เนื่องจากเหตุการณ์ก่อการร้าย ระเบิดทำลายล้างรัฐสภา ที่ส่งผลให้ ผู้บริหารประเทศหลายคนต้องเสียชีวิต รวมทั้งประธานาธิบดี นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีหลายท่าน ส่งผลให้พัคมูจิน (รับบทโดย จีจินฮี ผลงาน : Misty / Blood / Dong Yi) รัฐมนตรีกระทรวงสิ่งแวดล้อม ที่กำลังจะต้องลงจากตำแหน่ง ทำให้เป็นคนเดียวที่ไม่ได้อยู่ในที่เกิดเหตุ ต้องขึ้นรักษาการตำแหน่งประธานาธิบดี 60 วัน ท่ามกลางเหตุการณ์ที่นำความหวาดวิตกมาสู่ประชาชนทั้งประเทศ

ความจริงแล้ว พัคมูจิน เป็นเพียงศาสตราจารย์ผู้เชี่ยวชาญด้านสิ่งแวดล้อม ที่เข้ามารับตำแหน่งรัฐมนตรีด้วยความสามารถด้านวิทยาศาสตร์ และไม่ได้มีความรู้เรื่องการเมืองเลย เขาไม่มีความมั่นใจว่าตนเองจะมีความสามารถพอ แต่ในช่วงเวลาแห่งวิกฤตนี้ เมื่อไม่มีทางเลือกอื่น เขาจึงตัดสินใจขึ้นรับตำแหน่งรักษาการฯ เพื่อไม่ให้สถานการณ์บ้านเมืองวุ่นวายไปมากกว่านี้

แต่การดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีไม่ใช่เรื่องง่าย นอกจากงานเฉพาะหน้า อย่างการรับมือสถานการณ์ที่ตามมาหลังการก่อการร้าย ยังมีความขัดแย้งทางทัศนคติของเจ้าหน้าที่ระดับสูง ในงานบริหารประเทศส่วนต่างๆ ทั้งยังมีผู้นำฝ่ายค้านที่จ้องจับผิด เขาจะพิสูจน์ตัวเอง และขึ้นเป็นผู้นำประเทศที่ได้รับการยอมรับได้อย่างไร ติดตามรับชมได้ใน Designated Survivor... รับชมพร้อมซับไทยได้ทาง Netflix ทุกคืนวันจันทร์ - อังคาร เวลา 21.30 น.

ซีรีส์เรื่องนี้เป็นผลงานรีเมคจากซีรีส์อเมริกา ที่ออกอากาศซีซั่นแรกเมื่อปี 2016 (ซีซั่น 3 ซึ่งเป็นซีซั่นล่าสุด เพิ่งเปิดให้รับชมได้ทาง Netflix เมื่อวันที่ 7 มิ.ย. 2019) แม้จะไม่ได้เป็นแฟนของต้นฉบับ แต่จากเรื่องย่อที่รู้ ทำให้ตอนที่เห็นข่าวว่ากำลังจะมีการรีเมคฉบับเกาหลี ส่วนตัวก็รู้สึกว่าเป็นอะไรที่น่าสนใจมากๆ พอมีข่าวการคัดเลือกนักแสดงนำออกมาว่า จีจินฮี จะเป็นผู้มารับบทท่านประธานาธิบดี ก็ยิ่งรู้สึกว่าพลาดไม่ได้ พอถึงวันออกอากาศจริง ก็ไม่ผิดหวังเลย เพราะ 2 ตอนแรกที่ออกอากาศมานั้นน่าประทับใจมาก (จนเราต้องลุกขึ้นมาเขียนรีวิว เพื่ออวย และหาเพื่อนมาดูด้วยกัน 5555) 

นอกจากงานรีเมคเรื่องนี้ จะได้ทีมนักแสดงมากความสามารถทั้งหลักและสมทบมาร่วมงานหลายท่าน ในส่วนของงานเบื้องหลังก็ได้ผู้กำกับที่ผ่านการร่วมกำกับงานที่โด่งดังไปทั่วโลกอย่าง Descendants of the Sun และการปรับบทให้เข้ากับบริบทของเกาหลี โดยฝีมือของนักเขียนบทเจ้าของผลงาน เรื่อง Beautiful Mind และ Sungkyunkwan Scandal

ตอนแรกบทได้พาเราไปรู้จักตัวละครหลัก โดยเฉพาะพระเอก ที่นอกจากจะได้เห็นตัวตน/แนวคิด เรายังได้เห็นสิ่งที่คนอื่น (คนที่ทำงานใกล้ชิด / สิ่งที่คนพูดต่อๆกัน / คนในครอบครัว) มองเขาด้วย ไม่ว่าจะเป็นการเข้ามาทำงานโดยไม่มีความรู้ทางการเมือง แม้จะยังไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดเสียทั้งหมด แต่ก็พอทำให้เราเข้าใจว่า การเข้ามารับหน้าที่ของเขา จะทำให้เขารู้สึกอย่างไร และนั่นทำให้เมื่อเวลานั้นมาถึง เมื่อเขาต้องเข้ารับตำแหน่ง คนดูอย่างเราก็พอจะเข้าใจได้ว่ามันหนักหน่วงและเป็นเรื่องที่ "ไม่ใช่" เขามากเพียงใด และในตอนที่ 2 ก็มีสถานการณ์ดึงเครียด และกดดันด้วยเวลา เข้ามาให้ต้องเผชิญซึ่งนอกจากเราจะได้เห็นแนวคิดที่ขัดแย้งกันของตัวละครอื่นๆกับตัวพระเอก เรายังได้เห็นความสามารถของพระเอก ที่ถูกนำไปใช้ในแบบของพระเอก ซึ่งเป็นเรื่องใหม่สำหรับคนอื่น

อีกทั้งในตอนที่ 2 เราก็ได้ทำความรู้จักกับตัวละครเล็กๆลงมาในทีมงานของพระเอกมากขึ้น ทำให้ซีรีส์เพิ่มอารมณ์ของการเป็นงานทีม ช่วยกันคิดบ้าง ขัดกันบ้าง และทำให้เห็นความเป็นมนุษย์ในตัวละครต่างๆมากขึ้น

ที่น่าชื่นชมคือการรีเมคอย่างแนบเนียนและเป็นธรรมชาติ โดยไม่ทำให้รู้สึกว่านี่คืองานรีเมค ไม่ว่าการจับเอาสถานการณ์ระหว่างประเทศจริงมาเล่นเป็นประเด็นในเรื่อง หรือการใส่ซีนอารมณ์ แทรกความเป็นเอกลักษณ์ของตัวละครเล็กๆตามแบบถนัดของเกาหลี

แม้ซีรีส์จะจัดอยู่ในหมวดการเมือง แต่เนื้อเรื่องด้านการเมืองไม่ได้เข้มข้นมากนัก และสามารถเข้าใจได้ แม้ไม่ได้มีความรู้ทางการเมืองมากเป็นพิเศษ อีกทั้งเนื้อเรื่องยังเล่นกับความรู้สึกและอารมณ์ค่อนข้างมาก เดาว่านอกจากการพิสูจน์ตัวเองในการทำงาน พระเอกน่าจะประสบปัญหา / มีความกังวลในเรื่องครอบครัวด้วย (บทปูไว้ไปในทางว่าพระเอกน่าจะเป็นคนรักครอบครัวมากทีเดียว) และตัวละครสมทบที่ออกมาตอนนี้แต่ละคนก็มีความน่าสนใจ และบางส่วนก็มีไลน์เรื่องที่แตกออกมาเช่นตัวละครที่รับบทโดยคังฮันนา (ผลงาน Moon Lovers) ผู้เชี่ยวชาญด้านการก่อวินาศกรรม และยังมีตัวละครบางส่วนที่ยังไม่ออกมาด้วย เช่น ตัวละครคู่แข่งของพระเอก ที่รับบทโดย คุณ อีจุนฮยอก (ผลงาน A Poem A Day) หรือตัวละครของคุณ อันแนซัง (ผลงาน The Light InYour Eyes) ในบทบาทผู้ชิงตำแหน่งประธานาธิบดี