พูดถึงโซเชียลมีเดียขึ้นมาทีไร ผู้ใหญ่จำนวนมากเป็นต้องเบ้ปาก เบือนหน้าหนี นึกภาพเวลาโดนแม่บ่นเพราะก้มหน้าก้มตาเล่นมือถือนานเกินไปสิ (แต่หลังจากเราสอนให้แม่เล่นเป็น แม่เราก็จะไม่เงยหน้ามาอีกเลย)(โถ) คนจำนวนมากยังมองโซเชียลมีเดีย ไม่ว่าจะเฟซบุ๊กเอย ไลน์เอย ทวิตเตอร์เอย เป็นเพียงเรื่องเล่น ๆ หรือเรื่องชวนให้เสียเวลา (ก็แน่ล่ะ ถ้าแกติดเล่นแต่ทางไร้สาระ มันก็เสียเวลาน่ะสิ) ทั้ง ๆ ที่จริง ๆ แล้วโซเชียลมีเดียคือพลังสำคัญในการสื่อสาร หรือการขับเคลื่อนสังคมทางที่ใหญ่ที่สุดทางหนึ่งเลยล่ะ
ในขณะที่กระแสการห้ามราชการไทยใช้ไลน์ ใช้เฟซบุ๊กในเวลางาน มินิมอร์ขอนำเสนอ 5 การใช้โซเชียลมีเดียสุดพีคของหน่วยงานของรัฐที่จะทำให้เรารู้สึกว่า เฮ้ย ให้เจ้าหน้าที่รัฐใช้ไลน์ ใช้เฟซบุ๊กกันต่อเถอะ
gifsec.com
1.NASA ผู้ใช้โซเชียลมีเดียย่อจักรวาลมาสู่ผู้คน
จักรวาล อวกาศ หมู่ดาวเคราะห์น้อยใหญ่ ดูเป็นเรื่องไกลตัวเหลือเกินสำหรับมนุษย์บนดาวเคราะห์สีน้ำเงินอย่างเรา ๆ แต่อะไรก็เป็นไปได้เมื่อมีโซเชียลมีเดีย เพราะ NASA เขาเปิดทุกช่องทางการสื่อสารทั้ง Instagram, YouTube, Facebook และ Twitter เพื่อจะอัพเดตทุกความรู้ ความคืบหน้าในอวกาศให้คนบนโลกรับรู้แบบเรียลไทม์
ใครที่ชินแต่กับการเห็นเพื่อนโพสท์อวดรูปอาหารทุกมื้อ โชว์ว่าได้ไปเที่ยวทุกเทศกาล บอกได้เลยว่าภาพและข้อมูลจาก NASA นอกจากจะให้ความตื่นตาตื่นใจแล้ว ยังได้ความรู้ปนเรื่องทึ่ง ๆ อยู่ตลอดเวลา ทั้งเซล์ฟฟี่ของนักบินอวกาศที่มีฉากหลังเป็นโลก การปลูกดอกไม้ในอวกาศได้สำเร็จ ฉากวิว(ที่กระทู้พันทิปไม่มีวันให้ได้)เพราะมันคือวิวจากนอกโลก!
เห็นอย่างนี้แล้วยิ่งทำให้รู้ว่าความรู้และการสื่อสารไม่มีพรมแดน ไม่ใช่แค่ระดับข้ามเมือง ข้ามจังหวัด หรือข้ามประเทศนะ นี่มันข้ามโลกกันแล้ว ถ้าเขาห้ามนักบินอวกาศเล่นโซเชียลมีเดียบ้างคงเสียดายน่าดู
2.'SAVE award' อวอร์ดที่เปิดให้เจ้าหน้าที่ของรัฐแข่งกันเสนอนโยบาย SAVE งบประมาณ
libertynews.com
แม้เราจะพยายามอย่างหนักในการห้ามพี่ ๆ ราชการใช้โซเชียลมีเดียในเวลางาน แต่บอกได้เลยว่าประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาเขาไม่ได้คิดแบบนั้น เลยเปิด 'SAVE award' ขึ้นมา โดยเป็นพื้นที่ในเว็บไซต์ของทำเนียบขาวนี่แหละ แต่เปิดให้เจ้าหน้าที่ของรัฐไม่จำกัดตำแหน่ง ไม่จำกัดระดับมาเสนอนโยบายที่คิดว่าจะช่วยรัฐประหยัดงบประมาณ และสามารถนำงบประมาณไปใช้ให้มีประสิทธิภาพสูงสุดให้ได้ เพราะระดับบริหารของเขาเชื่อว่าไม่มีใครจะรู้ดีไปกว่าคนทำงานจริง (เออ คิดดีอ่ะ ชอบ)
open.defense.gov
SAVE award มีขึ้นตั้งแต่ปี 2009 และดำเนินเรื่อยมาถึงปี 2013 พี่ ๆ เจ้าหน้าที่ของรัฐชาวสหรัฐอเมริกาก็แห่กันมาเสนอนโยบายกันอย่างล้นหลาม (เกือบเก้าหมื่นไอเดียเลยล่ะ) ใครที่ได้เข้ารอบไฟนอลก็จะตามลุ้นกันสุด ๆ สำหรับผู้ชนะ SAVE award ของแต่ละปีรางวัลที่ได้รับก็คือการที่ทำเนียบขาวจะนำแนวนโยบายไปใช้จริง! (โห เท่เลยอ่ะ)(ของเราก็น่าจะเปิดให้เสนอบ้างเนอะ)
3.วิชาซอมบี้ 101 เพื่อเรียนรู้การเอาตัวรอดในภาวะวิกฤต
pixabay.com
อ่ะ ถ้าเราเป็นเจ้าหน้าที่ในองค์กรด้านสาธารณสุข ลองคิดกันเล่น ๆ ทีว่าเราจะทำยังไงให้ประชาชนรับรู้ข้อมูลเกี่ยวกับสาธารณภัย ภัยพิบัติ หรือการระบาดของโรคได้ดีที่สุด ? พาวเวอร์พอยท์สุดเท่ ? อินโฟกราฟิกสุดพีค ? หรือแคมเปญรณรงค์หน้าห้างดัง ?
gifsec.com
ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคระบาดสหรัฐฯ หรือ CDC เขาไปไกลกว่านั้น ในช่วงที่กระแสซีรีส์ Walking dead ซอมบี้บุกเมืองกำลังดัง เขาเลยถือโอกาสโพสท์เรื่อง ซอมบี้ 101 ลงบนเว็บไซต์ซะเลย ซึ่งมันได้ผลมากเพราะมีคนเข้ามาดูบทความนี้เยอะกว่าบทความแบบปกติทั่วไปถึง 10 เท่าแหนะ(โห)
แล้วก็อย่าคิดว่าทำเอากระแส ให้คนแชร์เล่น ๆ นะ เพราะในนั้นอัดแน่นไปด้วยความรู้ (ที่ถ้าดูเผิน ๆ ) เหมือนไม่ใช่ความรู้ เช่น เราต้องเตรียมตัวอย่างไรในวันที่ซอมบี้บุกโลก เขาก็จะระบุสิ่งของจำเป็นที่เราควรเตรียมไว้ ซึ่งก็ไม่ต่างจากการเตรียมตัวเมื่อเกิดภัยพิบัติอย่างพายุเฮอร์ริเคน พายุหิมะ นอกจากจะอ่านสนุก ดึงดูดความสนใจ ทำให้คนเข้าใจง่ายแล้ว ยังทิ้งวิธีติดต่อขอความช่วยเหลือจากรัฐไว้อย่างเนียน ๆ ใช้โซเชียลมีเดียเข้าถึงประชาชนได้น่ารักขนาดนี้จะไม่ให้บอกว่าเจ๋งได้ไง
4.สติกเกอร์ไลน์ค่านิยม 12 ประการ มูลค่า 7 ล้านบาท
วกกลับมาที่ไทยกันบ้าง อย่าคิดว่าประเทศเราไม่มีการเข้าถึงประชาชนด้วยโซเชียลมีเดียล่ะ แม้องค์กรต่างชาติเขาจะเน้นทำอะไรหนัก ๆ แต่เรามาพร้อมความสดใส เมื่อรัฐบาลรู้ว่าชาวไทยชอบส่งสติกเกอร์ไลน์หากันมากเป็นพิเศษ ก็เลยทำสติกเกอร์ไลน์เป็นรูปการ์ตูนสุดน่ารักเผยแพร่ค่านิยม 12 ประการ ทั้ง ประหยัด ซื่อสัตย์ กตัญญู ฯลฯ ซะเลย
สติกเกอร์สุดคิวท์นี้เปิดให้ได้โหลดฟรีไปใช้ได้ 90 วันเต็ม ๆ งบประมาณสติกเกอร์ประชาสัมพันธ์ค่านิยมครั้งนี้ก็ 7 ล้านบาทเท่านั้น ไหนมีใครใช้บ้างยกมือขึ้น ใช่แล้วจำค่านิยมทั้ง 12 ประการได้บ้างหรือยังนะ
5.นโยบายใหม่สดวันนี้ พีอาร์ของรัฐผู้มีหน้าที่ขจัดข้อมูลปลอม
ไม่แน่ใจว่าคนในกรมการปกครองกับรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีท่านเคยคุยกันบ้างหรือเปล่า เพราะในขณะที่ฝั่งหนึ่งออกมาประกาศกร้าวชัดเจนว่าราชการห้ามใช้โซเชียลมีเดียในเวลางาน แต่รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ ท่านก็ประกาศสด ๆ ร้อน ๆ วันนี้แหละว่านโยบายของท่านคือ "พีอาร์ของรัฐ จริงใจ จริงจัง บำบัดทุกข์ บำรุงสุขเพื่อพี่น้องประชาชน"
โดยจะปรับปรุงเว็บไซต์ของรัฐให้ดูทันสมัยขึ้น (ไม่ให้ดูเรทโทรเหมือนพาวเวอร์พอยท์สมัยประถมจนเกินไป) ข้อที่มินิมอร์ล่ะปลื๊มปลื้มคือถ้ามีข่าวเชิงลบ ที่สร้างความเสียหาย หรือเข้าใจผิดให้แก่รัฐก็ต้องมีเจ้าหน้าที่ราชการคอยไปตอบ ไปแก้ข่าว ให้ได้ทันท่วงที (เหมือนกรณีคุณป้าพิพากษาที่อาละวาดคนนั้นใช่ม้า) เรียกได้ว่าเราจะสบายใจเพราะได้ฟังแต่ข่าวดี ๆ ของรัฐเลยล่ะ
โลกกำลังหมุนไปข้างหน้าอยู่ทุกวัน เราคงไม่สามารถหยุดการเคลื่อนไหวของโลก รวมถึงเทคโนโลยีที่เข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันของเราลงได้ คงจะดีไม่น้อยถ้าทั้งหน่วยงานของรัฐ เอกชน หรือแม้แต่ประชาชนอย่างเรา ๆ เรียนรู้ที่จะใช้โซเชียลมีเดียขับเคลื่อนหลาย ๆ อย่างในสังคม โดยเริ่มต้นได้ง่าย ๆ แค่เปิดใจรับก่อนว่าโซเชียลมีเดียก็มีด้านดี ๆ และมีพลังของมันที่เราอาจคาดไม่ถึงเลยก็ได้
ที่มา : blogs.cdc.gov,whitehouse.govinformationweek.com, matichon.co.th,macthai.com,macthai.com