เราก้าวมาถึงยุคที่ใครๆ ก็เขียนอีบุ๊กวางขายได้แล้วนะรู้ยัง? ในไทยเองก็มีตลาดอีบุ๊กเติบโตอย่างมากมาย แล้วก็แถวๆ นี้ในอนาคตด้วยเหมือนกัน... *ทำหน้ากรุ้มกริ่มแบบรู้นะแต่ยังบอกไม่ได้* แม้จะเป็นอีบุ๊กที่อ่านใน device ต่างๆ แต่เมื่อมันเป็นหนังสือก็ย่อมมีปก แต่ทีนี้...ไม่ใช่ว่าทุกคนจะมีทุนรอนจ้างคนทำปกได้ ก็เลยถูไถทำไปก่อน หรือบางทีอาจจะชอบปกแนวนี้เลยทำเอง แต่...แต่... ถ้ามีโอกาสทำใหม่ก็ทำเถอะ เพราะเมื่อมันลงอินเทอร์เน็ตไปแล้วครั้งหนึ่ง....มันก็จะคงอยู่ตลอดไป เช่นปกเหล่านี้
หนังสือส่วนใหญ่ที่เอามาให้ดูจะเป็นนิยาย ที่ให้อ่านได้ใน kindle (คินเดิล) ซึ่งเจ้าคินเดิลนี้เป็นอุปกรณ์ที่ทาง amazon ผู้จำหน่ายหนังสือรายใหญ่(ของโลก) ทำออกมาขาย หน้าตาคล้ายแทบเล็ทแหละ แต่คุณสมบัติที่เด่นและทำให้หนอนหนังสือหลายคนตัดสินใจเลือกมาใช้ ก็คือการที่มันแสดงผลหน้าจอ ด้วยสีสัน ความคมชัด คล้ายกับกระดาษจริงๆ เรียกว่า e-ink เป็นเครื่องมืออ่านหนังสือที่มีน้ำหนักเบาและพกพาสะดวก
พร้อมจะมาดูปกนิยายสวยสะพรึงกันหรือยัง... ดูกันว่ามินิมอร์จะเดาถูกมั้ยยย
1. Animal Future
อืม.......ผู้หญิงเชื้อสายเอเชีย จรวด และลิงชิมแพนซีที่ใส่สูทซึ่งน่าจะเป็น...สไตล์อแบบอเมริกัน ดูจากทรงและการเลือกสีเชิ้ตซึ่งไม่แมทช์กับเนคไทแล้ว...อืม ลิงตัวนี้คงไม่ได้ทำงานสายแฟชั่น และมันต้องเป็นเรื่องอนาคตแน่ๆ *มองชื่อด้านบน* แต่คือ คือ มินิมอร์เดาอะไรไม่ได้เลยจากปกนี้ *ร้องไห้* แต่เห็นรูปบ้านคนเหมือนภาพวาดของเด็กๆ หรือมันจะเป็นโลกในมุมมองของเด็กกันนะ!
จริงๆ คือ...
เรื่องราวของโลกในอนาคตอันใกล้นี่แหละ เถิดขึ้นในแถบเซาเธิร์นแคลิฟอร์เนีย เมื่อสัตว์ทั้งหลายกลายเป็นผู้มีความสามารถพิเศษและดำรงชีวิตคล้ายมนุษย์ ตำรวจสาวชาวอเมริกันเชื้อสายเวียดนามต้องร่วมมือกับลิงชิมแพนซีที่แต่งตัวสุด dapper และสายลับที่จ้อไม่หยุด เพื่อเอาชีวิตรอดจากคมเขี้ยวของนักฆ่า! (เออ น่าจะเป็นสัตว์นักล่า มากกว่าแค่สำนวนนะเนี่ย) และทั้งสามก็ได้สาวไปถึงแผนการก่อการร้ายที่ยังไม่ทราบเจตนาแน่ชัด
เอ๊ย ดูน่าสนุก! แถมมีการซ้อนภาพสังคมปัจจุบันเข้าไปให้กับสัตว์ทั้งหลาย เช่นการอพยพของสัตว์มาที่ซานดิเอโก เพื่อชีวิตที่ดีกว่า แม้ปกจะแปลก แต่คะแนนรีวิวดีเลยนะเนี่ย เขาถึงว่าอย่าตัดสินหนังสือแค่เพียงปก ยังไงลองไปอ่านกันได้นะ
2. THE BEST LAID PLANS: Birth of the Starclan
ไอ้นั่นมันคือตัวหมีน้ำใช่หรือไม่... ถูกใช้แทนเอเลี่ยนสินะ... แต่คือแบบ มันต้องเป็นเรื่อง Si-Fi แน่นอน ดูจากภาพอวกาศ แต่เดี๋ยว ทำไมซ้อนลายสก็อตมา หรือเพราะมีคำว่า clan ที่เอาไว้เรียกตระกูลชนชาติสก็อต... *สับสนมาก*
จริงๆ คือ
อีกแค่ 2 สัปดาห์ กองเรือรบ(อวกาศ)ก็จะกลับถึงโลก และชายผู้ที่ทั่วทั้งกาแลคซี่รู้จักในฐานะพลเรือเอกแห่งกองทัพก็จะเกษียณอายุราชการ แต่ แองกัส แมคอัลลิสเตอร์ กลับพบว่าตัวเองอยู่ท่ามกลางสงครามอันยิ่งใหญ่ ระหว่างมนุษย์และเอเลี่ยนที่แสนประหลาด ที่มีเรื่องราวความรักซ้อนทับอยู่ในความเป็นตายของมวลมนุษยชาติ!
เหย...มันมีทุกอย่างที่ปกบอก พระเอกก็นามสกุลเป็นชาวสก็อตแลนด์...แต่คือปกไม่ต้องใส่ทุกอย่างก็ได้มั้งงง
3. Brothers, Bullies & Bad Guys
เอ่อ...เป็นเรื่องของเด็กสองคน พี่น้องมั้ง ที่ต้องเอาตัวรอดจากหมี *เปิดหนังล่าสุดลีโอฯที่ได้ออสการ์ดูเพื่อศึกษา* แต่คือต้องเป็นที่ที่มีทะเลด้วยอะ ไม่งั้นคงลำบาก ใช่มั้ย ถูกมั้ย แล้วผู้หญิงคงเป็นคนช่วย...มั้ง..
จริงๆ คือ
สองพี่น้อง คริสโตเฟอร์และไมเคิล ต้องยึดคติ รวมกันเราอยู่แยกหมู่เราตาย เมื่อพ่อแม่ของทั้งสองถูกลักพาตัวไปจากคนที่เข้ามาบุกรุก พวกเขาต้องไปยังภูเขาในแถบชายฝั่งแฟซิฟิค ฝ่ามหาสมุทรไปยังเกาะที่เป็นดั่งป้อมปราการ เพื่อเอาชีวิตรอด!
คือ... รีวิวดีเหมือนกันนะ แต่ปกสะท้านใจมาก เด็กน้อยผู้มีตัวโผล่จากเรือ!
4. Gay Knights and Horny Heroes: Tales from the Court of King Arthur
คือชื่อน่ะ....คือชื่อ... มันชัดเจนมากจริงๆ รู้แหละว่าเป็นเรื่องราวความรักชาย-ชาย ในยุคกลางของอัศวินแห่งกษัตริย์อาเธอร์ ละแบบ เปิดก้นให้ด้วย พี่ไม่ต้องบอกโพสิชั่นของตัวละครผ่านปกชัดขนาดนี้ก็ได้ รู้แล้วว่ายุคกลางไม่ใส่กางเกงใน!
จริงๆ คือ
ก็ตามนั้นแหละ... แต่เกี่ยวกับสไควร์(คนติดตามอัศวิน) เซอร์แลนสลอต แล้วก็กษัตริย์อาเธอร์ เป็นโบรมานซ์ของเหล่าอัศวิน!
5. Hide and Seek (The September Day Series Book 2)
หมาต้องเป็นตัวร้ายแน่ๆ คืออะไร หมากลายเป็นตัวร้ายเหรอ เหยยย นี่มันผิดนะ ในหนังทุกเรื่องเยอรมันเชพเพิร์ดต้องเป็นพระเอกซี่ *งอแง* แล้วแมวเป็นตัวร้ายไรงี้ แต่ให้แมวเป็นตัวร้ายก็ไม่ดีอีก โอย สับสน
จริงๆ คือ
เป็นเรื่องธริลเลอร์(เล่มต่อ) เรื่องของ September Day ผู้เป็นผู้ฝึกสัตว์ (หรือจะเรียกนัักปรับพฤติกรรมสัตว์ดี) เธอเคยผ่านเหตุการณ์ร้ายแรงมาก่อนในอดีต จนเป็นความเจ็บปวดในใจ ผู้ที่เธอเชื่อใจมีแต่สุนัขเยอรมันเชพเพิร์ดและแมวของตนเองเท่านั้น แต่ว่าสุนัขกลับพบเรื่องเลวร้าย...ทำให้ความเชื่อมั่นในมนุษย์สั่นคลอน และเมื่อเธอถูกผู้ไม่ประสงค์ดีติดตาม ทั้งสามมีเพียงเชื่อใจกันและกันเพื่อผ่านเรื่องร้ายนี้ไปให้ได้
...ดูทั้งธริลเลอร์และอบอุ่นเลยอะ *มินิมอร์ผู้เลี้ยงทั้งหมาและแมว*
6. But... You're a Horse
ค่ะ แต่คุณเป็นม้า....เราเข้าใจว่าคงทำปกนี้ในลักษณะการล้อเลียนปกขนบของปกนิยายโรแมนซ์ในยุค 80s-90s แต่คือแบบ ค่ะ แต่คุณเป็นม้าาา เป็นม้าาา *ออกไปตะโกนที่หน้าผาเดียวกับเหินฟ้า* ไม่เข้าใจ
จริงๆ คือ
เป็นนิยายยั่วล้อ เสียดสี ของ David Bussell รวมมุก แก๊ก เรื่องราวต่างๆ ที่เหมือนจะไม่เกี่ยวกับปก
*มินิมอร์ถอนหายใจด้วยความโล่งอก* ถ้าเดาได้เราจะกลัวตัวเองมาก
7. Flight of the Intrepid Monkey
เป็นเรื่องอวกาศ....อวกาศ....อวกาศ...กับ *มินิมอร์ผู้เดาไม่ได้ทรุดลงไปร้องไห้อย่างน่าสงสาร*
จริงๆ คือ
เรื่องราวของชายที่รักครอบครัวแต่เกลียดงานฉิบ! เขาเลยลาออกจากงานเสียเลย เขาร่วมเดินทางไปกับกัปตันเรือขยะ(อวกาศ?) และลูกสาวของกัปตัน แต่จู่ๆ ก็กลายเป็นคนที่ต้องหนีกฎหมายซะงั้นน่ะ นอกจากจะได้พบเจอกับเรื่องโจรสลัดอวกาศ เรายังจะพบกับเลขาฯผู้น่าเกลียด และแม่บ้านที่เกรี้ยวกราด...
มินิมอร์ว่า "แม่บ้านที่เกรี้ยวกราด" อันนี้แหละน่ากลัวสุด
8. Isis: The Beauty Myth
...เรารู้แหละว่าเทพีไอซิส เป็นเทพีแห่งความอุดมสมบูรณ์ของอียิปต์ เปรียบเป็นเทพีผู้เป็นมารดาแห่งโลกเลยนะ แต่ หน้าปกอะ มันทำให้เราสงสัยในความสวย....คือสงสัยนิดหน่อยก็แล้วกัน *ให้เกียรติเทพ*
จริงๆ คือ
Raheema Sanders เป็น CEO ของบริษัทเครื่องสำอางที่ต้องการจะย้อนวัยของตนเอง เธอจึงลักพาตัวเทพไอซิสมา เพื่อค้นหาความลับของความงามนั้น ทว่าพอได้เจอกับเทพเจ้า...เธอจึงได้รู้ว่าความลับของความงามนั้นมากกว่าสิ่งที่ซ่อนอยู่ในผิวพรรณ
มินิมอร์ว่าน่าสนใจนะเนี่ย อ่านแล้วนึกถึงอาร์ทิมิส ฟาวล์ ที่จับเลเปรอคอนมาเรียกค่าไถ่ คนเราต้องมีความเชื่อในเทพนิยายขนาดไหนนะ ถึงทำแบบนี้ได้
9. Lorilee: In Moira's Footsteps: Like Mother, Like Daughter
มันต้องแฟนตาซีสิ แล้วนางเอกหลุดไปอีกโลก โดยมีอาวุธแค่กรรไกรตัดหญ้า โคตรคัลท์!
จริงๆ คือ
ตลอด 13 ปี Lorilee O'Noon ใช้ชีวิตราวกับเป็นลูกช่วงที่โดนบ้านอุปถัมภ์โยนไปโยนมา เธอไม่เคยมีที่ทางของตนเอง หรือเพราะชีวิตของเธอก็ไม่ธรรมดา มีหัวใจสองดวง มีความสามารถในการรักษา และแรงกายอันแข็งแกร่ง กระทั่งวันหนึ่งที่เธอได้พบกับบ้านที่น่าจะทำให้เธอลงปลักปักฐานและมีชีวิตปกติได้ แต่มันก็พลิกตลบ เมื่อตาของเธอเข้ามาในชีวิต และบอกว่าแม่ของเธอเป็นใคร ลูกสาวของเขาได้หายไป กลายเป็นข่าวใหญ่ และในอีกหลายเดือนต่ีอมาก็กลับมาพร้อมกับเรื่องราวของการลักพาตัวสู่โลกที่เป็นเหมือนฝันร้าย นามว่า Akrasia
กรรไกรตัดหญ้าหายไปไหนล่ะ!
10. Hall of The Mountain King
...สารภาพนะ ว่าเรานึกถึง Attack on Titan แล้วเราก็นึกอย่างอื่นไม่ได้เลย นอกจากไททัน! (ไม่ใช่วอลล์มาเรีย นี่เตี้ยไป)
จริงๆ คือ
Alaric และ Ralph เป็นเด็กวัยรุ่นที่ไม่เหมือนใคร เขาไม่เคยได้รับผลกระทบจากโรคใดๆ แข็งแรงมาก กระทั่งความหนาวก็ไม่ทำให้พวกเขาเดือดร้อนสักเท่าไหร่ *ฟูลเทิร์นหนึ่งทีแล้วเดินจากไปแบบเอลซ่า* พวกเขาได้เจอหน้ากันและแชร์ประสบการณ์ต่างๆ จนวันหนึ่งเขาได้รู้จักกับชายที่เรียกตนว่าเป็นราชาแห่งขุนเขา...และเป็นพ่อของทั้งสองคน...
ราชาหน้าตางี้จริงๆ เหรอ...
11. Young Tales of the Old Cosmos
มันคือ annoying orange เวอร์ชั่นอวกาศ นึกอย่างอื่นไม่ออกจริงๆ
จริงๆ คือ
เมื่อดาวไม่ใช่เทหะวัตถุ แต่เป็นสิ่งมีชีวิต พวกดาวเคราะห์ทั้งหลายจะรู้สึกอย่างไร? ความสัมพันธ์อันซับซ้อนของโลกและดวงจันทร์ รวมถึงความสะเทือนใจของดาวพลูโตที่โดนขับออกจากสุริยจักรวาล จากดาวเคราะห์กลายเป็นดาวเคราะห์แคระ และเรื่องอื่นๆ อีกมากมาย
เฮ้ย ตัวเรื่องนี่เก๋นะ แต่ปกแบบ ส้มน่ารำคาญจริงๆ ฮือ
12. Senior Sex Parties 3
มินิมอร์ว่ามันเหมือนโปสเตอร์ชุมนุมลีลาศพ่อบ้านและแม่บ้าน ที่ติดประกาศอยู่ในบอร์ดกลางหมู่บ้าน...
จริงๆ คือ
เรื่องราวอีโรติกของพ่อบ้านแม่บ้านกับเอ่อ กลุ่มแลกคู่นอน (นั่นแหละ)
13. Sins of the Father (Skye Morrison Vampire Series, #2)
สาธุคุณผู้เป็นสตอล์กเกอร์ โดยมีเป้าหมายเป็นสาวโกธิคพังค์สวยอึ๋ม ที่ไม่กลัวผี เขาหลอกเธอเข้ามาในสุสานเพื่อที่จะได้อยู่กันสองคน (ส่วนที่เหลือไม่นับเป็นคน)
จริงๆ คือ
Skye Morrison เป็นแวมไพร์มุสโซเล็ม...แวมไพร์ที่น่าจะเป็นผู้ล่ากลับกลายเป็นผู้ถูกล่า เธอต้องออกจากบ้านตัวเองและอาศัยอยู่ในบ้านริมทะเลสาบของ Archer ร่วมกับเพื่อนร่วมงานอื่นๆ และทำให้บางคนรู้สึกริษยา นั่นเพราะเธอได้อยู่ร่วมกับชายสองคนที่เธอปรารถนาเป็นที่สุด แต่เธอก็ต้องเอาชีวิตรอดให้ได้เช่นกัน
น่าสนใจ! แวมไพร์ถูกล่า! แต่มินิมอร์สงสัยว่าถ้าแวมไพร์ไม่ใส่เสื้อผ้าแนวโกธิค หรือโกธิคพังค์จะได้มั้ย ถ้าใส่คลีนๆ ดูมูจิ หรือว่าใส่ลูกไม้หวานๆ แบบแบรนด์ Marchesa จะโดนอัปเปหิออกจากสังคมแวมไพร์หรือเปล่า ใครรู้ชัดโปรดแถลงไข
14. The River Rages: Son of the Wind 2
เอ่อ เด็กชายชาวเอเชีย และชายหนุ่มเชื้อสายสก็อต... ก็คงอยู่ในป่าแหละ อาศัยกับธรรมชาติ มีเพื่อนเป็นตัวนาก เหมือนในเพลง Colors of the Wind ไง
จริงๆ คือ
Khit ชายหนุ่มผู้ัเติบโตท่ามกลางวัฒนธรรมผสมผสานของไทยและสก็อตแลนด์ ได้รับมรดกเป็นปราสาทท่ามกลางธรรมชาติ ปราสาทบนไฮแลนด์ของประเทศสก็อตแลนด์นั้นงดงาม แต่ภยันตรายกลับเพิ่มพูน ทั้งจากญาติฉ้อฉล และโปรโมเตอร์มวยไทยที่ไม่ซื่อสัตย์ Khit ต้องปกป้องพี่น้อง ลูกแฝด และลูกชายบุญธรรม พร้อมกับเอาชีวิตรอดจากดินแดนนี้ให้ได้
...ให้ลูกใส่กางเกงมวยตัวเดียวยืนกลางป่าสก็อตแลนด์ไม่หนาวเหรอ แล้วตัวนากคือ...
15. Texting Mr. Right
เป็นความรักของชายหนุ่มหญิงสาวที่ใกล้จะเป็นโรคติดมือถือ และแน่นอนว่าเมื่อเป็นนิยาย Christian Romance มันก็จะเป็นแค่ texting ไม่ใช่ sexting (การส่งข้อความในเชิงชู้สาว ล่อลวงให้มีเพศสัมพันธ์ หรือโชว์ภาพลับ เป็นปัญหาที่พบเจอมากในหมู่เยาวชน)
จริงๆ คือ
Megyn เพิ่งเรียนจบ เธอได้ไปใช้เวลาช่วงหยุดพักที่กระท่อมของครบครัวแถวทะเลสาบมิชิแกน และเฝ้าคิดว่าเหตุใดหลักสูตรมหาวิทยาลัยของตนถึงไม่ได้สอนเรื่องการหาชายในฝันนะ แต่เธอก็วางมันเอาไว้ในอุ้งหัตถ์ของพระผู้เป็นเจ้า เชื่อว่าพระองค์จะพาคนที่ดีมาให้ แล้วขณะที่หญิงสาวกำลังช่วยงานกิจการของครอบครัวเพื่อนอยู่นั้น... 'เขา' ก็เดินเข้ามา พร้อมกับที่ทั้งคู่ต้องเริ่มรักษาความรักที่อยู่บนความสัมพันธ์ระยะทางไกล
นางเอกรำพึงว่าทำไมในมหาวิทยาลัยไม่สอนวิชาหาชายในฝันนะ...โอ้โห ถ้าสอนป่านนี้โครงสร้างชาติคงไม่แข็งแรงขนาดนี้หรอก! *คานเยอะมาก*
16. A Throne At Stake
เขาหนาว เลยเผาบ้านผิงไฟไล่ความหนาว... ดูสิ หนาวเนื้อห่มเนื้อจึงหายหนาวนะ
จริงๆ คือ
Lady Galinia ปรารถนาจะช่วยเจ้าชาย Parsigul ในการทวงสิทธิอันชอบธรรมในการครองราชบัลลังก์คืนมา แต่เธอกลับทำในสิ่งที่ผู้ใช้เวทมนตร์..เช่นเธอ...ไม่ควรทำ ทั้งสองข้อ คือห้ามช่วยมนุษย์ธรรมดาในการต่อสู้ และห้ามพ่อมดแม่มดต่อสู้กันเอง...แต่เหมือนเธอทำไปแล้วทั้งสองอย่าง เพื่อเขา ซึ่งผลที่ตามมานั่นช่างน่าพรั่นพรึง ทั้งสงครามของมนุษย์ต่อมนุษย์ และสงครามของหมู่พ่อมดแม่มดด้วยกันเอง
บัลลังก์อยู่ในโรงนานั่นหรอกหรือ!
17. Titanimus Makes Jenny A Genie
เด็กสาวที่ค้นพบหุ่นปั้นที่สื่อถึงอารยธรรมโบราณอันมาจากต่างดาว...ซึ่งถูกเรียกกันว่า "จินนี่" แท้จริงแล้วจินนี่ในนิทานคือมนุษย์ต่างดาว แต่มันต้องเกี่ยวกับอียิปต์ เพราะมีอักษรภาพเฮียโรกริฟฟิค
จริงๆ คือ
(ไปย้อนอ่านเล่มก่อนมา) Jenny อาศัยอยู่ในประเทศออสเตรเลีย มีบ้านใกล้แนวชายฝั่ง ตอนเดินเล่นไปเจอแจกันสวยงาม เลยจะเอากลับบ้านให้แม่ แต่ดันพบว่าข้างในมีเด็กหญิงชื่อ Futana ติดอยู่ เธอคิดว่าไม่มีทางมียักษ์จินนี่แบบในนิทานหรอก แต่ว่าใช่ มันมี Futana ไง และมีโลกของจินนี่ด้วยนะ มาจากอียิปต์ ว่าตรงๆ คือหายตัวไป จนราชาแห่งจินนี่ต้องตามหา! เล่มนี้เป็นด้วยเรื่องของ Futana จินนี่น้อยที่กำลังจะเป็นจินนี่เต็มตัว!
รู้สึกว่าเป็นนิยายใสๆ น่ารักแฮะ ใครที่ชอบเรื่องเกี่ยวกับอียิปต์ลองอ่านตัวอย่างได้นะ
18. The Yississ War (Strange Galaxy)
เอเลี่ยน...เอ่อ เอเลี่ยนไง สงครามด้วย คนตายเยอะแน่ๆ ใช้สีแดง เลือดๆ
จริงๆ คือ
สิ่งมีชีวิตอันชั่วร้ายได้สิงสู่ในซากร่างเน่าเปื่อย มันบัญชาการกองทัพซอมบี้และเหล่ามอนสเตอร์ที่ไร้รูปร่าง มนุษย์และพวกพ้อง จะต้องหยุดมัน!
เอาจริงๆ เป็นปกที่ทำได้อย่างถูกต้องมากเลยนะ *ก้มลงกราบ*
19. The Senate Complete (The Sisters Of Reah Leah Trilogy)
มันต้องเป็นรักสามเส้า (สะกดงี้นะทุกคน) ระหว่างชายผู้หนึ่งและสองพี่น้องเอเลี่ยนหรือเผ่าพันธุ์อะไรซักอย่างที่ปกติแล้วท็อปเลส...มีขนปุย มีหางด้วย
จริงๆ คือ
เป็นเรื่องชุดที่มีปกอื่นมาก่อนหน้าแล้ว...เรื่องราวของหญิงสาวจากเผ่าพันธุ์ Lourack นาม Reah Leah ที่ถูกจองจำบนเกาะโดดเดี่ยวมากว่าสี่ปี เธอได้เจอ Wess ชายที่หลุดมาจากโลกมนุษย์ด้วยเทคโนโลยีของเอเลี่ยน เธอได้รักษาเขา...และเริ่มผูกพันกัน และในเล่มต่อนี้ก็เริ่มพูดถึงเผ่าพันธุ์ของเธอและการเมืองภายในแล้ว
ทำไมต้องกอดกันแล้วเอามือปิดหน้าอกอีกคน ปิดของตัวเองไปสิเธอ! แล้วผู้ชายท็อปเลสหรือไม่ใส่ทั้งตัว *สงสัยมาก*
20. Virgin Heat
แมว...ลอดบ่วงไฟ คือคิดว่าต้องเป็นเรื่องสาวสวยวัยละอ่อนที่เล่นกับไฟ อาจจะเป็นเรื่องอีโรติค...
จริงๆ คือ
เรื่องราวของสาวน้อย (จริงๆ ด้วย) ที่เป็นลูกสาวของหัวหน้ามาเฟียแก๊งอามาโรผู้ยิ่งใหญ่แห่งนิวยอร์ก ทว่าเธอดันไปมีใจรักกับชายหนุ่มผู้ซึ่งเป็นพยานในคดีที่พ่อเธอเป็นจำเลย และเขาก็กำลังอยู่ห่างไกลเนื่องจากต้องเข้าโปรแกรมพิทักษ์พยาน หลายๆ รีวิวบอกว่าเรื่องนี้เป็นอาชญนิยายที่ระทึก น่ารัก และตลกไปพร้อมกัน
ปกใหม่เก๋ดีนะ!
แม้ปกนิยายหลายเรื่องจะดูแล้วแบบ เฮ้ย อะไรอะ แต่มีไม่น้อยเลยที่จับเอาประเด็นสำคัญมาอยู่เสียครบ...(บางเล่มก็ครบไป ไม่ต้องเป๊ะขนาดนั้นก็ได้) การทำปกหนังสือจริงๆ แล้วไม่อาจจะเอาไอเดียทั้งหมดไปใส่ได้หรอกนะ มันจะเยอะไป แต่ถ้าทำแบบไม่มีไอเดียอะไรเลยก็ไม่สื่อถึงงานเราอีก หรืออาจจะทำให้คนอ่านเข้าใจงานเราผิดก็ได้
