เพิ่งแนะนำ Live ซีรี่ส์ที่เล่าเรื่องอาชีพที่เห็นไม่บ่อยในซีรี่ส์เกาหลีอย่างเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตอนนี้ก็มีซีรี่ส์ที่เล่าเรื่องอาชีพมาใหม่อีกเรื่อง คือเรื่อง A Poem A Day หรืออีกชื่อว่า You Who Forgot Poetry ที่กำลังออกอากาศทุกคืนวันจันทร์ - อังคาร ทางช่อง tvN โดยครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ซีรี่ส์การแพทย์ถูกเล่าผ่านการทำงานของตัวละครหลักที่ไม่ใช่แพทย์ แต่เป็นการเล่าเรื่องผ่านกลุ่มเจ้าหน้าที่เชี่ยวชาญเฉพาะทางต่างๆ เช่นกลุ่มนักกายภาพ หรือ นักรังสีเทคนิค ซึ่งทราบแค่นี้ก็น่าสนใจตั้งแต่ยังไม่เริ่มดูแล้ว
เรื่องย่อ : อูโบยอง (รับบทโดย อียูบี - ผลงาน Scholar Who Walks the Night / Pinocchio) เจ้าหน้าที่กายภาพ ที่ตั้งใจทำงานอย่างหนักตลอดเวลา 2 ปี แต่ก็ยังไม่ได้เป็นพนักงานประจำ เธอได้รับการโหวตจากคนไข้ให้เป็นเจ้าหน้าที่บริการดีเด่น แต่กลับไม่สามารถรับรางวัลได้ เนืื่องจากเธอเป็นเพียงพนักงานชั่วคราว โบยองมีความชื่นชอบในบทกวี แม้ว่าเธอจะไม่ได้เรียนอักษรศาสตร์ตามที่ใฝ่ฝัน แต่การได้อ่านบทกวีสักบท ในวันที่เหน็ดเหนื่อยก็เป็นเหมือนการเติมพลังให้ผ่านวันอันเลวร้ายไปได้
ด้วยความชื่นชอบในบทกวี สมัยเรียน ตอนที่เธอแอบชอบ ชินมินโฮ (รับบทโดย จางดงยุน - ผลงาน Solomon's Perjury / School 2017) หนุ่มลั้นลา ลูกชายเจ้าของโรงพยาบาล ที่ถูกบังคับให้เข้ามาเรียนสาขากายภาพ เธอแอบคัดบทกวีให้เขา วันหนึ่ง มินโฮตัดสินใจถามโบยองตรงๆว่าเธอชอบเขาหรือเปล่า แต่เมื่อโบยองยอมรับว่าเธอชอบเขา เขากลับปฏิเสธเธอ และเรื่องนี้ถูกนำไปเล่าในกลุ่มเพื่อนรุ่นเดียวกัน จนทำให้เธอต้องอับอายอย่างมาก ทั้งคู่ไม่คิดว่าจะต้องมาพบเจอกันอีก แต่กลับต้องมาเจอกันอีกครั้ง เพราะมินโฮ ได้เข้ามาฝึกงานที่โรงพยาบาลที่โบยองทำงานอยู่
นอกจากเด็กฝึกงานที่เข้ามาร่วมทีมกายภาพใหม่ 2 คน ในช่วงเวลาเดียวกัน ก็มีเจ้าหน้าที่อีกคนคือ เยแจอุค (รับบทโดย อีจุนฮยอก - ผลงาน Secret Forest / House of Bluebird) ผู้เชี่ยวชาญที่โด่งดังระดับโลก ด้วยความที่เป็นคนเย็นชา และไม่ชอบปฏิสัมพันธ์ผู้คน การเข้ามาของเขา จึงเต็มไปด้วยเรื่องเล่าลือต่างๆ ถึงเหตุผลที่เขาเข้ามาทำงานในโรงพยาบาลเล็กๆแห่งนี้
แม้ว่าหมอเยแจอุค จะดูไม่ใส่ใจเพื่อนร่วมงานนัก แต่ในความเป็นจริง เขามักสังเกตการทำงานของเจ้าหน้าที่ทุกคนอย่างละเอียด เขาพบว่า โบยอง เป็นเจ้าหน้าที่ที่ทำงานอย่างทุ่มเท ด้วยหัวใจบริการอย่างแท้จริง เขาจึงให้โอกาสเธอ ได้แสดงความสามารถ ด้วยโอกาสที่โบยองได้รับ เธอจึงมีกำลังใจ ในการที่จะพิสูจน์ตัวเอง เพื่อให้ได้รับการบรรจุเป็นพนักงานประจำอีกครั้ง
ซีรี่ส์เรื่องนี้ เป็นผลงานการเขียนบทและกำกับจากทีมงานเรื่อง Rude Miss Young-Ae ซีรี่ส์ที่มีความยาวถึง 16 ซีซั่น อีกทั้งคนเขียนบททั้ง 2 คน ยังเคยมีผลงานร่วมกันในเรื่อง Drinking Solo อีกด้วย การเล่าเรื่องดำเนินเรื่องโดยตัวละครหลักที่ไม่ใช่หมอ เราจึงไม่เห็นฉากที่คุ้นเคยอย่าง ความน่ากลัวหรือเร่งร้อน ของห้องฉุกเฉิน หรือการผ่าตัดที่มีความเสี่ยงถึงชีวิต การเล่าเรื่องจึงค่อนข้างจะเรียบเรื่อย ไม่ได้มีเรื่องตื่นเต้นมากนัก และดูเป็นการรักษาธรรมดาๆ แต่ความจริงแล้ว ถือเป็นส่วนหนึ่งในการฟื้นฟูผู้ป่วย ให้สามารถกลับมาใช้ชีวิตปกติได้อย่างแท้จริง ด้วยความที่เป็นเรื่องที่ไม่เคร่งเครียด บวกกับการแสดงแบบล้นๆของตัวละครที่มีความเพี้ยนไปคนละอย่าง ทำให้การเล่าเรื่องเป็นไปอย่างผ่อนคลาย แทรกความตลกไว้ค่อนข้างมาก แม้จะมีเรื่องการสู้ชีวิตของนางเอก แต่ก็ไม่ได้ดราม่าหนัก หรือเศร้าโศกอะไรมาก
และตามสไตล์ของซีรี่ส์การแพทย์ที่มักแทรกแง่คิด อุดมการณ์การทำงาน และความช่วยเหลือเกื้อกูล - น้ำใจระหว่างกัน ทำให้เรื่องมีโทนไปทาง ฟีลกู๊ด เสริมด้วยการใช้บทกวีแทรกในการเล่าเรื่อง และเน้นประเด็นของแต่ละช่วง (ตอนหนึ่งมีบทกวีประมาณ 2 - 3 บท) แม้ว่าจะไม่รู้จักว่ากวีแต่ละท่านที่ผลงานถูกนำมาประกอบ มีชื่อเสียงโด่งดังหรือไม่ และแม้จะไม่รู้หลักการการประพันธ์ของภาษาเกาหลี แต่ในด้านเนื้อหาของบทประพันธ์ ถือว่า จับใจ และให้แง่คิดได้ดีมากๆ อีกทั้งยังคัดมาได้เหมาะเจาะกับเนื้อหาด้วย (คิดว่าบางทีอาจจะคัดบทกวีก่อน แล้วค่อยมาร้อยเรียงให้สอดคล้องหรือเปล่า อันนี้ก็เดา555)
ในส่วนของเลิฟไลน์ในเรื่อง ในขณะนี้ที่ออกอากาศมาเพียง 4 ตอน ก็ยังมีความไม่มั่นใจในตัวพระเอกเท่าไหร่ ว่าใครคือพระเอกตัวจริง (ตอนที่คัดเลือกนักแสดง ข่าวออกมาว่าบทมินโฮ คือพระรอง แต่ก็ยังไม่มีอะไรแน่นอนนะคะ ก็ยังมีโอกาสลุ้นกันต่อไป จนกว่าจะจบ) ดูความสัมพันธ์ก็จะละมุนๆ ช่วยเหลือ ดูแลกัน ไม่หวานจนเลี่ยน แต่ก็อบอุ่นและฟินทีเดียว
เพลงประกอบที่ปล่อยออกมาตอนนี้มาแนวฟังสบายๆ แต่ที่ประทับใจมากคือเพลงที่ปล่อยออกมาเป็นเพลงแรก เพราะมีเนื้อกาเกี่ยวกับการต้องต่อสู้ชีวิตของหนุ่มสาวสมัยนี้ รู้สึกว่าเนื้อเพลงกินใจ และให้กำลังใจคนที่กำลังทุกข์ใจ และเหนื่อยล้าได้อย่างดี
รวมๆเรื่องนี้อยู่ในเกณฑ์แนะนำ ด้วยเนื้อหาเกี่ยวกับอาชีพที่แปลกใหม่น่าสนใจ การเล่าที่ผ่อนคลาย แทรกมุกตลก และข้อคิดดีๆ มีความฟินพอประมาณ อาจไม่มีอะไรให้ลุ้นมาก แต่ก็มีความน่าสนใจชวนติดตาม
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in