การเดินทางเป็นกิจกรรมที่กินเวลาในชีวิตมนุษย์อย่างเรา ๆ ได้มากที่สุดอย่างหนึ่ง เข้างาน 8 โมงเช้า (แต่ตื่นตั้งแต่ตี 5) ออกจากบ้าน 6 โมงก็ยังเข้างานสาย (โดนหักเงินอีก)(โถ อะไรจะรันทดปานนั้น) เลิกงาน 5 โมง กว่าจะถึงบ้านก็ปาไป 2 ทุ่มโน่นเลย ทำงานน่ะแค่ 8 ชั่วโมง แต่รวมเวลาเดินทางด้วยเวลาพักด้วยปาเข้าไป 14 ชั่วโมง ฉันไม่เหลือเวลาอย่างอื่นให้ชีวิตเลย ขอความเป็นธรรมด้วยจ้ะ!
สิ่งดี ๆ (เหรอ?) แบบนี้ไม่ได้มีแค่บ้านเรา แต่ที่ยุโรปมนุษย์ทำงานทั้งหลายเขาประสบปัญหานี้เหมือนกัน เมื่อเรื่องขึ้นโรงขึ้นศาล ศาลยุติธรรมยุโรปเขาเลยประกาศว่า'เวลาเดินทางไปทำงานก็ให้ถือว่าเป็นเวลางาน!'
เรื่องราวนี้เริ่มต้นจากการที่บริษัทแห่งหนึ่งในสเปนอยู่ ๆ ก็ปิดสำนักงานในภูมิภาคลง แล้วให้พนักงานต้องเดินทางข้ามน้ำข้ามทะเล (เว่อไป) ไปทำงานที่สำนักงานอื่นที่อยู่ไกลออกไป จากที่เคยเดินทางใกล้ ๆ ก็ต้องฝ่าฟันระยะทางไกลแสนไกลกว่าจะได้เริ่มทำงานในแต่ละวัน ศาลเลยตัดสินว่าเวลาการเดินทางของพนักงานก็นับเป็นเวลางานเหมือนกัน
washingtonpost.com
ยุโรปเขาใส่ใจเรื่อง'สุขภาพและความปลอดภัย'ของผู้คนมาก คนเราจึงไม่ควรทำงานเกินอาทิตย์ละ 48 ชั่วโมง การเดินทางที่หมดไปในแต่ละวันก็นับเป็นการกินเวลาส่วนตัวเพื่อนายจ้างด้วย (ไหนจะรถติดเอย รถเมล์สายแปดซิ่งไปชนรถคันหน้าเอย รถไฟฟ้าใช้การไม่ได้อีก!) สารพัดปัจจัยการเดินทางจึงยิ่งไม่ควรให้เกินมากินเวลาพักผ่อนเข้าไปใหญ่
blog.tinyeye.com
เพราะฉะนั้นหลังจากนี้ทั้งนายจ้างและลูกจ้างก็ต้องช่วยกันคำนวณ จัดสรรเวลาให้ดี เพื่อให้ประสิทธิภาพงานยังคงเดิม (ไม่แน่ เวลาจำกัดอาจทำให้พนักงานลดความอ้อยสร้อยลงไปเยอะก็ได้นะ)