ถ้าผู้สูงอายุเปรียบได้กับหนังสือสักเล่ม เราเชื่อว่าหนังสือเล่มนั้นต้องหนาและเต็มไปด้วยประสบการณ์อย่างแน่นอน และคงน่าเสียดายหากพวกเขาต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยวไร้คนคอยดูแลเพียงเพื่อรอเวลาลูกหลานกลับบ้าน แถมการจ้างคนมาดูแลยังน่ากังวลถึงภัยร้ายจากคนไม่รู้จักอีกต่างหาก 

        นั่นคือจุดเริ่มต้นของไอเดียธุรกิจ Honor บริการ Home Care ที่จะช่วยจับคู่ผู้สูงอายุเข้ากับนักดูแลมืออาชีพ เพราะหลายต่อหลายครั้งผู้สูงอายุที่ต้องอยู่บ้านลำพังไม่เพียงต้องการคนพูดคุย แต่ยังต้องการผู้มีความรู้ทางการแพทย์ที่เหมาะสมซึ่งจะช่วยให้ลูกหลานอุ่นใจได้ว่าคนที่พวกเขารักกำลังอยู่ในความดูแลของใครสักคนที่มีความรู้และเชี่ยวชาญ

        แถม Honor ยังใช้งานสะดวก เพียงสมัครสมาชิกและลงทะเบียนผ่านแอพพลิเคชั่น ระบบก็จะจัดการจับคู่ผู้ดูแลให้ตามความต้องการของผู้สูงอายุแต่ละคน โดยผู้ดูแลอาจเป็นได้ทั้งนักศึกษา นักดนตรี หรือนักสิ่งแวดล้อม ยกตัวอย่างเช่น ถ้าผู้สูงอายุต้องการผู้ดูแลที่สามารถพูดภาษาจีนกลางได้ ระบบก็จะจัดหาผู้ดูแลที่พูดภาษาจีนกลางได้คล่องปากมาคอยพูดคุยและดูแลความเป็นอยู่ระหว่างวัน 

        นอกจากนี้ลูกหลานยังสามารถตรวจสอบที่อยู่ของผู้ดูแลได้ผ่านกูเกิลแมพ เพื่อใช้สำหรับกะระยะเวลาการมาถึงของผู้ดูแล รวมถึงรักษาความปลอดภัยเมื่อต้องไกลผู้ใหญ่ในบ้าน—ที่น่าทึ่งกว่านั้นคือผู้ดูแลสามารถรายงานผลการดูแลกับสมาชิกในครอบครัวของผู้สูงอายุผ่านแอพพลิเคชั่นได้อีกด้วย

        โดยบริการ Home Care ในลักษณะนี้ต่างจากบริการประเภท on demand (ธุรกิจบริการเป็นช่วงเวลา เช่น Uber) ตรงที่เป็นงานซึ่งต้องสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจในระยะยาว เพราะทุกครอบครัวย่อมต้องการผู้ดูแลที่มีประสิทธิภาพและไว้ใจได้ ฉะนั้นการจับคู่ผู้สูงอายุและผู้ดูแลจึงต้องเป็นไปอย่างละเอียดถี่ถ้วนมากที่สุด

        แม้หลายปีที่ผ่านมาตลาดผู้สูงอายุทั้งในเมืองไทยและต่างประเทศจะไม่ได้เติบโตหวือหวา แต่ทว่ายังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง และนั่นทำให้ Honor มองเห็นโอกาสและลงมือสร้างธุรกิจผ่านความเข้าใจในไลฟ์สไตล์คนชราอย่างลึกซึ้ง โดยหลังจากประสบความสำเร็จในขั้นแรก ล่าสุด Honor ยังได้รับเงินลงทุนเพิ่ม 20 ล้านดอลลาร์ฯ เพื่อสานต่อธุรกิจให้เติบโตต่อไปในอนาคตอีกด้วย