อึนซอม (รับบทโดย ซงจุงกิ ผลงาน : Descendants of the Sun / Innocent Man) อาศัยอยู่กับชาวเผ่าวาฮัน แม้เขาจะเป็นส่วนหนึ่งของเผ่า แต่เขากลับไม่เหมือนคนอื่น ความจริงแล้ว เขาเดินทางมาถึงอิอาร์กพร้อมกับแม่ของเขา ที่ต้องหนีจากการตามล่า ในระหว่างช่วงเวลาแห่งความวุ่นวาย ของการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์นีแอนทัล ที่เหล่าซารัมเชื่อว่าป่าเถื่อนและจะเป็นภัยต่อตนเอง
กำเนิดของอึนซอมเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง มันเป็นการกำเนิดข้ามเผ่าพันธุ์ และหลักฐานของความผิดแปลกจากผู้อื่นก็คือ เขาเป็นผู้ที่มีโลหิตเป็นสีม่วง ไม่ใช่สีแดงเหมือนชาวซารัม (มนุษย์ทั่วไป) เช่นแม่ของเขา และไม่ใช่สีน้ำเงิน เหมือนเหล่านีแอนทัล เชื้อสายทางฝั่งพ่อของเขา
แม้จะไม่เหมือนใคร แต่อึนซอมก็ใช้ชีวิตอยู่กับชาววาฮันมาจนโต เขามีเพื่อนสนิทคือ ทันยา (รับบทโดย คิมจีวอน ผลงาน : Fight For My Way / Descendants of the Sun) แม้เธอจะดูเหมือนเด็กสาวธรรมดาคนหนึ่ง แต่แท้จริงแล้ว เธอเป็นผู้ที่จะดำรงตำแหน่งแม่ใหญ่(สตรีผู้นำทางจิตวิญญาณ)ของเผ่า เป็นคนต่อไป แต่ปัญหาคือ เธอไม่สามารถฝันได้ นั่นทำให้อึนซอมผู้มีความสามารถพิเศษในการฝันที่จะมีเพียงแม่ใหญ่เท่านั้นที่จะทำได้ ถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้ที่ขโมยฝันของทันยาไป นั่นทำให้ ชาวเผ่าบางส่วนไม่พอใจอึนซอมเท่าไหร่นัก แต่อึนซอมก็ไม่ได้ใส่ใจจริงจัง เนื่องจากรู้ดีว่า วันหนึ่งเขาต้องจากที่แห่งนี้ไป
วันหนึ่ง มีกลุ่มคนแปลกหน้า เข้ามาในพื้นที่ของอิอาร์ก พวกเขามาจากเหนือผาทมิฬ ผาสูงสุดลูกหูลูกตา ที่หลังจากแม่ของอึนซอมใช้เวลาหลายปีจนลงมาได้อย่างยากลำบาก (ส่งผลให้เสียชีวิตทันทีที่มาถึงและทิ้งอึนซอมไว้) ก็ไม่มีใครเดินทางข้ามไปมาระหว่าง ข้างบนและข้างล่างอีกเลย จนวันนี้ ซารัมที่สามารถขี่ม้าได้ นำโดยทากอน (รับบทโดย จางดงกอน ผลงาน : Suits / A Gentleman's Dignity) เข้ามาที่อิอาร์ก ฆ่าฟันและกวาดต้อนผู้คน จากเผ่าเล็กเผ่าน้อย ที่เคยอยู่กันอย่างสันติในอิอาร์กอย่างโหดร้าย โดยตั้งใจจะนำไปใช้งานเป็นทาส เพื่อก่อร่างสร้างบ้านเมืองให้ยิ่งใหญ่ และมีทรัพยากรเพียงพอต่อเหล่าซารัมที่เหนือหน้าผาสูง
อึนซอมไม่ได้ถูกกวาดต้อนไปพร้อมกับชาววาฮัน เขาต้องปล่อยให้ทันยา ถูกลากไปต่อหน้าต่อตา เพราะทันยาบอกเขาให้หนีเอาตัวรอด เพื่อที่วันหนึ่งจะได้กลับมาอีกครั้ง ให้เขาเป็น "ความฝัน" ของชาววาฮัน และต้องลับมาช่วยทุกคนให้ได้ และนั่นคือภารกิจของ "อึนซอมแห่งวาฮัน" เด็กหนุ่มที่เกิดในวันที่ดาวหางปรากฎ เด็กหนุ่มที่จะนำหายนะมาสู่ผู้คน เขาจะต้องฝ่าฟันอะไรบ้าง เพื่อช่วยเหลือชาววาฮัน
รับชมได้พร้อมซับไทยที่ Netflix
เป็นซีรีส์อีกเรื่องที่เฝ้ารอ หรือจะพูดให้ถูกก็คือเฝ้ารอตั้งแต่ก่อนจะมีโปรเจคซีรีส์ด้วยซ้ำ เพราะความจริงแล้วเราไม่ได้รอซีรีส์เรื่องนี้ แต่เรารอผลงานการเขียนบทเรื่องใหม่ของนักเขียนบทเจ้าของผลงานการร้อยเรียงเรื่องราวช่วงเวลาสำคัญในประวัติศาสตร์เกาหลีผ่านซีรีส์ชื่อดังหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็น Queen Seon Deok (2009), Tree With Deep Roots (2011) และ Six Flying Dragons (2015) ซึ่งจากสองเรื่องที่ได้ดู (ยังไม่ได้ดู Queen) ก็มั่นใจว่า ไม่ว่าเขียนอะไรออกมาจะต้องชอบแน่ๆ (555) พอได้ยินว่าจะมีโปรเจคนี้ก็ตื่นเต้นรอไว้ก่อน ยิ่งได้ยินว่านักแสดงท่านไหนจะมาร่วมทีมบ้างก็ยิ่งตื่นเต้น เพราะการที่จะเอาดาวเด่นแนวหน้าระดับประเทศมาชนกัน (จุงกิ VS เฮียดงกอน) ได้ จะต้องเป็นงานที่มีบทน่าสนใจและไม่ธรรมดาแน่ๆ
หลังจากที่ออกอากาศต้องยอมรับว่าสัปดาห์แรกสำหรับเราไม่ตรงกับที่คาดหวังเท่าไหร่ แต่ก็ไม่มีอะไรที่ผิดหวัง แรกเลยคือ เราคาดหวังการเล่าเรื่องประวัติศาสตร์ที่ค่อนข้างไปทางเนื้อหา แต่พอเอาเข้าจริงส่วนใหญ่ของต้นเรื่อง ออกไปทางปูเรื่องของชนเผ่าที่ยังไม่มีการพัฒนาทางเทคโนโลยีการดำรงชีพต่างๆ(เลี้ยงสัตว์ / ทำการเกษตร) เปรียบขนานไปกับบ้านเมืองที่พัฒนาไปค่อนข้างมากแล้ว นอกจากนี้ยังเน้นไปที่การปูเรื่องที่มาของชาติพันธุ์และชนเผ่าต่างๆในเรื่อง (ตัวละครเยอะมาก แต่ยังมีส่วนช่วยให้ดูง่ายคือการแต่งกายที่ค่อนข้างชัดเจนในแต่ละกลุ่ม ส่วนชื่อก็จำเฉพาะตัวสำคัญไปก่อน หลักๆคือควรเข้าใจธรรมชาติหรือจุดเด่นของแต่ละกลุ่ม) และที่มาตัวละครหลัก
แต่พอสัปดาห์ที่สองเป็นต้นมาต้องใช้คำว่าติดลมเลย เพราะรู้สึกว่าเริ่มจับจุดสิ่งที่ซีรีส์อยากเล่าได้จากสัปดาห์แรก ซึ่งพอเข้าใจ ก็เลยไม่คาดหวังประวัติศาสตร์ที่เราจะหาข้อมูลอ้างอิงได้ เพราะเนื้อหาค่อนข้างไปทางแฟนตาซีไปเลย แม้ว่าจะมีเรื่องความรักเข้ามาเกี่ยวข้องบ้าง แต่ก็ไม่ได้เป็นเรื่องที่หยิบมาเล่น เรียกว่าเอาเรื่องความรัก มาเป็นปัจจัยเสริมในการตัดสินใจต่างๆ (A รัก B จึงทำเช่นนั้น C แค้น D จึงทำเช่นนี้) ฉะนั้น ถ้าใครคาดหวังฉากรักฟิน ตัดทิ้งไปค่ะ (555)
มาพูดถึงใจความหลักของเรื่องบ้าง แม้ตัวซีรีส์จะเป็นย้อนยุค แต่กลับไม่ได้เน้นที่ตัวประวัติศาสตร์ (เพราะช่วงเวลาที่นำมาเล่า ความจริงแล้วเป็นประวัติศาสตร์ช่วงที่ยังไม่มีบันทึกที่ชัดเจน และมีหลักฐานต่างๆที่จะเชื่อมโยงเป็นข้อมูลทางประวัติศาสตร์ไม่มากนัก) ฉะนั้น สิ่งที่ซีรีส์เล่า จะเป็นเรื่องก่อนการเกิด ชาติ (Nation) ก่อนที่จะมีตำแหน่งกษัตริย์ / ราชา (King) โดยเป็นการรวมตัวในรูปแบบ "สหพันธ์" ( Union ) (ผู้นำกลุ่มเป็นเพียง Leader) โดยแบ่งอำนาจภายในเป็นเผ่าต่างๆ โดยแม้จะร่วมกัน แต่ก็มีไพ่ของตัวเอง (กลุ่มหนึ่งมีวิทยาการ และความรู้ในการหลอมแร่ธาตุ (สามารถพูดได้ว่ากลุ่มนี้คือ "ความรู้") กลุ่มหนึ่ง มีกำลังทางทหาร ( "กำลังรบ" ) และ กลุ่มผู้นำทางศาสนา ( "ความเชื่อ" )) ซึ่งนอกจากเรื่องราวภายในกลุ่มระดับปกครอง ก็ยังมีกลุ่มชาวบ้าน ที่แบ่งเป็นคนธรรมดา และคนที่จับมาจากเผ่า(ด้านล่างของผา)เพื่อเอามาเป็นทาส และชาติพันธุ์ที่ถูกทำลายไป (ถูกมองว่าป่าเถื่อน) ซึ่งเหล่านี้จะเห็นว่า มันเป็นรูปแบบของสังคมแบบดั้งเดิม ก่อนที่จะเป็นประเทศ โดยซีรีส์สื่อถึงเรื่องนี้อย่างชัดเจนในขั้นที่สามารถพูดได้ว่า เหมือนเอาตำราสังคมศาสตร์ มาป็นแกนของเรื่องเลย (จุดนี้เรารู้สึกว่าเจ๋งมาก เพราะเรื่องรากไม้ นักเขียนก็เล่าเรื่องทางภาษาศาสตร์ โดยมีเรื่องคดีเข้ามาเกี่ยวข้อง หรือหกมังกรบิน ที่เล่าเรื่องเทคนิคด้านการเมืองการปกครอง ผ่านประวัติศาสตร์ตามตำราเป๊ะๆ)
ในเรื่องเราจะไม่เห็นสงครามระหว่างเผ่า เหมือนเรื่องแนวรบรา ยึดอาณาจักรกัน แต่เราจะเห็นการพยายามถ่ายโอนอำนาจ ของทั้งสามกลุ่ม เพื่อให้กลุ่มของตัวเองอยู่รอดและได้เปรียบ (เช่นกรณีที่ทากอน แอบทำพิธีที่เป็นพิธีของกลุ่มศาสนา จนได้รับการยอมรับจากผู้คน แม้ว่าจะเป็นการละเมิดกฎ และสุดท้ายก็ใช้ข้อต่อรอง ทำให้ตัวเองมีสิทธิอันชอบธรรมได้ ซึ่งถ้ามองในเชิงรูปธรรม มันคือการพยายามรวบทั้งกำลังทหารที่มีเดิม และพลังความเชื่อซึ่งถือว่าเป็นสิ่งที่มีพลังมาที่สุดในยุคโบราณที่ไม่มีความรู้ทางวิทยาศาสตร์)
นอกจากนี้ในส่วนระหว่างชาติพันธุ์ ก็จะทำให้เราเห็นชัดเจนเกี่ยวกับเรื่องการเป็นพวกเดียวกัน และการเป็นคนอื่น (กลุ่ม ซารัม มองว่าตัวเองสูงกว่าเพื่อน มีความรู้ ฉลาด มีวิทยาการ / กลุ่มนีแอนทัล ถูกตราหน้าว่าป่าเถื่อน (มีพละกำลังมากกว่า) ใช้ภาษาอีกภาษา ถูกล้างเผ่าพันธุ์โดยซารัม / กลุ่มอีกึต ลูกผสมที่ไม่ได้รับการยอมรับจากกลุ่มซารัม ถูกมองว่าต่ำกว่าสัตว์ ไม่เป็นส่วนหนึ่งของสังคม (ทำหน้าที่ทาส เป็นเพียงทรัพย์สิน)) โดยในความสัมพันธ์เหล่านี้ เราจะได้เห็นเรื่องเกี่ยวกับชนชั้น และความไม่เท่าเทียมของคนด้วย
จะบอกว่าพอดูแล้วตีความแบบนี้ เราตื่นเต้นไปกับบทเรื่องนี้มาก เพราะในเรื่องความสัมพันธ์ พ่อ-ลูก หรือคนรัก กิเลสความต้องการของมนุษย์ ที่เล่า เราได้เห็นเรื่องราวทางสังคมศาสตร์ที่นำเสนอได้อย่างน่าสนใจ(สุดๆ)
สำหรับตอนนี้ที่ออกอากาศมา 2 จาก 3 Parts ( 2 ส่วนแรกยาว 12 ตอน รับชมได้แล้วที่ Netflix ส่วนที่ 3 จะมี 6 ตอน จะออกอากาศตอนแรกวันที่ 7 กันยายน 2019) ต้องบอกว่าชอบมากกกก โดยเฉพาะใจความหลักของบท แม้ว่าตัวเนื้อเรื่องจะสามารถเดาได้ล่วงหน้าในหลายส่วน แต่ก็ยังมีรายะเอียดที่ซับซ้อนของตัวละครแต่ละตัวที่ทำให้น่าสนใจขึ้น ส่วนที่พลิกและเหนือคาดเดาก็มีให้ตื่นเต้นเรื่อยๆ การแสดงของนักแสดงนำไม่ต้องพูดถึง นอกจากนี้ยังมีนักแสดงสมทบและรับเชิญออกมาในแต่ละช่วงของการเล่าเรื่อง ที่แต่ละคนก็สื่อถึงตัวละครนั้นๆได้อย่างน่าประทับใน
ส่วนของงานภาพ แม้ว่าหลายจุดจะเห็นชัดว่าเป็น CG แต่ก็ทำได้ดี ไม่ได้ขัดตา แสงและภาพ ช่วยเน้นอารมณ์ในช่วงต่างๆของเรื่อง(ส่วนมากจะออกไปทางมืด เพราะเรื่องไปทางขัดแย้ง และรุนแรง) ที่ชอบอีกอย่างคือเครื่องแต่งกาย นอกจากจะมีรายละเอียดแล้ว ในช่วงต้นยังช่วยได้มากในเรื่องทำความเข้าใจบท เพราะทำให้อย่างน้อยก็แยกเผ่าต่างๆออกจากกันได้ (หลายชุดของแทอาราสวยมาก เรียบหรูดูดีตลอดเวลา และหุ่นคุณอ๊กบินดีมากค่ะ ประทับใจ )
รวมๆก็คือเป็นเรื่องที่ดูแล้วสนุก มีอะไรให้ลุ้นให้คิด ให้คาดเดาทางเลือกของตัวละคร เรื่องรักเป็นเพียงเรื่องประกอบ ไม่ได้มีฉากหวาน แต่มีความรัก (เข้าใจใช่มะ555) ฉากขำค่อนข้างน้อยมาก ฉากแอคชั่นมีเรื่อยๆ แคสนักแสดงดีมาก เหมาะกับบทและแสดงดีมากๆทุกคน เอาว่าเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ถ้าเป็นแฟนซีรีส์เกาหลีก็ไม่ควรพลาด หรือถ้าไม่ได้เป็นแฟนซีรีส์เกาหลีก็สามารถดูได้ ไม่ได้เข้าใจยาก (ไม่ได้ประวัติศาสตร์ตามตำราจ๋าๆ) และไม่ได้มีความเกาหลีอะไรมาก ออกไปทางสากล (เราจะเห็นสิ่งที่เราเห็นในประวัติศาสตร์โบราณที่เคยเรียนๆมา ซ้อนทับอยู่ในเรื่องนี้)
เอาเป็นว่าถ้าใครอ่านทั้งหมด (ใครอ่านตั้งแต่ต้นจนจบ ต้องขอบคุณมากๆจริงๆค่ะ รู้สึกว่าเขียนยาวมาก) แล้วสนใจ ก็ตามไปดูกันได้ที่ Netflix เลยค่ะ
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in