ถ้าจะมอบรางวัลให้กับผู้ที่มีคุณูปการต่อวงการการ์ดเกมไทย ในฐานะผู้บุกเบิกเปิดเนตรวงการนี้ คิดว่ากระทรวงอะไรสักอย่างควรจะมอบรางวัลนั้นให้กับการ์ตูนเรื่อง ‘ยูกิ เกมกลคนอัจฉริยะ’
ในฐานะผู้ที่ทำให้ประเทศนี้รู้จักสิ่งที่เรียกว่าการ์ดเกม และทำให้วงการการ์ดเกมไทยเติบโตในช่วงหนึ่ง (ก่อนที่เกมออนไลน์จะมาและพังอาณาจักรการ์ดเกมจนเป๋ไปพักนึง) ยูกิฯ เป็นการ์ตูนเรื่องแรกในโลกที่มีพระเอกเล่นการ์ด แล้วสามารถชี้เป็นชี้ตายมวลมนุษยชาติได้ด้วยการ์ด บางตอนก็พอเข้าใจได้ แต่บางตอนถึงอุทานออกมาดังๆ ว่า ‘เหยดโด้ว’ ซึ่งเราได้รวบรวมความ ‘เหยดโด้ว’ ของการ์ตูนเรื่องนี้เราจดจำมันได้
1. ดูเอล แก้ปัญหาทุกสิ่ง
วลีเด็ดเพื่อท้าตีท้าต่อย ในการ์ตูนเรื่องนี้ซึ่งมันหมายถึงการเอาการ์ดมาตีกันจนกว่าใครจะแพ้ และไม่ว่าจะโกรธแค้นกันมานานแค่ไหน เช่น
- ปู่แพ้ดวลการ์ดเลยโดนเอาวิญญาณไปขังไว้ในทีวี
- พี่ชายโดนขังไว้เป็นปีจนเกือบบ้าเพราะดูเอลแพ้
- เพื่อนเกือบตายห่าเพราะดูเอลแพ้
- หรือ เพื่อนเกือบจมทะเลตายเพราะกระโดดลงไปงมการ์ดสำคัญในทะเลที่ตัวโกงโยนทิ้ง
วิธีแก้แค้นของตัวละครในเรื่อง คือ "เฮ้ย! มึงมาตีไพ่กัน" จะว่าเนิร์ดก็เนิร์ด จะว่าแมนก็แมน ลองนึกภาพดูคนโมโหกันแทบจะยิงกันตายได้เลยถ้ามีปืนอยู่ตรงหน้า มันไม่ใช่ไง ไม่เท่ มันเจอหน้ากันแม่งตะโกนลั่น "ดูเอล" แล้วจั่วการ์ด 5 ใบ ทั้งที่ฝั่งตรงข้ามตัวใหญ่กล้ามโตสามารถวิ่งมากระทืบยูกิให้ร่วงได้สบายๆ เหยดโด้ว!! โคตรจะแมน...
ภาพประกอบ : ปู่โดนจับขังในโทรทัศน์แต่ไม่โกรธ ดวลการ์ดกันต่อได้ ใจกว้างดีจังเลย
2. กฎปรับได้ทุกอย่าง
ช่วงแรกของการ์ตูนยูกิฯที่จับทางถูกว่าเนื้อเรื่องมาสายการ์ดเกมแล้วรุ่ง ก็คือภาค ‘เกาะดูเอลดิสต์’ และเหมือนว่าในตอนแรกกฎของการ์ดเกมยังไม่ค่อยลงตัวเท่าไหร่ ทำให้เราเห็นการดูเอลที่โคตรจะตามใจฉันเกิดขึ้นมากมาย เช่น
- จู่ๆมังกรตัวนี้ก็สามารถชนะนักรบของอีกฝั่งนึงได้แม้พลังเท่ากันเพราะกูบินได้ (เชี้ยมีกฎแบบนี้ด้วย)
- สามารถสั่งมอนสเตอร์โจมตีไปยังพื้นเปล่าๆ เพื่อดูว่ามอนสเตอร์ที่หลบอยู่ในเงามืดของเอฟเฟคการ์ดหนึ่งใบนั้นเป็นตัวอะไร (เล่นการ์ดในชีวิตจริงมึงสั่งโจมตีพื้นสนามเฉยๆ ได้เหรอครับ...)
- การ์ดใบนึงสามารถสะกดจิตมอนสเตอร์ตัวผู้ได้เพราะการ์ดใบนั้นเป็นผู้ชาย โดยไม่มีเหตุผลอะไรนอกจากนี้ (เขร้! Feminist ขั้นสุด)
- หรือ อยู่ดีๆ การ์ดที่ไม่มีความสามารถพิเศษอะไรในภาคก่อน ก็เสือกมามีความพิเศษในภาคนี้เฉยเลยโดยเจ้าของการ์ดตีความเองว่ากูสามารถมีได้ (จะว่าการ์ด Re - Print ใหม่ก็ไม่น่าใช่)
ตอนแรกที่พวกเราอ่านกัน เชื่อว่าคงไม่คิดอะไร แต่พอย้อนกลับมาอ่านอีกทีก็พบว่า เหยดโด้ว! พวกมึงแก้กฎเหมือนแก้รัฐธรรมนูญเอาแต่ได้เพื่อตัวเองกันกันทั้งนั้นเลยอ่ะ
ภาพประกอบ : การโจมตีใส่พื้นเฉยๆ ในตำนานซึ่งเป็นวิธีการเล่นการ์ดที่นอกกรอบสัสๆ ของพระเอก
3. จิตวิญญาณแห่งการ์ดชนะได้ทุกกฎ
ยูกิ กล่าวไว้ว่า "การ์ดทุกใบมีจิตวิญญาณถึงขนาดที่ว่าสามารถรู้ใจเจ้าของเดคได้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่ แล้วการ์ดใบนั้นก็สามารถเข้าถึงจิตใจคนได้" มีอยู่ตอนหนึ่งการ์ดฝ่ายพระเอกถึงกับยอมสละชีพตัวเองด้วยการสลายร่างไปดื้อๆ เพื่อมาป้องกันยูกิจากการโจมตีโดยการ์ดเวทมนต์ชนิดนึง ซึ่งถ้ามันไม่สลายร่างไปทำแบบนั้น ยังไงยูกิก็แพ้ชัวร์และจะโดนใบมีดหั่นขาดครึ่งตาย เป็นเหตุการณ์ที่ดราม่าเรียกน้ำตาให้ผู้ที่ประทับใจในมิตรภาพระหว่างคนกับการ์ดมากที่สุด สุดท้ายพระเอกก็ใช้พลังแห่งความโกรธจั่วเทพชุบชีวิตการ์ดใบนั้นขึ้นมาแล้วโจมตีใส่คู่ต่อสู้คนนั้นจนแพ้ไป
คำถามคือ...การ์ดฝ่ายพระเอกใบนั้นมึงโกงนี่หว่า เล่นนอกเกมชัดๆ เหยดโด้ว! เนียนจนน่าโดนปรับแพ้ฟาล
ภาพประกอบ : ช็อตโกงในตำนานโดยอ้างว่าเป็นจิตวิญญาณแห่งการ์ด
4. จั่วเทพชนะเสมอ
แต่จากความเดิมข้อที่แล้วที่ว่า ‘จิตวิญญาณแห่งการ์ดชนะทุกกฎ’ ก็สามารถต่อยอดความเวอร์โคตรพ่องได้ต่อเนื่องด้วยการที่ว่าไม่ว่าตัวเอกจะอยู่ในสถานการณ์ใกล้แพ้ ไลท์พอยส์ จะเหลือ 0 และการ์ดเหลือในมือแค่ใบเดียว แต่สุดท้ายความเชื่อมั่นใจการ์ดจะนำพามาซึ่งการ ‘จั่วเทพ’ ที่ทำให้ได้การ์ดพลิกเกมขึ้นมา ก่อนทำคอมโบอัดใส่ฝ่ายตรงข้ามไม่ยั้งตายห่านในดาบเดียว โดยมีข้อตกลงว่าเวลาจั่วติด ถ้าเทพจริง ต้องไม่มองการ์ดในมือ ต้องหลับตาจั่วขึ้นชูมือเหนือหัวแล้วพูดว่าฉันชนะแล้ว (เดี๋ยวนะ...มึงเห็นด้วยเหรอว่าจั่วได้อะไร เคยคิดเผื่อไว้ไหมว่าถ้าหน้าแตกจะเป็นยังไง) หรือ จั่วขึ้นมาเหลือบตามองการ์ดก่อนจะบลัฟฝ่ายตรงข้ามหนึ่งทีว่า “นายแพ้แล้ว...”
ไม่ปรากฏว่ามีครั้งไหนที่ยูกิหรือเพื่อนพ้องไม่เคยจั่วเทพพลาดเลยสักครั้ง แล้วทุกครั้งก่อนจั่วเทพจะต้องพูดวลีอะไรก็ได้ทำนองว่าเชื่อมั่นการ์ด เหยดโด้ว! อย่างมั่นอ่ะ
ภาพประกอบ : ฉากจั่วเทพได้ เอ็กโซเดีย ในตำนานที่มีให้เห็นบ่อยๆ จนมีคนตั้งกระทู้ถามในพันทิปว่าตกลงยูกิเก่งหรือมึงแค่ดวงดี
5. การ์ดเทพที่โดนทำลายในช่องเดียว
เหมือนกับว่า คาซึกิ ทาคาฮาชิ (คนเขียน) และกอง บ.ก. หาวิธีทำให้ การ์ดเอ็กโซเดียร์ การ์ดที่ขึ้นชื่อว่าเทพที่สุดในโลกยูกิ ณ วันนั้น (เจ๋งกว่าเทพโอเบลิส โอชีลิสต์ ราห์ อีก) ไร้ซึ่งจุดอ่อน แค่ขึ้นมือครบ 5 ใบมึงชนะเลย คนวาดก็เลยโชว์การทำลายล้างการ์ดเทพให้ฉิบหายไปง่ายๆ ด้วยการให้ตัวละครตัวหนึ่งขอการ์ดเอ็กโซเดียมาดูแล้วโยนทิ้งลงน้ำไปเลย การ์ดเทพก็การ์ดเทพเถอะ โยนลงทะเล=จบเลย เป็นฉากในประวัติศาสตร์ที่คนอ่านยูกิอยากจะเขียนเมลไปด่าคนเขียนว่า มึงคิดวิธีที่ดีกว่านี้ไม่ได้แล้วเหรอ!!!!???? เหยดโด้ว! กำปั้นทุบดินสัสๆ
ภาพประกอบ : ฉากทำลายการ์ดเทพ ที่ไม่น่าเชื่อว่าคนไมโดนกระทืบได้ยังไง ควรโดนแล้วแบบนี้
6. การ์ดเทพ กับ ความเหลื่อมล้ำทางสังคม
ยูกิ ในยุคแรกเป็นยุคแห่งบาบาเรียน คือการ์ดคนไหนพลังเยอะกว่าก็มีโอกาสชนะ การ์ดเทพที่ ณ วันนั้นทรงพลังเหนือใครก็คือ Blue Eyes White Dragon โจมตี 3000 ป้องกัน 2500 ไม่มีสกิลอะไรทั้งนั้น ตอนหลังการ์ดเทพไม่ได้มีพลังเกิน 3,000 แค่บลูอายฯ แต่มีตัวห่าอะไรไม่รู้ออกมาเต็มไปหมดพร้อมความสามารถพิเศษยุบยับ จนบลูอายฯที่เคยเป็นพระเอกของการ์ดทั้งหมดกลายเป็นการ์ดระดับตัวประกอบ (ที่คนเขียนพยายามแถ และดันให้มันเก่งให้ได้) ขณะเดียวกัน Black magician การ์ดที่พลังโจมตี 2500 ป้องกัน 2100 ไร้ซึ่งสกิลอะไรทั้งสิ้น กลับกลายเป็นการ์ดพระเอกที่ล้มใครก็ได้ทั้งนั้นแม้พลังBeyond แบบห่างชั้นขั้นสุดแค่ไหนก็ตาม หรือ การ์ดชื่อ ‘คลีโบ’ พลังโจมตี 300 ป้องกัน 200 ไม่มีพลังพิเศษอะไรแต่ยูกิก็ใส่มา(มึงใส่มาทำไม?) ก็สามารถล้มการ์ดเทพเจ้าได้สบายๆ เหยดโด้ว! ความเหลือมล้ำทางสังคมมีจริง
ภาพประกอบ : คลีโบ้ การ์ดกากในตำนานที่ล้มบอสได้
7. เล่นการ์ดได้จะได้เป็นฟาโร่ห์ที่หายไปในประวัติศาสตร์
ท้ายที่สุดแล้วยูกิ ได้เฉลยตอนใกล้จบว่า ตัวเองเล่นการ์ดเพื่อที่จะตามหาความทรงจำของตัวเองที่ขาดหายไป ก่อนจะย้อนไปอดีตเพื่อดูความแท้ที่จริงแล้ว ตัวเองเป็นฟาโรห์ชื่อ ‘อาเท็ม’ อยู่ในอียิปต์ยุคหนึ่ง และใช้การดูเอล เพื่อสื่อสารไปยังอดีตที่ขาดหายไป เลยย้อนกลับมาคิดว่า นี่มึงแค่เล่นการ์ดนะ ทำไมมันดูเชื่อมโยงกับประวัติศาสตร์ และชาติกำเนิดถึงเพียงนี้ อ่านจบก้ได้แต่อึ้งอยู่ในใจ ว่าตกลงการเล่นการ์ดแม่งรุนแรงพอๆ กับทำสงครามระหว่างประเทศเลยนี่หว่า เหยดโด้ว! นี่ยูกิเดินทางมาถึงจุดนี้ได้ยังไง
ภาพประกอบ : ฟาโร่ห์ในตำนานทีได้ดิบได้ดีเพราะเล่นการ์ดเก่ง