คดียังไม่ถึงที่สุด? ไล่'สรยุทธ'ไปติดคุก มองมาตรฐานจริยธรรมจากหลายมุม

นาทีนี้ใครจะดังไปกว่าเฮียสอ สรยุทธ สุทัศนะจินดา ผู้ดำเนินรายการข่าวชื่อดังที่ปกติก็เป็นที่รู้จักอยู่แล้ว ยิ่งศาลอาญามีคำสั่งพิพากษาจำคุก เฮียแกก็ยิ่งถูกพูดถึงมากขึ้นไปอีก 35 ระดับ แถมยังเจอดราม่าชุดใหญ่ไล่แกไปติดคุกบ้าง ไล่ให้ไม่มาจัดรายการบ้าง

หูยย กระแสรุนแรงจนต้องร้องขอชีวิตเลยล่ะ จะให้ไล่ ๆ ไปกับเขามันก็ได้อยู่นะ แต่ไม่อยากรู้เหรอว่าไล่แล้วยังไง? เฮียแกต้องไปมั้ย? เอ๊ะ แล้วคดีสิ้นสุดหรือยัง ? มินิมอร์อาสาพาตะลุยดราม่าแบบมีสติไปพร้อม ๆ กัน




เหมือนฟ้าผ่าลงมากลางหัวเฮียสรยุทธเมื่อศาลอาญามีคำพิพากษาจำคุกเป็นเวลา 13 ปี 4 เดือน จากข้อหาที่เกี่ยวกับการทุจริตค่าโฆษณาของบริษัท อสมท จำกัด (มหาชน)  (ข่าวลงกันทุกฉบับ ทีวีพูดถึงทุกช่อง ไปหาดูหาอ่านให้หนำใจ)



ฟ้าจะผ่าเฮียแกก็ผ่าไป แต่ชาวไทยพากันฮึกเหิมยิ่งกว่าไปออกรบ เมื่อสารพัดเพจดังบนโลกออนไลน์พากันออกมาบอกว่า อี๋ ไม่อยากเห็นหน้าคนโกง มันไม่โอเค เรารับไม่ได้ พากันเฮโลไล่เฮียสรยุทธ เพราะเห็นว่าไม่สมควรจัดรายการแล้ว ในขณะที่บางคนก็ไม่ไล่แต่ถ้าเฮียยังจัดรายการข่าวอยู่ พวกเราจะแบนช่องสามแน่นอน! (คุณพระ พลังชาวเน็ตช่างน่ากลัว)





รูปคดีและความผิดก็ว่ากันไปตามกระบวนการยุติธรรม แต่ไล่กันเหมือนหมูเหมือนหมาขนาดนี้ คดีถึงที่สุดหรือยังนะ ?



ถึงศาลชั้นต้นท่านจะตัดสินจำคุกออกมาเรียบร้อยแล้ว แต่คดีนี้ก็ยังเป็นเพียงคดีเสร็จเด็ดขาดเท่านั้น อ่ะ อ่ะ อย่าเพิ่งงงว่าคดีเสร็จเด็ดขาดคืออะไร ? คดีเสร็จเด็ดขาด ก็คือคดีที่ศาลได้มีการวินิจฉัยและพิพากษาไปเรียบร้อยแล้วนี่แหละจ้ะ แต่ถ้าคู่ความไม่พอใจ ก็สามารถใช้สิทธิอุทธรณ์ ฎีกาต่อไปได้อีก 


แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะปล่อยไว้นานเท่าไหร่ก็ได้แล้วค่อยยื่นอุทธรณ์นะ ต้องยื่นต่อศาลชั้นต้นภายใน 1 เดือนนับตั้งแต่วันอ่านคำพิพากษา (ก็ถ้าเป็นกรณีนี้ ถ้าเฮียสรยุทธและพรรคพวกจะยื่นอุทธรณ์ก็ต้องยื่นภายในเดือนมีนานี้แหละ)

ซึ่งแน่นอนว่าเฮียสรยุทธแกก็ยื่นเงินประกันมูลค่า 2 ล้านบาทถูกต้องตามกฎหมายทุกประการ พร้อมรับเงื่อนไขว่าจะไม่เดินทางออกนอกประเทศ (นอกจากจะได้รับอนุญาตจากศาลน่ะนะ) แถมต้องไปรายงานตัวต่อศาลทุก 30 วันด้วย

อ้าว ตกลงคดียังไม่ถึงที่สุดหรอ ?



ถ้าตามกระบวนการทางกฎหมายแล้วคดีนี้ก็ถือเป็นคดีที่เสร็จเด็ดขาด (เพราะศาลชั้นต้นพิพากษาแล้ว) แต่คดียังไม่ถึงที่สุด พูดง่าย ๆ คือศาลมี 3 ศาลนู่นแหนะ นี่เป็นคำพิพากษาจากศาลชั้นต้น ถ้าเฮียแกคิดจะสู้ต่ออีก 2 ศาล ก็ต้องรอคำพิพากษาที่จะไม่สามารถอุทธรณ์ หรือฎีกาได้อีก เมื่อนั้นแหละที่คดีถึงที่สุด (ค่อยถล่มตอนนั้นก็ยังไม่สายนะ)

เอ แล้วเฮียเป็นนักข่าวคนแรกมั้ยนะ ที่คดียังไม่ถึงที่สุด แต่ยังเสนอหน้า เอ้ย มีใจรักในอาชีพข่าวอยู่ ? (13 ปีเด็ก ๆ 85 ปียังไหวเลย แฮ่)



คำตอบคือไม่ใช่จ้ะ! สรยุทธไม่ใช่คนแรกในวงการข่าวที่พัวพันกับคดีแล้วยังคงเดินหน้าทำงานต่อไปแบบเก๋ ๆ เพราะนี่คือผู้มาก่อนกาล "สวัสดี เราสนธิ ลิ้มทองกุลไง จะใครล่ะ"

ส่วนที่เฮียสนธิแกโดนกล่าวหาก็ตั้งแต่ปี 2539-2541 นู่นนน (โอเค บางคนอาจยังไม่เกิดสินะ) และมีการฟ้องร้องกันช่วงปี 2552 ระหว่างนั้นเฮียแกก็จัดรายการมีคนดูล้นหลามมาโดยตลอด (โห งี้เฮียสรยุทธน้อยใจแย่เลย เราไปทำอะไรให้เขาเจ็บช้ำน้ำใจหรือ ถึงไล่แต่เรา ไม่ไล่คนอื่นบ้าง ฮือออ)



ปัจจุบันสนธิ ลิ้มทองกุล ถูกศาลอุทธรณ์พิพากษาจำคุก 85 ปี เนื่องจากทำผิดผิด พ.ร.บ.หลักทรัพย์ กรณีร่วมกับลูกน้องทำสำเนาบัญชีเท็จ-ไม่แสดงรายการหนี้ ซึ่งคดีก็ยังไม่ถึงที่สุดเหมือนกันจ้ะ เพราะเฮียสนธิแกยืนฎีกาอยู่ (มีใครอยากไปลองไล่ หรือประณามแกเป็นแพ็คคู่กับเฮียสรยุทธมั้ย ดูมีคุณธรรมคูณสองเลยทีเดียว)

แต่ศาลชั้นต้นตัดสินแล้ว ผิดก็คือผิดสิ คดีพลิกได้ด้วยหรอ ? 



ย้อนกลับไปเมื่อปลายปี 2537 รัฐบาลในขณะนั้นที่มีลุงกำนัน สุเทพ เทือกสุบรรณของเรา เป็นรัฐมนตรีกระทรวงเกษตรฯ ได้ออกเอกสารสิทธิ ส.ป.ก.4-01 ซึ่งคือเอกสารเรื่องการปฏิรูปที่ดินเพื่อการเกษตรกรรม (พูดง่าย ๆ คือเอาพื้นที่ป่า มาแบ่ง แจกจ่าย ให้เกษตรกรผู้มีรายได้น้อย) ลุงสุเทพก็จัดการเอง ลงไปมอบเองกับมือเลยนะ

อ่ะ อ่ะ ถ้าเป็นไปตามนั้นก็คงไม่มีปัญหาอะไรใช่มั้ยล่ะ แต่ปรากฏว่าดั๊นไปเจอว่าพื้นที่ป่าเพื่อเกษตรกรผู้ยากไร้ กลับตกไปอยู่ในมือของตระกูลผู้มีอิทธิพลในจังหวัดภูเก็ต (อ้าว พี่ยากไร้หรอ? แถมที่บางที่ก็ไม่ใช่พื้นที่ป่าด้วย แต่เป็นอำเภอเมือง อุ้ย) พอมีการลงไปตรวจสอบอย่างจริงจังก็พบว่า เฮ้ย แกไม่ได้แจกให้คนมีรายได้น้อยอย่างเดียวนี่หว่า มีรายได้มากแกก็เผลอไปแจกเขา (เรื่องใหญ่เลยทีนี้ รัฐบาลชวน หลีกภัยต้องยุบสภาเลยล่ะ)


ความโกลาหลครั้งนี้เลยขึ้นโรงขึ้นศาลกันตามระเบียบ เพราะสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.)ไม่ยอมน่ะสิ เอาที่ดินเกษตรกรรมไปให้คนรวยได้ไง (อี๋ โกงเหมือนกันอ่ะ) ทีแรกส.ป.ก.ฟ้องศาลชั้นต้นไป 24 คดี ศาลท่านก็พิพากษาให้ชนะคดีแค่ 2-3 คดีเท่านั้น (นอกนั้นแพ้หมด โถถถถ)

แต่ ส.ป.ก. ก็ไม่ยอมแพ้! สู้คนโกงต่อไป แพ้ไป 20 กว่าคดี ก็เลือกมายื่นอุทธรณ์ต่ออีก 1 คดี ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ ส.ป.ก. ชนะอีก 1 คดี (ช่างมานะ พยายาม) แต่คนแพ้คดีก็ไม่ยอมอีก เลยสู้กันยันศาลฎีกา และ  ส.ป.ก. ก็ชนะมาในที่สุด

นี่แค่ตัวอย่างคดียังไม่ถึงที่สุดแค่ตัวอย่างเดียวเท่านั้นที่คำพิพากษาชั้นต้น ไม่ได้ตรงกับคำพิพากษาศาลอุทธรณ์หรือฎีกาเสมอไป ศาลยังมีตั้ง 3 ศาลกว่าจะพิพากษาใครได้เลยอ่ะ 

อย่างไรก็ตามไม่ได้แปลว่าเฮียเขาเป็น'ผู้บริสุทธิ์' 100% แต่อย่างใดนะจ๊ะ (เดี๋ยวจะหาว่าเราไปสนับสนุนความผิดของเฮีย ไม่โอเคคคค) เพราะแม้คดีจะยังไม่ถึงที่สุด แต่เฮียแกก็ผิดโดยการตัดสินของศาลชั้นต้นไปแล้ว เพียงแต่ว่าเฮียแกสามารถยื่นอุทธรณ์ หรือยกเลิกความผิดนี้ได้ในศาลที่สูง ๆ ขึ้นไป


อยากไล่ก็ไล่ อยากให้เฮียออกก็ทำได้ แต่จะไล่ทั้งทีก็เอาให้รอบด้านและมีสติ (ใครเขาถามจะได้ตอบได้ไงแก ว่าทำไมเฮียเขาสมควรถูกพักงาน)



สื่อมวลชน(ที่ดี)ควรนำเสนอข้อมูลอย่างเวรี่ตรงไปตรงมาต่อประชาชน แต่การที่เฮียสรยุทธ (และบริษัทไร่ส้มของเฮีย) มาเบียดบังค่าโฆษณา ซึ่งเป็นประโยชน์ที่หน่วยงานรัฐควรได้ มันก็ไม่ต่างจากการเบียดบังประชาชน ไม่ซื่อตรงกับประชาชนนั่นแหละ แหม่ ก็ถ้าขนาดนี้แล้วในฐานะสื่อมวลชน (บริษัทที่ทำเรื่องสื่อสารมวลชน) นี่มันก็โคตรจะไม่ตรงไปตรงมากับประชาชนแล้วนะ เฮียแกถึงสมควรพักงานหรือถูกพักงาน 


อ่ะ ่อ่ะ ถ้าไม่เชื่อมินิมอร์จะพาไปดูกรณีแบบนี้ในต่างประเทศกันว่านักข่าวเขาถูกพักงานยังไงบ้าง มินิมอร์พาบินลัดฟ้าไปแถบแอฟริกา หลายคนชอบมองว่าประเทศแถบนี้เพิ่งเกิดใหม่ ไม่เจริญบ้างล่ะ อะไรบ้างล่ะ ถ้าเห็นสปิริตวงการข่าวจากรณีนี้ของเขาแล้วเราจะอึ้ง ช่องสามและเฮียสรยุทธต้องมีอายกันไปข้าง

ประเทศที่ว่านี่คือประเทศ Swahili (เพิ่งเคยได้ยินชื่อสินะ)



นักข่าวคนนึงของช่อง Citizen TV ในประเทศ Swahili ถูกกล่าวหาว่ารับสินบนจากนักการเมืองมา โดยสัญญาว่าถ้ารับเงินมาแล้ว แกต้องห้ามเล่าเรื่องไม่ดี ๆ ของฉันออกอากาศนะ หึ ๆ ยังไม่ต้องรอให้เรื่องขึ้นโรงขึ้นศาล หรือศาลชั้นต้นตัดสินเหมือนใครบางคน ทางช่องก็ไม่ยอมปล่อยให้เรื่องนี้ผ่านไปง่าย ๆ จ้ะ สั่งพักงานนายคนนี้ไปเลย 10 วัน (สอบสวนด้วย พักไปด้วย เพราะเห็นว่าแค่ถูกกล่าวหามันก็ไม่โอเคกับหน้าที่สื่อแล้วอ่ะแก)



โหยย ไม่น่าเชื่อว่าเรื่อง ๆ เดียวจะมีหลากหลายมุมมองขนาดนี้ สุดท้ายถ้าเราเชื่อว่าคนโกง จะโกงมาก โกงน้อยก็ต้องรับความเสียหายที่ตัวเองได้ก่อไว้ ก็น่าสนใจที่สุดเลยว่าเราใช้มาตรฐานทางจริยธรรมนี้อย่างซื่อสัตย์กับตัวเองแล้วหรือยัง ? เราพร้อมไล่นักข่าวทุกคนที่ติดคดีอยู่หรือเปล่า ? เราพร้อมออกมาต้านการโกงของคนที่เรารักไหม ? (โอ๊ยย ชอบการสำรวจจิตใจตัวเองแบบนี้ที่สุด)

หรือเราจะแค่มีมาตรฐานทางจริยธรรมกับแค่บางคนที่เราเกลียด หรือถ้าเราเรียกร้องให้ใครสักคนถูกพักงาน เราเรียกร้องด้วยข้อเท็จจริงมากน้อยเพียงใด คำถามพวกนี้มินิมอร์ไม่มีคำตอบให้นะจ๊ะ ถามใจตัวเองดู :)




ที่มา: dailynews.co.th,thai-crime-process.blogspot.com,posttoday.com,sobsuan.com,prachachat.net,thaixfact.blogspot.com

ภาพ: sanamkhao.com picpost.postjung.com chaoprayanews.com club.sanook.com news.mthai.com,V For Thailand,manager.co.th,news.sanook.com