เมื่อพูดถึงการโดนคุณครูทำโทษ นักเรียน(และอดีตนักเรียน)ทั้งหลายคงจะนึกถึงการโดนตีด้วยไม้เรียวขึ้นมาทันที นี่แค่ลองหลับตาดู ภาพตอนคุณครูกำลังเงื้อไม้ก็ลอยขึ้นมาล่ะ เสียง ฟวั่บ! งี้ดังชัดในหัว แผลเก่าที่เคยโดนตีเมื่อนานมาแล้วรู้สึกระบมขึ้นมาซะงั้น อูย...

dek-d.com

นอกจากการโดนตีด้วยไม้เรียวแล้ว ในประวัติศาสตร์การศึกษาไทยยังมีการทำโทษในรูปแบบอื่นปรากฎอยู่อีกนะ หลังจากที่มินิมอร์ได้ไปสัมภาษณ์รวบรวมมา ขอบอกไว้เลยว่าแต่ละอย่างเนี่ย ขอโดนไม้เรียวตียังดีซะกว่า ให้ตีสิบทียังยอมเลย นะคุณครูนะ พลีส (จริงๆ ยังมีการเขกโต๊ะด้วย แต่ไม่นับแล้วกัน ใครมันจะขอโดยไม้เรียวฟาดแทนเขกโต๊ะล่ะคุณ)

ยืนกางแขนแบมือห้ามเอาลง

ช่าย แค่ยืนกางแขนเท่านั้นแหละ และต้องหงายฝ่ามือขึ้นด้วย ใครยังไม่เคยโดนคงทำสายตายิ้มเยาะทำเสียงเหยียดหยามว่า "แค่เนี้ย?" เฮ้ย! ไม่เคยโดนอย่ามาดูถูกกันนะ การยืนกางแขนแบบนี้ค้างไว้ทีแรกมันก็สบายดีอยู่หรอก แต่เมื่อเวลาผ่านไปซักพักมันจะทั้งเมื่อยทั้งปวดสุดๆ เลยขอบอก จากการสัมภาษณ์(อดีต)เด็กชาย บ. น้องเขาบอกว่าโดนแค่ 15 นาทีก็แทบแย่แล้วพี่ ไม่ไหวจริงๆ กลายเป็นคนดีของสังคมมาจนทุกวันนี้

ทำมือขยุ้มแล้วเคาะด้วยแปรงลบกระดาน

เป็นอีกวิธีที่คลาสสิคมาก และโหดมากพอๆ กัน ให้ทำมือขยุ้มเป็นปอบหยิบแล้วเคาะดังโป๊ก คือตามปกติถ้าโดนตี 1 ทีก็เจ็บ 1 จุด แต่นี่ครั้งเดียวได้ถึง 5 แล้วยังเป็นปลายนิ้วด้วยอ่ะ ปลายนิ้วเลยนะ ตามปกติคนที่โดนการทำโทษนี้จะเป็นเรื่องลืมตัดเล็บ แต่บางครั้งก็ใช้ทำโทษความผิดอื่นๆ เหมือนกัน ใครไม่อยากเจอก็เป็นเด็กดีเข้าไว้ล่ะ

นั่งหันหน้าเข้าหากระดานคนเดียว

ไม่ใช่แค่ออกไปยืนหน้าห้อง แบบนั้นมันง่ายไป แต่ให้ยกโต๊ะเก้าอี้ไปนั่งชิดกระดานดำ คือระหว่างที่โดนทำโทษในลักษณะของการโดนประจานแล้วยังต้องเรียนไปด้วยอีก เด็กที่โดนทำโทษแบบนี้จะเป็นคนที่ไม่ตั้งใจเรียนเลยซักนิด คุณครูก็จะ... ได้ นั่งไกลเลยย่ามใจใช่มั้ย งั้นก็มานั่งมันหน้าสุดชิดกระดานไปซะเลย ดูซิว่ายังวอกแวกได้อีกมั้ย

คุยในแถวกันดีนักไปยืนคุยกับต้นไม้เดี๋ยวนี้

พูดเป็นเล่น ครูที่ไหนจะไปทำโทษนักเรียนแบบนี้ "ครูหนูนี่ล่ะค่ะ" เด็กหญิง พ. ยืนยัน การให้นักเรียนจำนวนมากมายืนเข้าแถวมันหลีกเลี่ยงการคุยในแถวได้ยาก เด็กๆ มายืนอยู่กับเพื่อนก็อยากคุยล่ะนะ โอเค ในเมื่ออยากคุยนัก คุณครูก็จะให้คุยสมใจ เลือกต้นไม้กันคนละต้นแล้วก็ไปยืนคุยกับต้นไม้เดี๋ยวนี้ ต้องคุยจริงๆ ด้วยนะ ห้ามยืนจ้องเฉยๆ เพราะครูจะส่งคนมายืนเฝ้าด้วย (โหดมาก)

เอ้า อมบอระเพ็ดซะ

ไม่แน่ใจว่าเด็กสมัยนี้ยังมีการโดนลงโทษแบบนี้กันอยู่มั้ย (ใช้คำว่าเด็กสมัยนี้แล้วดูแก่จัง) สำหรับคนที่ไม่เคยอมให้ลองหามาอมดูได้นะ บอระเพ็ดเป็นพืชสมุนไพรไทยที่มีประโยชน์และรสชาติหอมหวานอร่อยมาก วุ้ย! ไม่ใช่! รสชาติมันจะขมสุดๆ ถ้าใครชอบคุยในห้องเรียนคุณครูจะฝานเป็นแผ่นมาให้อม แหวะ ไม่อร่อยเลยอ่ะ

เอ้า อมเกลือซะ

ช่างเป็นการลงโทษที่เปี่ยมไปด้วยไอโอดีน ป้องกันนักเรียนจากโรคคอพอก และจากความผิดที่คิดจะทำอีกในครั้งหน้า เจอแบบนี้นักเรียนคนไหนก็ไม่อยากโดนทำโทษซ้ำแน่นอน

จากที่ได้สัมภาษณ์รวบรวมมา น่าตกใจเหมือนกันว่านอกจากการโดนตีด้วยไม้เรียวกับการเขกโต๊ะแล้ว ยังมีการทำโทษอีกมากมายที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความครีเอทขนาดนี้ เป็นเด็กก็ลำบากเหมือนกันนะเนี่ย แต่ถ้าทำตัวเป็นเด็กดี ตามคำขวัญวันเด็ก "เด็กดี หมั่นเพียร เรียนรู้ สู่อนาคต" ก็ไม่โดนลงโทษแล้วล่ะจริงมั้ย หรือจะทำตามคำขวัญวันเด็กปีอื่นๆ ก็ได้ ดีทั้งนั้นแหละ ถ้าใครสนใจเรื่องราวของคำขวัญวันเด็ก ก็ลองไปดูรายการ SURVEYVER ตอนวันเด็กกันได้ สนุกนะ