ที่ว่าไปในข้างต้นเป็นตัวอย่างของซีรีส์ญี่ปุ่นที่ออกอากาศในช่วงฤดูใบไม้ผลิที่ผ่านมา อย่างที่ทราบกันดีว่าละครแดนปลาดิบนั้นเน้นเรื่องการงานของตัวละครเป็นสำคัญ เราจะเห็นว่าบ่อยครั้งที่ ‘อาชีพ’ ของพระเอกนางเอกเป็นจุดเริ่มเรื่องราวทั้งหมด ในขณะที่ละครไทยจะเน้นความดราม่าเป็นหลัก (หรือบางทีดูจบแล้วยังไม่รู้เลยว่าพระเอกทำงานอะไร)

อีกหนึ่งซีรีส์ญี่ปุ่นน่าสนใจช่วงที่ผ่านมาก็คือ Sleepeeer Hit! (หรือชื่อญี่ปุ่น Juhan Shuttai!) เรื่องราวของ Kokoro Kurosawa สาวไฮเปอร์ที่เคยเป็นนักกีฬาทีมชาติยูโด แต่หลังจากได้รับบาดเจ็บเธอผันตัวมาทำงานกองบรรณาธิการนิตยสารการ์ตูน และนั่นทำให้เธอพบกับเรื่องชวนปวดหัวมากมาย

อาจกล่าวอย่างเข้าใจง่ายๆ ว่า Sleepeeer Hit! เป็น Bakuman ด้านกลับ ในขณะที่เรื่องหลังเน้นมุมมองจากนักเขียนการ์ตูน Sleepeeer Hit! ทำให้เราเห็นว่า บ.ก. นั้นต้องคิดทั้งเรื่องการสร้างสรรค์ ไม่ว่าจะการหานักเขียนใหม่ หรือการให้กำลังใจรุ่นเก๋าที่หมดไฟ แต่ทั้งนี้เรื่องการตลาดก็ละทิ้งไม่ได้ เช่น นางเอกเดินทางไปปรึกษาเรื่องสีปกของการ์ตูนใหม่กับพนักงานร้านหนังสือ แล้วก็ได้ทริคว่าหนังสือของค่ายอื่นๆ ที่ออกวันเดียวกันเป็นโทนมืด เธอเลยตัดสินใจให้ปกหนังสือเล่มนั้นสีขาว 

สำหรับผู้ที่ไม่คุ้นชินกับละครญี่ปุ่นอาจมีปัญหาบ้าง ตามขนบของละครตลกที่นักแสดงจะเล่นใหญ่ๆ เว่อร์ๆ โดยเฉพาะยัยนางเอกที่บางครั้งก็เยอะจนน่ารำคาญ แต่ทั้งนี้ก็ต้องชม Haru Kuroki ที่แสดงได้เข้ากับบรรยากาศของเรื่อง ส่วนอีกคนที่ควรได้รับคำชมคือ Joe Odagiri ที่พิสูจน์ว่าเขาก็เล่นเป็นคนปกติได้

ท้ายสุดขอทิ้งท้ายด้วยประโยคน่าจำของหนังที่กล่าวว่า “อาชีพนักเขียนก็เหมือนการวิ่งมาราธอนที่ไม่มีวันถึงเส้นชัย” และ Sleepeeer Hit! ก็บอกกับเราว่า บ.ก. อาจไม่ใช่คนชี้เส้นชัย แต่เป็นแค่คนที่วิ่งไปกับนักเขียนเท่านั้นเอง

         ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Readgiraffe