่งอ่านหนังสือรอเพื่อนที่ดังกิ้นโดนัท จนมายุคที่บีทีเอสพาดอยู่ตรงกลางถนน ทำความรู้จักกับสาวน่ารักระดับลงนิตยสาร katch และหนุ่มโดดเรียนทำไมต้องไปเล่นตู้เกมมาบุญครองนะ มาบุญครอง ไม่ใช่ MBK! ..นี่สินะgapของวัย แล้วทีมมินิมอร์ท่านหนึ่งก็บอกว่า "ก็ยังดีกว่าเยาฮัน" ...จ้ะ สะเทือนมาก แต่มินิมอร์ทันแค่มาบุญครอง ว้าย *หัวเราะดังมาก* ไม่เคยได้มีโอกาสไปเดินบันไดสยามรอแมวมองหรอกนะ บ้านอยู่ฝั่งธนฯ งี้ บ้านไกล เข้าสยามเองหนแรกก็มัธยมปลายแล้ว โถ... มินิมอร์ก็ได้เรียนรู้อะไรหลายๆ อย่างจาก Siam Discovery เหมือนกัน ลองอ่านกันเลยจ้ะ
ไทม์แคปซูลที่ฝังไว้ในความทรงจำ จะถูกขุดขึ้นมาพร้อมหนังสือสองเล่มนี้!
Old School : หนังสือเล่มนี้มีระเบิด และ Old School 2 ความสุขของเด็กเล็กเท่าขนม
ผู้เขียน ณัฐชนน มหาอิทธิดล
Old School เล่มแรก พาเรานึกถึงอดีตที่น่าอับอาย ครั้งที่เราหาญกล้าฝากข้อความหวานเลี่ยนกับคนแปลกหน้าที่เป็นโอเปอเรเตอร์ ให้เขาพิมพ์ส่งไปยังเพจเจอร์ปลายทาง นอกจากข้อความหวานเชื่อมพวกเธอมีหน้าที่อะไร ณัฐชนนยังเล่าเกร็ดเกร็ดน้อยเสริมให้อีกด้วย ซึ่งเป็นเรื่องราวที่น่าสนใจมาก! ในยุคนั้นมินิมอร์ก็ทันใช้เพจเจอร์เหมือนกัน (น่าจะโมโตooล่าสีเขียวมะนาวเนื้อทรายเมทัลลิคบางๆอันจิ๋วๆ) แต่เพจนัดที่บ้านอย่างเดียวเลย โอเปอเรเตอร์คงคิดว่ามินิมอร์เป็นลูกค้าที่น่าเบื่อ...
จากเล่มแรกที่รวบรวมเอาไอเท็มเจ๋งๆ มาเล่าอัดแน่นสุดๆ เล่มสองณัฐชนนจูงมือเราเข้าไปอยู่ในเหตุการณ์ต่างๆ ของชีวิต ทั้งเรื่องเพื่อน โรงเรียน แล้วไหนจะโรงเรียนและโรงเรียนอีก (แน่สิ ก็เป็นนักเรียน เรื่องเรียนมันต้องเยอะสุดอยู่แล้ว) เรื่องเดิมเยอะแต่ไม่ซ้ำนะ!
เมื่อก่อนการดูโทรทัศน์ไม่ได้จำกัดแค่ดูละครหรือข่าว แต่มันคือการแย่งชิงเพื่อต่อสาย av เล่นเกมด้วยเหมือนกัน!
JOYSTICK
ผู้เขียน นวพล ธำรง รัตนฤทธิ์
ประสบการณ์ถอดตลับจากเครื่องแฟมิคอม (หรือซูเปอร์แฟมิคอม) เอามาจ่อปาก...และเป่า เพื่อให้เกมไม่ค้าง ช่างเป็นกิจวัตรที่คนเล่นเกมในยุคนั้นเคยชิน กี่ครั้งกี่หนแล้วที่เราตื่นตาตื่นใจ เมื่อเห็นตลับเกม 3ล้าน in 1 แล้วพอเสียบลงเครื่องปั๊บก็แทบน้ำตาไหลเป็นสายเลือด เพราะเกมแ-่งซ้ำกันไม่รู้กี่ครั้งกี่หน คุณหลอกดาว! *กัดผ้าเช็ดหน้า* จากยุคเกม 8 บิท นวพลพาเรามาต่อถึง 90s ตอนปลาย ยุคเกมที่ใช้แผ่นซีดี อย่าง Playsation.....เพลย์สเตชั่นเฉยๆ ไง ไม่ต้องสงสัยสิ มินิมอร์แค่ทันก่อนมันจะมี 2 3 4 ออกมาเองนะ! เล่มนี้อาจจะไม่มีตัวอย่างให้อ่าน...แต่ยังมีขายนะ *ส่งสายตาให้ทุกคน* *เข็นรถใส่หนังสือรอปรนนิบัติอย่างดี*
จากวันที่ต้องเดินหาสัญญาณโทรศัพท์...ตอนนี้ก็ต้องเดินหาอยู่ (อ้าว) แต่หาสัญญาณไวไฟฟรีแทนนะ!
วัตถุ WI-FI
ผู้เขียน คันฉัตร รังษีกาญจน์ส่อง
"เทอๆ มาทักแร้วนะ ทักเรากลับบ้างนะ อิอิ" ข้อความทักทายบนหน้าเว็บเพจสีดำที่ประกายกลิตเตอร์วิบวับ คือช่วงสมัยหนึ่งของอดีตที่ผ่านมาของ Hi5 โซเชียลเน็ทเวิร์คเริ่มมีบทบาทในสังคมยุคนี้อย่างมากจนยากที่จะปฏิเสธได้ แต่ก่อนหน้านี้ล่ะ เราผ่านอะไรมาบ้าง? ไฮไฟว์ เอ็มเอสเอ็น เฟซบุ๊ก ไปสืบสาวสาแหรกโซเชียลเน็ทเวิร์คที่ฝังรากลงในวัฒนธรรมป๊อบของไทยกับ "คันฉัตร" กันก็สนุกดีนะ ยิ่งเทรนด์แอพสำหรับแชทตอนนี้กลับไปสู่ยุค 90s ด้วยการขายสติกเกอร์ ส่งภาพเคลื่อนไหวได้ เหยยย แต่ตอนนั้น msn แอดด์ภาพเองได้ด้วยนะ ข้อความกลิตเตอร์ก็ใส่ได้ แน่นอนว่าก็มีปัญหาเรื่องผิดลิขสิทธิ์อยู่ การที่แอพแชทสมัยนี้เปิดโอกาสให้ผู้ใช้สามารถทำสติกเกอร์และธีมขายได้ นี่เรียกว่าเป็นการพัฒนาจากยุค 90s อย่างเห็นได้ชัดเลยล่ะ
เล่มนี้มินิมอร์บอกจากใจ ว่าภูมิใจเสนอมาก ในฐานะที่มินิมอร์เองเป็นแฟนผลงานของ 'พี่ต่าย ขายหัวเราะ' มาตั้งแต่ก่อนจำความได้เสียอีก
เมื่อโลกในหลายยุคถูกบันทึกผ่านการ์ตูน และจากตอนนั้นจนถึงวันนี้ ผู้เขียนก็ยังทำงานที่รักของตนเองอยู่ เลยเกิดเป็นหนังสือเล่มนี้ขึ้นมา
Laugh Is More
ผู้เขียน ต่าย ขายหัวเราะ
การ์ตูนไม่ใช่เรื่องของเด็ก..ไม่ใช่เรื่องของผู้ใหญ่ แต่เป็นเรื่องสนุกและเป็นตัวแทนยุคสมัยไม่ต่างจากสื่ออื่นเลย เช่นเดียวกับ Laugh is more ผลงานรวมเล่มล่าสุดของ พี่ต่าย ขายหัวเราะ นักเขียนขวัญใจใครหลายๆ คน (อย่างที่บอกไป พี่ต่ายเป็นไอดอลของของมินิมอร์ด้วย!) หนังสือเล่มนี้รวบรวมประวัติศาสตร์ช่วงหนึ่งของประเทศไทยเอาไว้ แม้จะไม่ได้ถูกบันทึกอย่างจริงจังโดยระเบียบราชการ แต่มันก็เหมือนเป็นการ์ตูนแก๊กแนว Slice of life นะ เพียงแต่มันตลกเท่านั้นเอง!
Laugh is More รวบรวมสุดยอดแก๊กที่คนอ่านต้องร้องอ๋อ! ในยุคหนึ่งเราเคยฮิตมุกโจรมุมตึก เราเคยมีแม่นากลงหม้อดิน จากยุคนั้นมาตอนนี้ แม้องค์ประกอบมุกจะดูเผินๆ แล้วเหมือนเดิม ที่เพิ่มเติมมาคือการใส่ข้อเท็จจริงให้มันตลกไงล่ะ ขอบอกเลยว่าโฟกัสแค่ 90s มันน้อยไป พี่ต่ายเขาผ่านมานานกว่านั้น แล้วจะสร้างสรรค์งานให้แฟนๆ อย่างเราไปอีกนาน *มินิมอร์ยกป้ายไฟเชียร์สุดแขน*
พี่ต่ายจัดเรียงเรื่องราวให้เราตั้งแต่กระบวนการคิดกระบวนการผลิต กลั่นกรอง จนกระทั่งเขียนออกมาเป็นการ์ตูน สมกับชื่อ Laugh Is More ในที่สุดเราก็ได้รู้เรื่องราวเบื้องหลังรอยยิ้มและเสียงหัวเราะที่พี่ต่ายได้มอบให้เรามาหลายสิบปี มินิมอร์เคยได้ยินเพื่อนกล่าวว่า "อย่างกับสารานุกรมการ์ตูนแก๊ก" ฟังแล้วมันปลื้ม...เมื่อนึกอีกที มินิมอร์หัดอ่านหนังสือ ด้วยการนั่งตักพี่ชาย แล้วพี่ชายก็เปิดขายหัวเราะ มหาสนุก สอนน้องวัย 2 ขวบอ่าน จนโตมาก็เป็นแบบนี้....หมายถึงได้มาทำงานใกล้ๆ เคียงๆ ไอดอลตัวเอง *เขิน*
เสริมว่าเล่มนี้หาง่ายสุด! เพิ่งออกเมื่องานหนังสือที่ผ่านมานี้ ใครสนใจกดลิงก์อ่านเพิ่มเติมแล้วซื้อได้ที่ minimore store เลย มีตัวอย่างให้อ่านด้วย แค่อ่านคำนำของ "บ.ก.วิติ๊ด" ที่เรารักและคุ้นเคยมาแต่เด็กก็ใจเต้น แล้วยังได้เห็นลายมือพี่ต่ายเขียนคำนำอีก T_T เล่มนี้มันมากกว่าแค่รวมแก๊กจริงๆ
ผั
