'ชุดไทยไปรับปริญญา'เด็ก ๆ ที่อื่นหมารับปริญญาได้ คนตีลังการับก็ได้ เออ เอาสิ!

ฮือฮากันทั้งประเทศเมื่อสาวไทยที่สวมชุดไทยเข้าพิธีรับปริญญาเอกที่ Usher hall ของมหาวิทยาลัย Edinburgh ประเทศอังกฤษ นอกจากเสียงชื่นชมอย่างล้นหลาม หลายคนก็คงอดสงสัยไม่ได้ว่า เอ ใส่ชุดอะไรรับปริญญาก็ได้เหรอ ? เจ้าตัวก็ออกมาชี้แจงแล้วนะว่าที่นั่นให้ใส่ชุดที่บ่งบอกถึงชาติพันธุ์ตัวเองได้ หรือจะใส่ชุดสุภาพก็ได้

วันนี้มินิมอร์เลยขออาสาพาตะลุยดูชุด+งานรับปริญญาจากแต่ละมุมโลก ว่าเขาจะเปิดพื้นที่ให้บัณฑิตของเขาทำอะไรกันได้บ้าง จะรุ่งหรือจะร่วงในสายตาคนไทยแค่ไหน มาดูกันนน


1.ไม่เสียชื่อมหาวิทยาลัยศิลปะจากญี่ปุ่น ชุดรับปริญญาสร้างสรรค์จนต้องยอมใจ


ชุดสุดพีคที่เห็น ๆ อยู่นี่ไม่ใช่สยามหรือแหล่งประลองคนแต่งคอสเพลย์กันแต่อย่างใด (ถึงแม้จะดูเหมือนก็เหอะ) แต่นี่คือชุดรับปริญญาของวิทยาลัยศิลปะ Kanazawa  (แหม่ เรียนศิลปะมันก็ต้องสร้างสรรค์สิเนอะ) ชุดที่เหล่าบัณฑิตพากันขุดมาแต่งในวันรับปริญญาก็ทั้งสร้างสรรค์ แปลก เพี้ยนจนดังไปทั่ว


แต่ละปีก็จะมีรายการโทรทัศน์มาสัมภาษณ์บัณฑิตถึงแรงบันดาลใจในการเลือกชุด เพราะเขาไม่ได้แต่งมาเล่น ๆ จ้ะ แต่มีการให้รางวัลชุดแต่งกายยอดเยี่ยมอีกด้วย อื้อหือ งานรับปริญญาของพวกเขาเลยเป็นทั้งความสนุก งานประชาสัมพันธ์ความคิดสร้างสรรค์ให้มหาวิทยาลัย และไม่ใช่แค่วิทยาลัยศิลปะหรอกแต่มหาวิทยาลัยอย่างมหาวิทยาลัยเกียวโต นักศึกษาเขาก็สุดเหวี่ยงไม่แพ้กัน


อ่อ จริง ๆ แล้วมหาวิทยาลัยส่วนใหญ่ในญี่ปุ่นไม่มีข้อบังคับว่าต้องใส่ชุดครุย เราสามารถใส่ชุดอะไรไปรับปริญญาก็ได้ ฉลองกันให้สุดเหวี่ยง เพราะหลังจากเป็นมนุษย์ทำงานแล้วคนญี่ปุ่นเขาก็จริงจังกับการทำงานน่าดูเลย (แหม่ ก็ชุดในวันเฉลิมฉลองมันไม่ได้วัดอะไรนี่นา)

2.สั้น ง่าย กระชับ รับเสร็จก็กระโดดแ-่งเลย!?


ข้ามโลกไปที่ฟากสหรัฐอเมริกากันบ้าง คราวนี้งานชุดครุยบัณฑิตต้องมา แต่คอนเซปต์ข้างในจะใส่อะไรก็ได้ก็เอาที่สะดวก (บางคนก็มีครุยไว้เหวี่ยงเล่นเก๋ ๆ เท่านั้นเอง โถ) เพราะงานรับปริญญาของเขามันคืองานที่บัณฑิตจะมาสนุกสุดเหวี่ยงไปด้วยกันหลังจากหน้าดำคร่ำเคร่งกับการเรียนมาแสนนาน พิธีรีตองอะไรก็ไม่มีให้ต้องเครียด



หลังจากตัวแทนนักศึกษากล่าวอะไรสั้นแสนสั้นจบ อยู่ ๆ เพลงก็ดังกระหึ่มไปทั่วบริเวณแล้วทุกคนก็ลุกขึ้นมาเต้นแร้งเต้นกาเหมือนไม่เคยได้เต้นมาตลอดชีวิตซะอย่างนั้น! ไม่บรรยายอะไรให้มากความแล้วกัน ดูเอง!?


3.ดีใจจนกระโดดโลดเต้นหรอ ธรรมดาไป ขอตีลังการับปริญญาเลยดีกว่า



ถ้าที่สหรัฐอเมริกากระโดดว่าสุด ๆ แล้ว ก็ขอให้ลืมไปได้เลยจ้ะ เพราะประเทศเพื่อนบ้านที่ใกล้แสนใกล้เราสุด ๆ อย่างมาเลเซีย เขาไปไกลกว่านั้นอีก (มีไกลกว่าเต้นด้วยกันทั้งมหาวิทยาลัยอีกหรอ?) นี่คือการโชว์สเตปเดี่ยว ๆ เป็นครั้งสุดท้ายในชีวิตมหาวิทยาลัยมาลายา โดยทุกคนจะมีเวลาเป็นของตัวเองในการวาดลวดลายอะไรก็ได้มารับใบปริญญาที่แสดงความสำเร็จของตัวเองไป

ก็มีตั้งแต่พริ้ว ๆ เบา ๆ ไปยัน ตีลังกาหลายตลบเข้ามารับ (หูยย มันต้องขนาดนั้นเลยหรอแก?) บรรยากาศจึงเต็มไปด้วยความสนุกหลุดโลกแบบที่เราคาดไม่ถึงแน่ ๆ เพราะเพื่อน ๆ ก็จะคอยส่งเสียงเชียร์ ดูซิว่าท่ารับปริญญาใครจะพีคกว่ากัน เอ๊อ เอาสิ เรียกได้ว่าแสดงท่าไม้ตายครั้งเดียว ต้องจำงานรับปริญญาแบบนี้ไปชั่วชีวิตเลยแน่ ๆ 

4.ชุดครุยไม่ได้เป็นของต้องห้ามอีกต่อไป ใคร ๆ ก็ใส่ได้ไม่ใช่แค่คนนะ
หมาก็ด้วย (ฮะ เอาจริงดิ?)


Carlos Mora คือบัณฑิตปริญญาโทด้านวิทยาศาสตร์จิตวิทยาการให้คำปรึกษา จากมหาวิทยาลัย Johns Hopkins นอกจากญาติโกโหติกาของ Mora แล้วคนที่มากับเขาด้วยคือน้องหมาของเขาที่ชื่อว่า Kirsh นั่นเอง อ้อ เจ้าหมาไม่ได้มาแค่ร่วมแสดงความยินดีด้วยนะ แต่มาในฐานะบัณฑิตฯอีกคน คุณพระ!? (ชักจะล้ำไปใหญ่)



มหาวิทยาลัยให้เหตุผลว่าก็เจ้า Krish เข้ามาเรียนกับ Mora ครบทุกวิชาตลอดการเรียนการสอน แล้วทำไมเราจะให้มันเข้ารับปริญญาบัตรด้วยไม่ได้ล่ะ ? อ่อ แล้วก็ไม่ใช่จะแต่งชุดมาเก๋ ๆ ถ่ายรูปกันเล่น ๆ แค่นั้นนะ เพราะ Krish ได้ขึ้นเวทีไปรับปริญญาบัตรจริง ๆ ในหอประชุมพร้อมเจ้าของด้วย!? 

บรรยากาศวันรับปริญญาของมหาวิทยาลัย Johns Hopkins จึงเต็มไปด้วยความอบอุ่น ประทับใจ เจ้าหมาน้อยก็ได้เสียงปรบมือและใจจากคนทั้งมหาวิทยาลัยไปเต็ม ๆ เลยล่ะ


อ่ะ ๆ แถมที่ Usher hall ของมหาวิทยาลัย Edinburgh ที่สาวไทยไปแต่งชุดไทยเข้ารับปริญญาไว้ ก็มีน้องหมาเข้าร่วมงานรับปริญญากับเขาเหมือนกันนะ เพียงแต่ไม่ได้เข้าไปรับถึงใน Hall เหมือนที่มหาวิทยาลัย Johns Hopkinsเท่านั้นเอง (โอ๊ยยย แต่ความน่ารักไม่แพ้กันเลยจริง ๆ ?)

5.ความงามที่ไม่ได้ขึ้นอยู่แค่กับชุดครุย คิดเจ๋ง ๆ ก็เปล่งประกายได้ ครุยจากขวดพลาสติก!?


ไม่รู้ว่ามหาวิทยาลัย  New Hampshire ที่สหรัฐอเมริกาเขามองว่าชุดครุยและหมวกมันช่างเป็นความสิ้นเปลืองหรืออย่างไร ทั้งชุดและหมวกของเขาเลยทำมาจากวัสดุรีไซเคิล !? เดี๋ยวจะหาว่าเป็นการแต่งชุดแฟนซีจากขยะเหมือนสมัยประถม แต่บอกเลยว่าไม่ใช่จ้ะ เพราะเขาก็ออกแบบให้เป็นชุดแบบที่มหาวิทยาลัยอยากให้ใส่นั่นแหละ เพียงแต่ชุดทำมาจาก UltraGreen ซึ่งคือผ้าที่มีน้ำหนักเบาทนต่อรอยขีดข่วนและสามารถนำกลับมาใช้ได้อีก ความพีคคือมันรีไซเคิลมาจากขวดน้ำพลาสติก!?


ทันทีที่รับปริญญาเสร็จเขาก็ไม่ต้องมีพิธีีตองแต่อย่างใด ใครประสงค์จะส่งต่อชุดครุยจากขยะให้นักศึกษารุ่นต่อ ๆ ไป ก็เชิญถอดตรงนั้น ทำความสะอาดตรงนั้น แล้วแพ็คเก็บให้เรียบร้อยเพื่อพร้อมให้นักศึกษารุ่นต่อ ๆ ไปได้ใช้ (เออ ดีอ่ะ ชุดครุยจากขยะแบบไม่สิ้นเปลือง แถมส่งต่อให้คนอื่นใช้ได้อีก)

ไม่น่าเชื่อว่าแค่งานรับปริญญา ชุดรับปริญญาจะมีความหลากหลายได้มากขนาดนี้ ชุดทุกชุด พิธีแต่ละรูปแบบก็มีความดีงามในแบบของตัวเอง บางมหาวิทยาลัยอาจจะดูขลัง บางมหาวิทยาลัยอาจจะดูสนุก บางมหาวิทยาลัยอาจจะดูสร้างสรรค์ หรือบางมหาวิทยาลัยก็เรียบง่าย อบอุ่นจนเอาหมาเข้าไปรับด้วยก็ยังได้

จะให้มานั่งวัดว่ารับปริญญาแบบไหนดีกว่าแบบไหน แบบไหนภาคภูมิใจกว่ากันก็คงเป็นสิ่งที่คิดแทนคนอื่นได้ยากแสนยาก บางคนเขาก็แฮปปี้กับแค่ชุดขยะจากขวดพลาสติก และได้เต้นหลุดโลกในวันสำคัญอย่างวันรับกระดาษแทนความสำเร็จแผ่นเดียว ก็เป็นเรื่องของเขานี่เนอะ


ที่มา: jatschool.comen.rocketnews24.com,education.kapook.comyoutube.com,board.postjung.compantip.comwow2mouth.com,siamok.comhuffingtonpost.comindependent.co.uk,board.postjung.com