โลกออนไลน์จะกลายเป็นชีวิตจริง นี่คือ'ทักษะใหม่ที่ต้องรู้'เพื่ออยู่รอดในยุคหน้า

แม้หลายคนจะเลยวัยเรียนมาไกลแสนไกลแล้ว (เอาน่า อายุเป็นเพียงตัวเลข) แต่การเรียนรู้เป็นสิ่งที่ทำได้ตลอดชีวิตโดยไม่เกี่ยวกับอายุสักหน่อย เมื่อโลกหมุนไปข้างหน้าอยู่ทุกวัน ถ้าให้เรียนแต่เรื่องเดิม ๆ คงจะเอาตัวรอดลำบาก วันนี้มินิมอร์จะพามาดูกันว่าโลกยุคใหม่เราต้องเรียนรู้อะไรกันบ้างเพื่ออยู่รอด! (ฟังดูยิ่งใหญ่ที่สุด)


giphy.com

ในยุคต่อไปเราจะเข้าสู่สังคมยูบิคิวตัส (ubiquitous) (ถึงชื่อจะเหมือนต้นยูคาลิปตัสแต่ก็ไม่มีความเกี่ยวข้องกันแต่อย่างใด) สังคมยูบิคิวตัสเป็นสังคมที่คอมพิวเตอร์จะเข้ามามีบทบาทในสังคมของเรามากขึ้น (หูย จะเหมือนในหนังไซไฟที่เคยดูไหมนะ) เพราะคอมพิวเตอร์จะมีขนาดเล็กลง ความเร็วก็สูงขึ้น ๆ หน่วยความจำยิ่งไม่ต้องพูดถึง ส่วนราคาก็จะถูกแสนถูกจนทุกคนเป็นเจ้าของได้ โลกดิจิตัลที่เราเคยคิดว่ามันจะเป็นแค่โลกเสมือน ใช้แค่เล่นเกม เล่นโซเชียลมีเดีย มันจะกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเราขึ้นมาจริง ๆ แล้ว

yourorlandooptometrist.com

สหรัฐอเมริกาเป็นอีกประเทศที่ออกมาประกาศอย่างมั่นใจว่าต่อไปนี้เด็กทุกคนในสหรัฐอเมริกาจะต้องมีโอกาสในการเรียนรู้วิทยาการคอมพิวเตอร์ หรือ Computer Science เพื่อเข้าสู่เศรษฐกิจแบบดิจิตัลที่จะมาถึง เขาอยากให้เด็ก ๆ ของเขาเติบโตไปเป็นผู้ผลิต ผู้ลงทุนมากกว่าเป็นแค่ลูกค้าในตลาดดิจิตัลอันกว้างใหญ่ไพศาลนี้ (เออ คิดดีแฮะ)(จะมามัวกดซื้อของในอินสตาแกรมอย่างเดียวไม่ได้ มันต้องสร้างเว็บไซต์ขายของเองซะเลย!)

techaddiction.ca

ถ้าวิทยาการคอมพิวเตอร์เป็นสิ่งที่คุณเพิ่งเคยได้ยินเป็นครั้งแรก มินิมอร์จะเล่าให้ฟังว่านี่คือศาสตร์ที่เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ โอเค ลืมวิชาคอมพิวเตอร์สมัยประถมกันไปก่อนนะ เพราะมันไปไกลกว่านั้น ตรงที่เราจะได้เรียนรู้ทั้งโครงสร้างของคอมพิวเตอร์ การทำงานภายในคอมพิวเตอร์ ไปจนถึงการนำคอมพิวเตอร์ไปประยุกต์ใช้งาน เขียนโปรแกรมเอย เรียนรู้ระบบคอมพิวเตอร์ซับซ้อน ๆ อย่างปัญญาประดิษฐ์เอย ซึ่งทั้งหมดนี้สหรัฐอเมริกาเขาประกาศว่ามันต้องเป็นทักษะพื้นฐานที่เรียนกันตั้งแต่ประถม มัธยมกันเลย!


brandeis.edu

อย่าคิดว่าเรื่องแบบนี้มันยากเกินไปสำหรับเด็กล่ะ เพราะทันทีที่ซีอีโอเฟซบุ๊ก มาร์ก ซักเคอร์เบิร์กได้ยินข่าวนี้จากทำเนียบขาว สหรัฐอเมริกาปุ๊ป เขาก็ออกมาบอกทันทีเลยว่านี่เป็นความคิดที่ดีมาก เพราะตัวเขาเองก็เริ่มเขียนโปรแกรมตอนอายุ 10 ขวบเท่านั้น (เดี๋ยวนะ อายุ 10 ขวบพวกแกทำอะไรอยู่ ดูมาร์กสิ) แล้วคอมพิวเตอร์ที่เขาใช้เริ่มเขียนโปรแกรมก็เป็นคอมพิวเตอร์ในร้านหมอฟันของพ่อเท่านั้น (ไม่ได้เป็นคอมพิวเตอร์ล้ำสมัยอะไร) การเรียนรู้วิทยาการคอมพิวเตอร์จึงเป็นการเพิ่มพลังและสร้างภูมิต้านทานให้เด็ก ๆ ในยุคใหม่ที่กำลังจะมาถึง


fansided.com

มาร์กยังบอกอีกว่าการเขียนโปรแกรม และการเรียนรู้ว่าคอมพิวเตอร์ทำงานอย่างไรทำให้ชีวิตเขาไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป และเขาก็อยากเห็นเด็กทุกคนมีโอกาสสร้างสรรค์สิ่งดี ๆ ให้เกิดขึ้นจากการเรียนรู้วิทยาการคอมพิวเตอร์ด้วย (ดูสิ ขนาดมาร์กไม่ได้เรียนยังขนาดนี้ ถ้าเด็ก ๆ ได้เรียนจะโตมาเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพขนาดไหนกันนะ)


hongkiat.com

ย้อนกลับมาที่ไทยกันบ้าง แม้ผู้ใหญ่จะยังไม่อยากยอมรับว่าเทคโนโลยี เกม โลกดิจิตัลจะสร้างสรรค์สิ่งดี ๆ ได้ แต่เด็ก ๆ ในไทยก็ทำให้เห็นเป็นแบบอย่างแล้วว่าพวกเขาสามารถใช้เกมมาช่วยในการเรียนรู้ได้ โดยใช้เกม Minecraft (ซึ่งเป็นเกมที่ให้เราก่อร่างสร้างเมือง หรือสิ่งปลูกสร้างอะไรก็ได้ตามที่เราจินตนาการ) มาสร้างเป็นสถานที่ต่าง ๆ ที่พวกเขาต้องเรียนในบทเรียน เช่น ถ้าเรียนนิราศภูเขาทอง ก็สร้างภูเขาทองแล้วจำลองการเดินทางของสุนทรภู่ระหว่างเดินทางมันซะเลย หรือเรียนเรื่องสถาปัตยกรรม ก็สร้างวัดพระธาตุลำปางหลวงขึ้นมาจนเราต้องอ้าปากค้างเลยทีเดียว



โลกดิจิตัลที่ครั้งหนึ่งเราอาจะเคยบอกว่ามันเป็นได้เพียงโลกเสมือน แต่จากนี้ไปมันจะกลายมาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตจริงผู้คนมากขึ้น นอกเหนือจากวิทยาการคอมพิวเตอร์ที่ทุกคนควรเรียนรู้เพื่ออยู่รอด การมีความคิดสร้างสรรค์ รวมถึงทำความเข้าใจเรื่องสังคม วัฒนธรรม และความเป็นมนุษย์ที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีก็เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้เลย

ไม่ว่าเราจะหวาดกลัวการมาถึงของเทคโนโลยีล้ำสมัยขนาดไหนก็ตาม เราก็คงไม่อาจขวางกั้นเด็ก ๆ ของเราและตัวเราจากเทคโนโลยีไปได้ตลอดชีวิต จะดีกว่าไหมถ้าเราเริ่มตั้งแต่วันนี้ในการเรียนรู้ที่จะใช้เทคโนโลยี ใช้คอมพิวเตอร์ เรียนรู้ความทับซ้อนระหว่างสังคมกับสังคมออนไลน์มากขึ้น เพื่อให้ตัวเราเองและเด็ก ๆ รู้เท่าทันดีกว่าห้ามนู่นห้ามนี่และปิดกั้นตัวเองออกจากความก้าวหน้าของโลก


ที่มา : voicetv.co.thwhitehouse.gov,ict.in.th,schoolguide.in.th,siit.tu.ac.th