ช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ นอกจากต้องออกไปซื้อหาปฏิทินมาเปลี่ยนแทนเล่มเดิม สิ่งที่ขาดไม่ได้ของหลายๆ บ้านก็คือหนังสือเช็กชะตาราศี เคล็ดลับเสริมดวงประจำปี ที่อัดล้นแผงหนังสือตั้งแต่ปลายปี หมอดูหน้าเก่าหน้าใหม่ต่างเปิดไพ่ ไล่ดูลักขณา จับยามสามตาเปิดโอกาสให้เราได้ศึกษาความเป็นไปได้ใน 365 วันข้างหน้า ว่าเราจะชงไม่ชง ชวดไม่ชวด ผู้ใหญ่จะอุปถัมภ์ค้ำชูหรือเมินเฉย การงานการเงินจะราบรื่นดีหรือเปล่า แล้วเนื้อคู่ของเราจะมาเมื่อไหร่ เพราะนี่เป็นสิ่งที่แม้แต่หนังสือ TheForecast จาก Monocle ก็บอกไม่ได้ Time เหรออย่าหวังเลย!

            แม้ใครต่อใครจะบอกให้เราอยู่กับปัจจุบัน แต่ยอมรับเถอะว่าอดีต ปัจจุบัน และอนาคตนั้นคลุกเคล้าผสมอยู่ด้วยกัน ไม่ได้แบ่งเป็นสามก้อนใหญ่ๆ หรือเรียงเป็นเส้นตรงที่แยกได้ชัดเจนว่า อะไรเป็นอะไร ลองนึกถึงทุกครั้งที่เราถูกรุมเร้าด้วยปัญหาน้อยใหญ่ ไม่ว่าใครก็คงต้องมองย้อนกลับไปหาเหตุในอดีตที่ผ่านมาว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไร เหตุใดจึงเป็นเช่นนี้ ก่อนจะถอนหายใจแล้วกังวลต่อไปอีกทีว่า อนาคตจะเกิดอะไรขึ้นหนอ จะดีหรือร้าย ใครเล่าจะช่วยเราให้มองย้อนกลับไปยังอดีตอันไกลโพ้นถึงชาติก่อนไปจนถึงอนาคตข้างหน้าที่ยังมาไม่ถึง ใครจะรู้เรื่องนี้ได้ดีไปกว่า...หมอดู!

            เพราะศาสตร์แห่งการทำนายอนาคตนั้นอยู่ในทุกที่ตั้งแต่คอลัมน์นิตยสารหัวสมัยใหม่ ดวงรายวันที่เพื่อนแชร์มาในเฟซบุ๊ก รายการในโทรทัศน์ ไปจนถึงดวงประชิดตัวที่วันดีคืนดี ก็อาจมีพ่อหมอแม่หมอท่าทางทรงภูมิผุดลุกขึ้นมาจากมุมตึกที่เราเดินผ่านแล้วทายทักว่าท่านกำลังจะมีเคราะห์ ต่อให้ไม่เชื่อเรื่องดวงหรือแข็งแกร่งมั่นคงดุจหินผา มาเจอหมอดูทักเข้าไปแบบนี้ก็ต้องมีหวั่นไหวกันบ้าง แล้วอะไรกันที่ทำให้หมอดูมีอำนาจชี้ขาดความคิดผู้คนได้อย่างเบ็ดเสร็จตลอดมา จนแม้แต่ผู้นำประเทศที่ใหญ่มาจากไหนก็ยังต้องย่องไปขอคำปรึกษาจากหมอดูอยู่ไม่ได้ขาด

            ไหนๆ เรื่องดวงก็ผูกพันกับชีวิตของเราอย่างแยกไม่ออกขนาดนี้ giraffe จึงต้องปูเสื่อกางตำราพรหมชาติ หยิบแว่นขยายมาลองส่องหาความเป็นมาของศาสตร์แห่งการพยากรณ์เหล่านี้ ว่าอะไรทำให้มันอยู่ยงคงกระพันผ่านพ้นเวลามานับพันปี และทุกวันนี้เราสามารถมองเห็นอนาคตได้ชัดแจ่มแจ๋วระดับ HD กันแล้วหรือยัง