รวมเทคนิคเล็กๆน้อยๆป้องกันการตกเครื่อง (และสิ่งที่ควรทำหลังตกเครื่องไปแล้ว)

        เชื่อว่าหลายๆคนที่เดินทางด้วยเครื่องบินอาจจะเคยเจอปัญหาขึ้นเครื่องไม่ทันฝนตกรถติด แทกซีหลงทาง รถเสียบนทางด่วน หลงวันลืมเวลา กว่าจะรู้ตัวเคาเตอร์เชคอินปิดซะแล้วเอาหละ เรามาดูเทคนิคเล็กๆน้อยๆที่จะป้องกันเหตุดังกล่าวได้บ้าง เอ๊ะเดี๋ยวทำความเข้าใจกันก่อนนะจ๊ะ เทคนิคที่จะบอกเป็นเพียงวิธีเบื้องต้นเท่านั้นนะเธอไปสายสองชั่วโมงใครก็ช่วยไม่ได้นะจ๊ะ



1. แลกเงินให้เรียบร้อยก่อนวันเดินทาง

        คือ จะไปไหนก็แลกไปก่อนเถิดพ่อคุณแม่คุณ ไม่ต้องหวังจะไปแลกที่สนามบินคิวมันยาวไม่ยาวก็ไม่รู้ เผลอๆไม่ได้แลกจะเคว้งคว้างเอาได้ที่สำคัญ (อันนี้กระซิบบอกดังๆอัตราแลกเปลี่ยนที่สนามบินมันแพงกว่าชาวบ้านนะ ไปหาแหล่งแลกเงินข้างนอก (ที่เชื่อใจได้ เข้าไปตามตรอกเล็กๆ ให้อัตราดีเว่อร์ๆ ระวังออกมานับธนบัตรไม่ครบนะเออ) ส่วนที่ไหนถูกที่สุดกูเกิลเอาได้ อากู๋กูเกิลรู้ทุกเรื่องจริงๆ


2. เช็คเอกสารให้ดีก่อนออกจากบ้าน

        เอกสารทั้งหลายทั้งแหล่เนี่ยวันสองวันก่อนจะบินเช็คให้เรียบร้อยก่อนนอนก็เช็คอีกสักรอบหนึ่ง เอกสารสำคัญก็เตรียมให้เสร็จ สำคัญนี่เน้นว่าสำคัญจริงๆนะ ใบรายชื่อฝากซื้อขนมเครื่องสำอางค์นี่ไม่นับนะ พาสปอร์ต บัตรประชาชน แลกเงินยัง? boarding pass เรียบร้อยดีไหม? เช็คเอกสารทั้งหมดเสร็จแล้วเก็บใส่กระเป๋าซะ-ที่สำคัญมากกก-ใส่กระเป๋าใบที่จะถือขึ้นเครื่องนะเธอ ไม่ต้องพิเรนไปใส่ในใบที่จะโหลดลงใต้ท้องเครื่อง(เคยมีมาแล้ว)


3. เช็คอินล่วงหน้า

        สมัยนี้เช็คอินล่วงหน้าผ่านอินเตอร์เน็ตได้แล้วนะเธอ เขามีบริการให้ใช้แล้วใช้เถอะขอร้อง คือ ไม่ใช่ว่าเครื่องขึ้นสองทุ่มเธอไปถึงทุ่มสี่สิบแล้วจะไปต่อล้อต่อเถียงพนักงานว่าชั้นยังทันนะชั้นมาก่อนเครื่องขึ้นนี่ให้ชั้นไปสิ มันไม่ได้ว้อย! โดยส่วนใหญ่แล้วเคาเตอร์เช็คอินจะปิดก่อนเวลาบินประมาณ 45 นาทีอะลุ่มอะหล่วยได้นิดหน่อย แต่คิดซะว่านั่นคือเดดไลน์ สายกว่านั้นคือตกเครื่อง

    แต่ปัญหาเหล่านี้จะหมดไปถ้าเช็คอินมาก่อน ระบบเช็คอินล่วงหน้าส่วนใหญ่ (อีกแล้ว)จะเปิดให้เช็คอินออนไลน์ได้24 ชั่วโมงก่อนเวลาบิน และปิดให้เช็คอิน 4 ชั่วโมงก่อนเวลาบิน  เพราะฉะนั้นพวกเธอมีเวลา 20ชั่วโมงในการป้องกันความโป๊ะเพิ่มเติมนิดนึงวิธีนี้เหมาะสำหรับคนที่ไม่โหลดกระเป๋านะจ๊ะเพราะยังไงถ้าจะโหลดก็ยังต้องไปต่อคิวกันอยู่ดี (หรือ อาจจะเจอคิวสั้นกว่า ถ้าสานการบินมีช่อง drop-off ให้ โหลดกระเป๋าแยกต่างหาก)



4. เผื่อเวลาซักหน่อย

        อยากจะเขียนภาษาไทยเป็นตัวพิมพ์ใหญ่เน้นความสำคัญเหลือเกินข้อนี้-ติดที่ว่ามันไม่มี หลักสากลโลกแล้วจะทำอะไร ธุระที่ไหน เผื่อเวลากันซักหน่อยเถิดเอาง่ายๆที่สุดเลย ซัก 3 ชั่วโมงในกรณีไปสุวรรณภูมิ 2 ชั่วโมงกรณีบินออกจากดอนเมืองทั้งหมดทั้งมวลนี่คำนวณระยะจากบ้านถึงสนามบินเอาเองนะ ไกลกว่านั้นก็บวกๆเข้าไปเผื่อเอาไว้ในกรณีฝนตกรถติดยางแตกหลงทาง บลาๆๆๆๆ



5. พกปากกาลูกลื่นติดตัว

    พกจากบ้านมาซักด้ามนะ เวลาที่ต้องกรอกเอกสารเข้าเมืองนู่นนี่นั่นจะได้ไม่ต้องรอคิวปากกากันให้เมื่อยตุ้มในกรณีที่ต้องต่อเครื่องไปที่อื่นจะไม่ทันเอานะเธอ



6. ดูเวลาบอร์ดดิง และ เช็คหมายเลขเกทขึ้นเครื่อง

        ดูให้ดีๆ ตั้งนาฬิกาปลุกก่อนเวลาบอร์ดซักครึ่งชั่วโมงสำหรับสุวรรณภูมิ หรือ ซักยี่สิบนาทีถ้าขึ้นดอนเมือง และ กรุณาอ่านแล้วจำชื่อเกทด้วยสายตาตัวเอง ถ้าถามเพื่อน เพื่อนบอก D6 เราเราวิ่งไป  B6 - อันนี้เตรียมผูกเชือกรองเท้าแล้ว อูซาน โบลท์ ข้ามสนามบินให้ดีละกัน



ทั้งหมดนั่นคือวิธีที่พอจะป้องกันก็ได้มากที่สุดแล้วที่เหลือก็ขึ้นอยู่ว่าจะทำมากน้อยแค่ไหนนั่นแหละนะเอาหละ แล้วถ้ายังจะดันตกเครื่องกันอีกทำยังไงหละทีนี้


        ก่อนอื่นเลยใจเย็นๆ ตั้งสติก่อน คุณไม่ใช่คนเดียวบนโลกนี้ที่เคยตกเครื่องมันไม่ได้คอขาดบาดตายขนาดนั้น ถ้าไม่ได้มีธุรกิจพันล้านที่ต้องไปจัดการ (อันนั้นถ้ายังตกเครื่องก็สมน้ำหน้าแล้วหละ) การรนไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้น

        เมื่อตั้งสติได้แล้วเดินไปถามพนักงานของสายการบินที่นั่งอยู่ในเคาเตอร์ซะไปบอกเขาว่าเราตกเครื่อง มาไม่ทัน บอกเหตุผลเขาไปเรียกคะแนนสงสาร (มันอาจจะช่วยได้)ต่อรองกับน้องกราวสุดสวยดูว่าพอจะช่วยเหลืออะไรได้บ้างพอจะมีไฟลท์ไหนว่างยัดๆเราลงไปได้บ้างรึเปล่า ในบางกรณีมันก็มีที่เค้าจะขายตั๋วต่อไปในราคาลดลงมาบ้างแต่ทั้งนี้ทั้งนั้นถ้าซื้อตั๋วมาในราคาโปรโมชันมักจะไม่ได้การสงสารแบบนี้สักเท่าไหร่ในกรณีที่ไร้ทางเยียวยาก็ยอมรับชะตากรรมเดินไปซื้อตั๋วใหม่เที่ยวต่อไปและโทรแจ้งคนที่รออยู่ให้เรียบร้อยโทรแจ้งโรงแรมซักหน่อยว่าเราอาจจะเข้าเช็คอินช้า ทีนี้พอได้ตั๋วก็เช็คให้ดีอย่าให้พลาดอีกหละเธอ 


สุดท้ายนี้ Safe Flight จ้า



Credit: sanookmthaitelegraphstatravel