เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
ก่อนตะวันรอนngamdokbua
นวนิยายเรื่อง : ก่อนตะวันรอน ตอนที่ 4 แก๊งสาวส่าแห่งบ้านดอนผักหวาน
  • นวนิยายเรื่อง  ก่อนตะวันรอน

    ตอนที่ 4 แก๊งสาวส่าแห่งบ้านดอนผักหวาน

    ณ ลานวัดหมู่บ้านดอนผักหวาน ไม่ว่าจะเช้า สาย บ่าย ค่ำ โดยเฉพาะเดือน 4 ย่างเดือน 5 ใกล้สงกรานต์อย่างนี้ บริเวณลานวัดไม่ได้ว่างเว้นจากสมาชิกตัวน้อย ๆ ของหมู่บ้านเลย แม้กระทั่งเดอลาสาวน้อยที่มีขนาดตัวไม่กะเปี๊ยกเหมือนเมื่อก่อนแล้ว เธอก็ยังเป็นสมาชิกของก๊วนเด็กประจำลานวัดแห่งนี้อยู่ รวมถึงกรีนนี่เพื่อนซี้ของเธอก็ร่วมหัวจมท้ายกับก๊วนเด็กวัดด้วยเหมือนกัน แม้ว่าบ้านกรีนนี่จะอยู่อีกคุ้มก็ตาม แต่เธอจะชอบมาเล่นกับเด็กคุ้มวัดตลอด จนสนิทสนมรวมกันเป็นกลุ่ม จนเกิดแก๊งที่สนิทกันมาก ๆ พวกเธอเรียกแก๊งตัวเองว่า สาว สาว สาว แอนด์สาว ซึ่งมีสมาชิกด้วยกัน 4 คน นั่นก็คือ

    เดอลา สาวน้อยผิวเข้มตาคมผู้มีความสามารถในเรื่องการหาของกิน ไม่ว่าจะลงห้วยหาปลาหรือเข้าป่าหาเห็ดเธอถนัดนัก

    นกแก้ว สาวน้อยหน้าตาจิ้มลิ้ม ช่างพูด ช่างเจรจา จนเพื่อน ๆ ต้องคอยปรามในบางครั้ง เพราะความกล้า ก๋ากั่นของเธอทำให้มีเรื่องปะทะกับคนอื่นอยู่บ่อยครั้ง

    ม่านฟ้า สาวน้อยร่างบาง พูดน้อยต่อยหนัก เพื่อน ๆ ในแก๊งชอบเรียกเธอว่า “แม่ชี” เพราะฟ้าชอบยกธรรมะมาสอนเพื่อน ๆ ตลอด

    และสมาชิกคนสุดท้ายของแก๊ง สาว สาว สาว แอนด์สาวก็คือกรีนนี่หรือบักเขียว ผู้มีรูปร่างสูงเพรียว หน้าเฉี่ยวตาคมอยู่ตลอดเวลา เพื่อน ๆ เรียกเธอว่าผู้นำหมู่บ้าน เพราะกรีนนี่เธอมักจะมีอะไรใหม่ ๆ มานำเสนอเพื่อน ๆ ตลอด

    เดอลา นกแก้ว ม่านฟ้าและกรีนนี่ แก๊งสาวส่าสาวลือในหมู่บ้านดอนผักหวานที่มีบุคลิกต่างกัน แต่ด้วยวัยและกิจวัตรประจำวันของพวกเธอคล้าย ๆ กัน จึงเป็นสาเหตุทำให้เกิดการรวมตัวแก๊ง สาว สาว สาว แอนด์สาวขึ้นมา และอีกหนึ่งกิจวัตรที่แก๊งนี้ทำร่วมกันแทบจะทุกวันคือ การนัดรวมตัวกันที่ลานวัดเพื่อมาเล่นกระโดดหนังยาง และเล่นหนอนเสา โดยใช้ลานวัดหรือไม่ก็เวทีหมอลำเป็นสถานที่ละเล่นของพวกเธอ

    อย่างวันนี้แก๊งสาว สาว สาว แอนด์สาว  หรือที่ใคร ๆ เรียกกันว่าแก๊งสาวส่าก็ได้นัดกันที่ลานวัด เพื่อมาเล่นกระโดดหนังยางเหมือนทุกวันที่ผ่านมา

    ที่เด็ก ๆ ชอบนัดกันมาเล่นที่ลานวัดก็เพราะว่าที่นี่ไม่ไกลจากที่บ้านของพวกเธอ ที่สำคัญมีพื้นที่กว้างขวางและมีความร่มรื่น ด้วยกิ่งก้านสาขาของต้นสำสาเอย ต้นมะม่วงเอย ต้นไทรเอย ต่างก็มีลำต้นที่สูงใหญ่ปกคลุมเต็มพื้นที่ลานวัด เดินไปมุมไหนก็มีแต่ร่มเงา ให้เด็ก ๆ ได้หลบร้อนในระหว่างร้องเล่นเต้นรำหรือวิ่งไล่จับกัน เว้นเสียแต่ใต้ร่มต้นโพธิ์ที่แผ่กิ่งก้านไม่น้อยเหมือนกัน แต่ไม่ยักจะมีใครอยากจะไปเดินเฉียดใกล้แถวนั้นโดยเฉพาะเด็ก ๆ

    บริเวณลานวัดดอนผักหวานไม่ได้มีเพียงแก๊ง สาว สาว สาว แอนด์สาวเท่านั้น ที่มาจับจองพื้นที่วิ่งเล่น แต่ยังมีเด็กกลุ่มอื่น ๆ อีกด้วย นับจำนวนกันแทบไม่ได้เลย เพราะไม่มีกฎห้ามให้ใครเข้าออก ใครจะมาจะไปก็ได้ตามสะดวกใจ ถ้ามีจำนวนเยอะยิ่งดี เด็ก ๆ จะได้มีเกมสนุก ๆ เล่นกันมากขึ้น ด้วยจำนวนคนนี่แหละ ที่เพิ่มระดับของความสนุกสนานของพวกเขา แต่ที่ไม่สนุกด้วยก็เห็นจะเป็นหลวงตาที่กำลังสอนหนังสือบรรดาเณรน้อยที่มาบวชเณรช่วงหน้าร้อนอยู่

    บักเขียว! มึงพาหมู่พาพวกมึงไปเล่นไกล ๆ ดู๊ เห็นบ่หลวงตาเพิ่นกำลังสอนหนังสือยุนิ ไป! พากันไปเล่นทางอื่น" ตาหยัดมัคนายกวัดร้องตะโกนบอกเขียว หรือ กรีนนี่หนึ่งในสมาชิกแก๊งสาวส่าแห่งดอนผักหวานนั่นเอง

    “โอ้ย !!! พ่อตู้ บักขงบักเขียวอีหยังทางได๋ บ่มีดอกยุนิ มีแต่กรีนนี่ศรีดอนผักหวานเด้อค่ะเด้อ สวยสุดในย่านนี้ล่ะ" เขียวค้อนควับให้ตาหยัด ก่อนจะหันไปยักคิ้วหลิ่วตาให้กับเดอลา เพื่อนสาวเป็นอันรู้ว่าในจักรวาลของดอนผักหวาน กรีนนี่เท่านั้นที่ครองตำแหน่งที่หนึ่งแห่งความงาม ถึงอายุอานามจะแค่ 11 ขวบก็เถอะ กรีนนี่บอกตัวเองและเพื่อนสาวของเธออยู่เสมอว่า “ฉันสวย ฉันมั่นใจ เวทีได๋ฉันกะฟาดเรียบ”

    “หญิง! หญิงกรีน! อีเขียว ตื่น!” นกแก้วหนึ่งในสมาชิกของแก๊งร้องเรียกกรีนนี่อีกรอบ หลังจากที่เห็นว่ากรีนนี่ยังคงยืนยิ้มมั่นหน้ามั่นโหนก กับความงามของทรวดทรงองเอวตัวเองอยู่เป็นนาน หลังจากที่โดนตาหยัดตะเพิดมารอบหนึ่งแล้ว

    สรรพนามที่เพื่อนในกลุ่มใช้เรียกเพื่อนผู้หญิงด้วยกันนั่นก็คือ “หญิง” ซึ่งสาวกรีนนี่ อีเขียวหรือบักเขียวที่ทุกคนในหมู่บ้านรู้จักกันดีนี่แหละเป็นคนบังคับขู่เข็ญให้เพื่อน ๆ ใช้เรียกกัน ไม่มีใครรู้ว่ากรีนนี่ไปได้ยินได้ฟังมาจากที่ไหน เพราะบ้านของกรีนนี่ก็ยังไม่มีวิทยุฟัง จะว่าไปทั้งหมู่บ้านก็มีวิทยุเพียงเครื่องเดียวคือที่บ้านพ่อผู้ใหญ่บ้าน แต่ก็คงอย่างที่เขาว่ากัน ที่ไหนมีกะเทยเข้าถึงที่นั่นก็เจริญแล้ว แต่สำหรับเด็ก ๆ ที่นี่ ความเจริญคงไม่สำคัญอะไรมาก เพราะความสุขสนุกสนานในการได้เล่นกับเพื่อน ๆ ได้อยู่ใกล้ ๆ กับพ่อแม่พี่น้องอันเป็นที่รักมันสำคัญมากกว่า

    “ฉันสวย ฉันมั่นใจ รึไผสิเถียงคะ ?” กรีนนี่หันมาสะบัดบ๊อบใส่นกแก้วอีกรอบ

    อ่ะ จ้า สวยสุดในสามโลก สวยผู้เดียว สวยบ่เบิ่งบ้านเบิ่งเมือง” นกแก้วยังเย้ากรีนนี่ต่อไม่หยุด

    “โอ้ย เซาแนสองคนหนิกัดแต่กันหนิหล่ะ พุ้นหญิงฟ้ามาแล้วเห็นบ่” เดอลาเห็นท่าไม่ดีกอปรกับเห็นม่านฟ้าที่กำลังเดินตรงมารวมกลุ่มกับพวกเธอ

    “หญิงฟ้ามาทันเวลาพอดีเลยครบทีมเล่นเต้นยาง” เดอลาบอกกล่าวบรรดาเพื่อนฝูง ให้รู้ว่าเกมกำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว เพราะมีม่านฟ้ามาสมทบพอดี

    “โอ้ย! เต้นยางอีกแล้ว ฉันละเบื่อซุมเธอ” กรีนนี่บ่นพร้อมกับทำสีหน้าเซ็ง ๆ

    “รึว่าเธออยากเล่นของเฮียนน้อยหล่ะหญิง? " นกแก้วรีบถามพร้อมกับทำน้ำเสียงหยอกล้อ เพราะรู้ว่ากรีนนี่ไม่ชอบ

    “บ่ บ่ เฮียนน่งเฮียนน้อยหยัง เล่นยามได๋ฉันกะได้เป็นแต่พ่อ พวกเธอหยังยังได้เป็นแม่เป็นลูกสาว บ่เอา บ่เล่น" กรีนนี่รีบตอบปฏิเสธไป เพราะเธอเบื่อจะสวมบทบาทเป็นพ่อ ในเกมเล่นขายของพ่อแม่ลูกของแก๊งเพื่อนสาวของเธอเต็มทนแล้ว

    “เอ้า ! สิเล่นหยังกะฟ่าวเล่น เฮาบ่มีเวลาหลายเด้อ สิได้ฟ่าวไปตักน้ำไว้ใช้ยามแลง น้ำในโอ่งเหมิดแล้ว" ม่านฟ้ารีบบอกเพื่อน ๆ เพราะเห็นว่าตกลงกันไม่ได้สักที

    “โอ้ย !!! หญิงฟ้าาาา" เดอลา กรีนนี่และนกแก้วอุทานชื่อฟ้าขึ้นพร้อม ๆ กัน จนทุกคนหันมามองหน้ากัน แล้วขำจนตัวงอรวมถึงตัวม่านฟ้าด้วย

    “เพิ่งมาฮอดฟ่าวหยังกะด้อกะเดี้ยแท้ ไผกะต้องไปตักเหมิดนั่นหล่ะน้ำน่ะ” นกแก้วบ่นให้ม่านฟ้า

    “มา ๆ มาโออิลา ไผสิได้อยู่กับไผ" เดอลาเรียกเพื่อน ๆ ให้มาโอน้อยออกเพื่อแบ่งทีม

    เดอลาและเพื่อน ๆ เล่นกระโดดหนังยาง โดยเริ่มตั้งแต่ตาตุ่มจนถึงหัว แล้วไปสุดอยู่ที่ปลายแขน เล่นกันวนเวียนอยู่หลายรอบ จนตะวันเริ่มคล้อยต่ำลงไปมาก ทุกคนจึงแยกย้ายกันกลับบ้านเพื่อหุงหาอาหาร และไปตักน้ำที่บ่อเพื่อใช้ในช่วงค่ำเหมือนเช่นทุกวัน

    --- จบตอนที่ 4 ---

    แล้วพบกันใหม่นะคะ

    ด้วยฮัก  จากงามดอกบัว

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in