วันนี้ส้มก็กลับมาพร้อมกับคอนเทนต์ที่น่าสนุก (?) อีกแล้วนะคะ
อาจจะเร็วกว่ากำหนดไปสักหน่อย เพราะตอนแรกกะว่าจะอัพวีคละ 1 ตอน
แต่พอดีว่ามันเกิดอาการนอนไม่หลับขึ้นมาน่ะสิคะ ?
ก็เลยคิดว่าไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้ว ใช้เวลาตอนตี 4 ที่สมองกำลังแล่นพอดี มาเขียนบล็อกเลยแล้วกัน!
(เพื่อน ๆ ไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ เรานอนไม่หลับไม่ใช่เพราะเป็นโรคอะไร
แต่เพราะเมื่อ 2 ทุุ่มเพิ่งนอนไปค่ะ แหะ ๆ ?)
จริง ๆ ที่อยากรีบเขียนโพสต์นี้ส่วนหนึ่งเป็นเพราะนอนไม่หลับ
แต่อีกส่วนนึงเป็นเพราะว่าหัวข้อที่เราจะพูดถึงวันนี้ เป็นหัวข้อที่เรารู้สึกสนุกและสนใจมาก จนอยากรีบมาเขียนก่อนอารมณ์ตัวเองจะจางลงไปค่ะ!
แต่ ! ก่อนจะเข้าเรื่อง
อยากถามทุกคนว่า มีใครเคยสังเกตไหมคะว่า
ทำไม ? มี "แพทย์หญิง" แล้วไม่มี "แพทย์ชาย"
ทำไม ? เราเรียกพยาบาลผู้ชายว่า "บุรุษพยาบาล" แต่เรียกพยาบาลผู้หญิงแค่คำว่า "พยาบาล"
คำตอบของเรื่องนี้อยู่ในบล็อกนี้แล้วค่ะ!
ทฤษฎีที่สามารถอธิบายปรากฎการณ์นี้ได้ก็คือ
ทฤษฎี markness (marked) /unmarkness (unmarked)
หรือภาษาไทยที่แปลว่า ความเด่น/ความไม่เด่น นั่นเองค่ะ
อธิบายนี้เป็นภาษาคนง่าย ๆ เลยก็คือ
ปกติแล้วคนเราจะมีสิ่งที่เรียกว่า default ที่กำหนดอิมเมจของสิ่งต่าง ๆ อยู่ในภาษาตัวเองค่ะ
เวลาเราพูดว่า หมอ/แพทย์ ภาพแรกที่เด้งเข้ามาในหัวของผู้ใช้ภาษาไทยก็น่าจะเป็น 'ผู้ชาย' ใช่ไหมคะ ดังนั้นเราจึงต้องเติมคำว่า แพทย์หญิง เข้าไปเพื่อให้เกิดความไม่ปกติ เหมือนเพิ่มการรับรู้พิเศษเข้าไปนั่นเองค่ะ
เช่น คำว่า 'เนื้อ' ที่คนไทยจะเข้าใจตรงกันว่า เนื้อ=เนื้อวัว
สิ่งที่เราไม่ต้องพูดก็เข้าใจตรงกันนี้ จะเรียกว่า unmarked ค่ะ
แต่ ! ถ้าเราจะพูดถึงเนื้ออื่น ๆ เราก็ต้องเพิ่มคำว่า 'เนื้อหมู' 'เนื้อไก่' 'เนื้อปลา' เข้าไป
เราจะเรียกการเพิ่มเข้าไปนี้ว่า marked ค่ะ
ดังนั้น จากคำถามด้านต้น แสดงว่า
แพทย์ คือ unmarked และ แพทย์หญิง คือ marked
พยาบาล คือ unmarked และ บุรุษพยาบาล คือ marked
นั่นเองค่ะ
ส่วนตัวรู้สึกว้าวจนเผลอยกมือขึ้นมาปิดปากตอนได้เรียนหัวข้อนี้เลยล่ะค่ะ 55555555
แบบว่า 'ทำไมเรื่องใกล้ตัวเราแค่นี้เราถึงไม่เคยสังเกตเลยนะ?'
แต่แต่แต่ ! ความว้าวมันยังไม่จบแค่นี้ค่ะ
ความน่าสนุกต่อมาของเรื่องนี้มันอยู่ตรงที่
'ผู้ใช้ภาษาแต่ละภาษามีการรับรู้ที่ต่างกันค่ะ'
ยกตัวอย่างเลยก็เช่น
1. เนื้อ ที่เราพูดถึงไปด้านบน
คนไทยอาจจะมี default มาในหัวว่า เนื้อ=เนื้อวัว
แต่คนญี่ปุ่นกลับไม่ได้มี default แบบนั้นน่ะสิคะ
กลับกันถ้าเราไปบอกแค่ว่า 肉(にく)เขาก็อาจจะทำหน้างงใส่ว่า 'ก็มันเนื้ออะไรล่ะ?'
ภาษาญี่ปุ่นจึงต้องมีคำว่า 牛肉(ぎゅうにく, เนื้อวัว) นั่นเองค่ะ
นั่นแสดงว่า
คนไทย unmarked = เนื้อ (=เนื้อวัว)
marked = เนื้อหมู เนื้อไก่ เนื้อปลา ฯลฯ
คนญี่ปุ่น unmarked = ไม่มี
marked = 牛肉(เนื้อวัว)、鶏肉(เนื้อไก่)、豚肉(เนื้อหมู)、魚肉(เนื้อปลา) ฯลฯ
นั่นเองค่ะ
2. 'ชา'
คนไทยส่วนใหญ่อาจจะนึกถึง 'ชาสีน้ำตาล'
ดังนั้น เวลาเราต้องการพูดถึงชาสีเขียว เราจึงต้องเพิ่มคำเข้าไปว่า 'ชาเขียว' นั่นเองค่ะ
ในทางตรงกันข้าม คนญี่ปุ่น เวลาพูดว่า お茶(おちゃ, ชา)ในหัวจะกลับนึกถึง ชาสีเขียว
ดังนั้น เวลาต้องการจะพูดถึงชาสีน้ำตาล เขาจึงต้องมีคำว่า 紅茶(こうちゃ)ชาตะวันตก
ซึ่งตัว 紅 จะมีความหมายว่าสีแดงเข้ม นั่นเองค่ะ
นั่นแสดงว่า
คนไทย unmarked = ชา (=ชาสีน้ำตาล)
marked = ชาเขียว
คนญี่ปุ่น unmarked = お茶 (=ชาสีเขียว)
marked = 紅茶 (=ชาสีน้ำตาล)
นั่นเองค่ะ
จริง ๆ ถ้าอยากพิสูจน์เรื่องนี้แบบง่าย ๆ
ทุกคนก็สามารถลองพิมพ์คำว่า 'ชา' เข้าไปในกูเกิ้ล แล้วลองเปิดแท็ปรูปขึ้นมา จะพบดังนี้ค่ะ
แต่ถ้าหากพิมพ์คำว่า
'お茶' เข้าไปก็จะพบว่า...
เอ่อ แค่มองโทนสีผ่าน ๆ ก็รู้ได้ถึงความแตกต่างเลยจริงไหมคะ5555555555?
จริง ๆ เรื่องคำว่า 'ชา' ในภาษาญี่ปุ่นเนี่ย ตอนเริ่มเรียนแรก ๆ เราก็สงสัยเหมือนกันนะคะ
ว่าทำไมต้องมีคำว่า 紅茶 ชาตะวันตก เพราะถ้าพูดเป็นภาษาไทยมันจะแปลกมาก ๆ ค่ะ
เช่น 'พี่คะ ขอชาตะวันตกค่ะ' แปลกจนแบบ ?-? 5555555555
แต่พอได้เรียนเรื่องนี้ก็ได้รู้ที่มาที่ไปของคำนี้ ก็รู้สึกว่า
"อืมๆ ทุกอย่างมันมีเหตุผลของมันแหละเนอะ"
แค่เราลองหาคำตอบให้มัน สิ่งใกล้ ๆ ตัวก็อาจจะกลายเป็นสิ่งที่น่าสนใจขึ้นมาทันทีเลยค่ะ!
เรื่อง marked/unmarked นี้ ดูเผิน ๆ อาจจะไม่มีอะไร เป็นสิ่งที่รู้ก็ได้ไม่รู้ก็ได้
แต่จริง ๆ เราสามารถหยิบจับประเด็นนี้ขึ้นมาอธิบายปรากฏการณ์ต่าง ๆ ได้อีกมากมายเลยนะคะ
ก็สามารถหยิบประเด็นนี้ขึ้นมาอธิบายต่อได้เช่นกันค่ะ
ถ้าใครสนใจว่ามันสามารถเอามาอธิบายเรื่องนี้ได้ยังไง
รออีกสักแปปนะคะ เราจะมาเขียนเรื่องนี้ให้ได้อ่านกันในตอนหน้าแน่นอนค่า ?
(จริง ๆ อยากเขียนในนี้ต่อเลย แต่ผู้อ่านน่าจะเหนื่อยกันพอสมควรแล้วใช่ไหมคะ?)
สำหรับวันนี้ก็ ขอบคุณที่อ่านกันมาจนถึงตอนนี้นะคะ
หวังว่าจะได้รับความรู้และเอนจอยไปกับการอ่านบล็อกของเราค่ะ
-somusomu-
ส่วนใหญ่เกี่ยงข้องกับวัฒนธรรม เพราะฉะนั้น โลกเปลี่ยนแล้ว คำก็เปลี่ยน เช่น
(เมื่อก่อน)
電話 (unmarked) = โทรศัพท์บ้าน
携帯電話 (marked) = โทรศัพท์มือถือ
(เมื่อก่อน)
固定電話 (marked) = โทรศัพท์บ้าน
電話 (unmarked) = โทรศัพท์มือถือ (แต่เรียก 携帯 スマホ มากกว่า)
ภาษาไทยมีอะไรบ้างครับ