สำหรับฉันแล้ว โจ๊กคืออาหารสามัญที่จัดอยู่ในหมวดอาหารฉับพลัน วันไหนตื่นเช้าก็หากินเอาใกล้บ้าน หรือไม่ก็เดินเซๆ เมาๆ แวะอุ่นท้องหลังเที่ยวดึก กล่าวคือ โจ๊กเจ้าไหนก็กินได้ แต่ทุกสิ่งก็เปลี่ยนไปเมื่อได้รู้จักโจ๊กเหล่านี้ ภารกิจตื่นเพื่อกินโจ๊กจึงเกิดขึ้น!
โจ๊กตลาดน้อย (เจ๊หมวยเกี้ย)
ยอมรับเลยว่าครั้งแรกที่มาชิมเพราะติดใจสโลแกน 'อากงส่งเสริม' ที่เขียนไว้ตัวเบ้อเริ่มหน้าร้าน ถามไถ่ได้ความว่า ทางร้านนับถือเทพเจ้าปึงเถ่ากง ไม่เกี่ยวอะไรกับอากงชื่อส่งเสริมแต่อย่างใด ทั้งนี้กลับมาที่รสโจ๊กที่ติดใจ ข้าวมันนวลๆ หวานน้ำซุปบางๆ และเครื่องในกรอบสะอ้านสมคำลือ ยิ่งบวกปาท่องโก๋ตัวอวบเข้าไปด้วยแล้ว ถึงจะต้องหาวตอนเที่ยงก็ถือว่าคุ้มกัน
ที่อยู่ : ร้านย้ายจากตลาดน้อยมาปักหลักในตรอกสุกร 2 ตรงข้ามวัดไตรมิตร เปิดทุกวัน ตีสามครึ่งถึงสิบโมง
โจ๊กปรินซ์
แม้หลายรีวิวในอินเทอร์เน็ตจะบอกว่าไม่เห็นอร่อยเลอ! แต่จิราภรณ์ก็เข้าข้างโจ๊กดังร้านนี้เสมอมา เพราะชอบรสชาติยูนีกที่มาพร้อมกับกลิ่นหม้อไหม้เล็กๆ เป็นกลิ่นหอมประหลาดหาใครเหมือนยาก ยิ่งวันไหนโชคดีได้คุณป้าแต่งหน้าเต็มปรุงโจ๊กไฟฉ่าให้ จะรู้สึกปลื้มปีติระหว่างเป่าโจ๊กกินมากยิ่งขึ้น
ที่อยู่ : ร้านอยู่ปากตรอกโรงหนังปรินซ์ บางรัก ตรงข้ามโรบินสัน เปิดสองช่วง หกโมงเช้าถึงเที่ยง และห้าโมงเย็นถึงสามสี่ทุ่ม
โจ๊กยศเส
ท่ามกลางร้านรวงยามกลางคืนแห่งซอยยศเส ดิฉันแพ้ความพิถีพิถันของโจ๊กรถเข็นเล็กๆ ของลุงกะป้ามาก เพราะป้าจะค่อยๆ เคี่ยวข้าวกับน้ำซุปทีละนิดๆ ส่วนลุงก็จะตะล่อมหมูสับใส่ถ้วยน้ำจิ้ม แล้วใช้ช้อนปาดลงหม้อทีละคำๆ หากสั่งกลับบ้าน ป้าจะต้มนำ้ซุปปริมาณ 3 ช้อนโต๊ะแยกใส่ถุงให้อุ่นเองยามเช้า พร้อมแยกถุงขิงและผักโรยรัดหนังยางมัดไว้นอกถุงกันผักตายนึ่ง เรื่องรสชาติ ใครติดรสจัดอาจว่าจืดไปนิด แต่ฉันชอบความเนียนละมุนและหมูชุ่มแต่ไม่เด้งเป็นที่สุด
ที่อยู่ : พิกัดรถเข็นปากซอยยศเส เปิดทุกวัน ห้าโมงเย็นถึงเที่ยงคืน