ยิ่งกว่าฝันไป คอปเตอร์ไม้ไผ่ วุ้นแปลภาษา '9 ของวิเศษโดราเอมอน'ที่ถูกทำให้ใช้ได้จริง

"โดราเอมอนช่วยด้วยยยย" ถ้าใครอ่านวลีนี้แล้วมันออกมาเป็นเสียงโนบิตะแบบอัตโนมัติ ไม่ได้แค่แปลว่าเราเป็นแฟนโดราเอมอนตัวยงแน่ ๆ ยอมรับมาซะดี ๆ ว่าในช่วงเวลาสุดคับขัน (อ่านหนังสือสอบไม่ทัน แล้วอยากได้ขนมปังช่วยสอบ) เคยภาวนาให้โดราเอมอนมีจริงขึ้นมา ซึ่งจริง ๆ แล้วโดราเอมอนจะมีจริงหรือไม่มีจริงก็ได้ แต่ขอให้สารพัดของวิเศษในกระเป๋าโดราเอมอนมีจริงไว้ก่อน (หึ ร้ายกาจยิ่งนัก) มินิมอร์บอกเลยว่าจินตนาการไม่สูญเปล่าแน่นอน เพราะนี่คือ ของวิเศษโดราเอมอนที่เป็นจริงแล้วในโลกปัจจุบัน 


1.เครื่องพิมพ์ 3 มิติ ติ ติ ติ ติ: อยากได้อะไรก็วาด ๆ แล้วสั่งปริ๊นมาใช้จริง

วัยเด็กอันแสนงดงามที่เรามักวาดนั่นวาดนี่ ชุดสุดโปรด นวัตกรรมสุดเจ๋ง (ที่คิดว่าเจ๋งอยู่คนเดียว) สัตว์เลี้ยงสุดยูนีค วาดออกมาได้เรื่องบ้างไม่ได้เรื่องบ้าง แต่ก็หวังว่า โหยย เราวาดอะไรอ่ะ ดี๊ดี อยากให้มันออกมาเป็นของจริงจังเลย อ่านโดราเอมอนทีไร ดูดโดราเอมอนเมื่อไหร่ก็หัวใจพองโต ก็โดราเอมอนมีเครื่องพิมพ์ 3 มิติที่ เอาภาพที่เราวาดใส่ลงไปปุ๊ป ออกมาเป็นสิ่งนั้นในขนาดที่ใช้งานได้จริงทันที โอ๊ยย รักเลยจ้ะ



ฝันไม่ได้เป็นแค่ฝันอีกต่อไปหรอกนะ ทุกวันนี้เราก็มีเทคโนโลยีการพิมพ์ 3 มิติเรียบร้อยแล้วไง เจ้า 3D Printer หรือ Rapid Prototype (RP) คือเครื่องพิมพ์ที่จะทำให้เราได้ของ 3 มิติออกมาจริง ๆ เราจะวาดเองก็ได้เพียงแต่ต้องวาดใส่คอมพิวเตอร์แล้วกดปริ๊นออกมา สร้างได้ตั้งแต่บิกินี่ แพนเค้ก ไปยันหอไอเฟลเลยล่ะ

เทคโนโลยีนี้จริง ๆ ก็มีใช้มานานแล้ว เพียงแต่ราคาถูกลงในช่วง 6-7 ปีที่ผ่านมาทำให้เป็นที่รู้จักแพร่หลายมากกว่าเดิม ถ้ายังนึกภาพไม่ออกก็กดดูข้างล่างได้เลย จะได้รู้ว่าเทคโนโลยีนี่มันล้ำจนของเหมือนมีของวิเศษจากโดราเอมอนอยู่ในมือเลยแฮะ


2.เครื่องส่งเสียงระยะไกล: ไม่อยากอยู่ใกล้ แต่ก็ไม่อยากใช้โทรโข่งอ่ะ



หลักการไม่ต่างอะไรจากโทรโข่ง คือพูดเบา ๆ ก็ได้ แต่ขยายเสียงซะดังจนได้ยินไกลขึ้น อ่ะ อ่ะ แต่ถ้าแค่นั้นมันก็ไม่ต่างอะไรกับโทรโข่งล่ะสิ สิ่งนี้เจ๋งกว่านั้นจ้ะ เพราะถึงจะพูดแล้วคนไกลได้ยิน แต่ก็มีแต่คนที่เราตั้งใจให้ได้ยินเท่านั้นที่จะมีสิทธิ์รู้เรื่องของเรา (นี่มันช่างป้องกันการเผือกได้ดียิ่งนัก)





ต้องขอบคุณบริษัทFuji Xerox  ที่ไม่ได้มองการ์ตูนเป็นเรื่องเล่น ๆ คิดทำเครื่องส่งเสียงระยะไกลนี้ขึ้นมาให้เราได้ตื่นเต้น เพราะเทคโนโลยี และรับรู้ว่า ความคิดสร้างสรรค์ในการ์ตูนก็เป็นจริงขึ้นมาได้เหมือนกัน

3.วุ้นแปลภาษา: สำหรับคนอยากรู้ภาษาโดยไม่ต้องเรียน


ที่สุดแห่งของวิเศษโดราเอมอนที่อยากจะกรีดร้องตั้งแต่แรกเห็น อะไรมันจะดีขนาดนั้นแค่กินวุ้นนี่เข้าไป เราก็จะสามารถ ฟัง พูด เข้าใจทุกภาษาที่มีอยู่ในจักรวาลนี้ โอเค พูดภาษาโปรตุเกสไม่ได้หรอ กินวุ้นสิ กินปุ๊ปรู้เรื่อง ฟังได้ พูดได้ คล่องปรื๋อเหมือนภาษาแม่เป๊ะเลย



ภาษาไม่ใช่กำแพงที่ยากจะข้ามอีกต่อไป เพราะตอนนี้แม้จะไม่ได้ง่ายขนาดกินวุ้น แต่เราก็รู้ดีว่าไหนจะ google translate เอย ไหนจะ Skype Translator ที่พูด ๆ กับชาวต่างชาติไปก็แปลให้แบบเรียลไทม์สุด ๆ หรือจะลองแอปพลิเคชัน WordLens (และอีกหลาย ๆ แอป) ที่เพียงแค่เราถ่ายรูปป้าย หรือข้อความที่เราไม่รู้ว่าแปลว่าอะไร เราก็จะเกทได้ภายในไม่กี่อึดใจ 

4.คอปเตอร์ไม้ไผ่: อยากบินได้ด้วยเครื่องมือเล็กนิดเดียว


ถึงจะไม่มีโดราเอมอนมาคอยบอก แต่การบินได้ก็เป็นสุดยอดความฝันวัยเด็กของเราทุกคน คอปเตอร์ไม้ไผ่จึงเป็นของวิเศษที่เข้ามาเติมเต็มเราได้อย่างลงตัว เพราะไม่ต้องมีปีก มีพลังวิเศษเหมือนฮีโร่ตัวอื่น ๆ แต่เราสามารถบินได้ด้วยนวัตกรรมเล็กจิ๋วชิ้นนี้



แม้เราจะมีสายการบินโลว์คอสท์และเครื่องบินจำนวนากที่สนับสนุนให้เราบินไปไหนมาไหนในราคาที่ทุกคนจับต้องได้มากขึ้น แต่มันก็ไม่เหมือนกับการมีใบพัดส่วนตัว ที่ทำให้เราไปไหนมาไหนอย่างใจนึกคนเดียวซักหน่อย

ขอบคุณ Gen H4 เฮลิคอปเตอร์ที่เล็กที่สุดในโลกที่เข้ามาเติมเต็มความฝันเรื่องคอปเตอร์ไม้ไผ่ให้เรา เพราะด้วยเฮลิคอปเตอร์จิ๋วนี่เราไม่จำเป็นต้องได้ใบอนุญาตการบิน เราสามารถบินด้วยความเร็ว 40 แรงม้าไปซื้อกับข้าว ไปทำงาน หรือไปโรงเรียนได้แบบเก๋ ๆ แลเพราะไม่ได้ทำจากไม้ไผ่ นวัตกรรมการบินขนาดเล็กจึงมีราคา (ที่ชวนให้อยากเดินมากกว่าอยากบิน) อยู่ที่ 3,017,758 บาท ใครสนใจจะเติมเต็มความฝันมาบินหนีรถติดก็ลองดูได้นะ

5. ผ้าคลุมล่องหน: ไม่อยากทนอะไร ก็ ปิ๊ง! หายไปเลยดีกว่า



โมเนท์ของเด็กขี้เกียจเข้าแถวบ้าง ขี้เกียจเรียนบ้าง บางทีก็อยากจะปิ๊ง หายตัวไปกับสิ่งแวดล้อมโดยรอบแบบไม่มีใครสังเกตเห็น โดราเอมอนก็ช่างรู้ใจควักผ้าคลุมล่องหนออกมาจากกระเป๋าจนอยากจะมีใช้บ้าง 



นี่คือผ้าแบบ retro-reflective ที่จะทำหน้าที่แสดงภาพสิ่งแวดล้อมที่อยู่ด้านหลังของผู้สวมใส่ ทำให้เรารู้สึกเหมือนว่าคนที่สวมผ้านี้ล่องหนได้จริง ๆ  (คุณพระ ขอผืนใหญ่ ๆ หน่อยเถอะบางทีก็อยากแบบนอนที่ทำงานบ้างอะไรบ้าง)

6.กล่องของชอบ: เห็นสี่เหลี่ยม ๆ แบบนี้ อยากให้เป็นอะไรก็ได้นะ



(การ์ตูนข้างบนนี้ อ่านจากขวาไปซ้ายตามแบบญี่ปุ่นนะจ๊ะ จะได้ไม่งง)

เห็นเหลี่ยม ๆ เล็ก ๆ แบบนี้ มันกลายเป็นอะไรก็ได้ที่เราชอบนะ ดูโทรทัศน์ก็ได้ ฟังเพลงก็ยังได้ ถ่ายรูปก็ได้อีกแหนะ อ่ะ เริ่มคุ้น ๆ กันหรือยัง

สิ่งของทรงเหลี่ยมที่จะให้เราได้ทุกอย่างอย่างที่พูดมาก็คงหนีไม่พ้นสมาร์ทโฟนนี่เอง แหม พูดตอนนี้ก็อาจจะมี ว้า ออกมาเบา ๆ คิดว่าจะมีอะไรตื่นเต้นกว่านี้ซะอีก แต่ลองนึกย้อนไปหลายสิบปีก่อนสิ การที่ฟูจิโกะ เอฟ ฟูจิโอะจินตนาการถึงเจ้ากล่องสี่เหลี่ยมสุดวิเศษที่ทำอะไรได้หลายอย่างในเครื่องเดียวนี้ ก็คงสร้างความน่าตื่นเต้นให้เด็ก ๆ พอสมควร (ย้อนกลับไป 10 ปีที่แล้วก็เถอะ สมาร์ทโฟนยังดูน่าตื่นเต้นสำหรับพวกเราอยู่เลย)

7.ขวดนำทาง: แค่มีขวดอย่างฉันไว้ ฉันจะพาเธอไปทุกที่เลย



คุณสมบัติของเจ้าขวดนำทางนี่ก็ดี๊ดี เพราะแค่เราจับปากขวดไว้ เราก็จะถูกดูดหายเข้าไปในขวด ขวดจะลอยน้ำไปยังสถานที่ที่เราต้องการได้เอง

ขวดอาจจะไม่นำทางเราในโลกปัจจุบัน แต่ GPS นำทางเราได้ (โอเค อาจจะไม่ถึงขั้นดูดเราเข้าไปให้ลอยน้ำไปไหนต่อไหน) นี่คือเทคโนโลยีที่เพียงบอกที่หมายที่ต้องการไป ก็จะนำทางเราไปถึงได้แบบเก๋ ๆ (ลองจินตนาการถึงชีวิตตอนไม่มี GPS สิ ก็ต้องจำทางกันให้วุ่นพอสมควรเลย )

8.เครื่องอ่านความฝัน: ฝันอะไร รู้สึกอะไร ขอรู้หน่อยน่า



โดราเอมอนรู้ได้ว่าโนบิตะฝันอะไร ทุกวันนี้ก็มี NeuroSky นวัตกรรมจาก บริษัท Silicon Valley  ที่มีเครื่องมือตรวจจับคลื่นสมองว่าขณะนี้เรากำลังตึงเครียด หรือสนใจอะไรอยู่เป็นพิเศษ แถบสี ๆ นี่ก็จะแสดงผลให้เห็นกันจะ ๆ เลยทีเดียว


จะว่าไปทุกวันนี้ก็ไม่ได้มีแค่เจ้าเครื่องมือนี้เท่านั้น นักประสาทวิทยา รวมถึงคุณหมอก็สามารถรู้ความรู้สึก (หรืออย่างน้อยก็ต้นตอของความรู้สึก) ด้วยการเข้าเครื่องสแกนสมองได้แล้ว 

9.เครื่องเปลี่ยนวิวฝาผนัง: เบื่อแล้ววิวนี้ ขอฉายภาพเป็นวิวอื่น ๆ บ้างนะ



หลักการก็ไม่ซับซ้อนอะไร ฝาผนังบ้านเรา บางทีเราก็เบื่อ ไม่ได้โชคดีเหมือนโนบิตะนี่นา ที่มีโดราเอมอนควักเครื่องเปลี่ยนวิวฝาผนัง มาฉายภาพสามมิติสารพัดแบบให้ดูได้จนคนทั้งโลกต้องอิจฉา


ก่อนที่จะตัดพ้อจนโดราเอมอนต้องยอมย้อนเวลามาหาไปมากกว่านี้ ไม่มีโดราเอมอนแต่ Fuji Xerox (อีกแล้วครับท่าน) เพราะเขาลงมือสร้างสรรค์เครื่องเปลี่ยนวิวฝาผนังที่ใช้งานได้จริงออกมาเอาใจแฟน ๆ โดราเอมอนอีกแล้ว เพียงตั้งเจ้าเครื่องนี้ไว้กลางห้องเราก็สามารถเปลี่ยนห้องเราให้กลายเป็นสถานที่ที่เราเลือกได้แบบ 360 องศาเชียวนะ

แม้ Fuji Xerox จะเป็นตั้วตั้งตัวตี แต่ความสำเร็จครั้งนี้ก็ทำกันหลายบริษัทเชียวล่ะ เช่น บริษัท ORIHALCON Technologies อาสาติดตั้งระบบฉายภาพ บริษัท puzzle ขอทำเครืองฉายภาพ 360 องศา หรืออย่างบริษัทคิชิตะเซย์ซะคุโจ ก็มาติดตั้งระบบมอเตอรให้หมุนได้รอบทิศทาง (เขาดูจริงังกับเรื่องเล่น ๆ กันดีเนอะ)



แม้ตอนนี้พ่อหุ่นยนต์แมวโดราเอมอนจะยังไม่ได้ควักกระเป๋า 4 มิติเพื่อเพิ่มของวิเศษในชีวิตจริงให้เราอีก แต่พลังแรงบันดาลใจและความสร้างสรรค์จากผู้เขียนการ์ตูนเรื่องนี้คงพอบอกอะไรเราได้บ้าง ก็ลองนึกย้อนดูสิว่าย้อนกลับไป 47 ปี ในปี 1969 เขาสามารถจินตนาการสารพัดของสุดล้ำไว้ให้เราได้ขนาดนี้ และนี่ยังไม่ถึงปี 2112 ที่โดราเอมอนย้อนเวลากลับมาเลยนะ เดาไม่ออกเลยว่ากว่าจะไปถึงปี 2112 จะมีของวิเศษชิ้นไหนเป็นจริงได้อีกด้วยพลังแห่งเทคโนโลยี และความคิดของมนุษย์ (คงล้นบ้านล้นเมืองแน่ ๆ)

แม้ของวิเศษที่หลายเป็นจริงหลาย ๆ อย่าง เราจะไม่ตื่นเต้นกับมันเหมือนตอนยังเด็กแล้ว เพราะมันเป็นเพียงอีกความธรรมดาในห้วงเวลาของเราเท่านั้น แต่ก็อย่าปล่อยชีวิตให้อยู่กับความธรรมดานี้ไปเรื่อย ๆ ล่ะ เพราะเทคโนโลยีที่เราใช้ หรืออีกหลายนวัตกรรมทุกวันนี้ก็เริ่มมาจากการคิดริเริ่มแบบที่เหมือนว่าจะเป็นไปไม่ได้นี่เองแหละเนอะ