.
.
.
จุดเริ่มต้น
ย้อนกลับไปในวันที่ฝนตกลงมาอย่างหนักในปี 1999 เด็กวัยรุ่นอายุ 19 ทั้ง 4 คนเปียกโชก หลังจากกลับจากการไปดูคอนเสิร์ตในงานเทศกาลดนตรี Triport Rock Festival ที่อินชอน (ซึ่งปัจจุบันนี้ไม่มีแล้ว ที่อินชอนตอนนี้จะเป็นงาน Pentaport Rock Festival แทน) ณ ห้องคอมพิวเตอร์ที่พวกเขาพากันเข้าไปหลบฝน เด็กวัยรุ่นผู้ที่กำลังได้รับพลังงานเหลือล้นจากการได้ไปชมคอนเสิร์ต พวกเขาทั้ง 4 คนจึงนึกอยากจะเปลี่ยนชื่อวง ที่เป็นวงดนตรีของพวกเขาเองจริงๆ (ก่อนหน้านี้คิมจงวาน ได้ฟอร์มวงของเขาเองที่ชื่อ ilot กับรุ่นพี่กลุ่มอื่น แต่ไม่เวิร์ค ไปกันไม่รอด สมาชิกในวงจึงถูกแทนที่ด้วย ลีแจคยอง จองแจวอน และลีจองฮุน ) การกำเนิดชื่อของวง NELL จึงเริ่มขึ้น ณ วันที่ 31 กรกฏาคม 1999 ในห้องคอมพิวเตอร์แห่งนั้นนั่นเอง
ภาพยนต์เรื่อง ' NELL' ที่มาของชื่อวง NELL นั้น มาจากภาพยนต์เรื่อง NELL ในปี 1994 ที่คิมจงวาน ได้ชมมา นำแสดงโดย Jodie Foster และ liam Neeson ว่าด้วยเรื่องราวเกี่ยวกับผู้หญิงคนหนึ่งที่ใช้ชีวิตอยู่ในป่ามานาน จนทำให้เธอไม่สามารถที่จะพูดหรือสื่อสารกับใครได้ หากแต่มีภาษาท่าทางเป็นของตัวเอง ซึ่งส่วนนี้เองที่พวกเขาคิดว่ามันให้ความรู้สึกเทียบเคียงกับดนตรีของวง ดนตรีของ NELL ที่ถูกสร้างขึ้นมาด้วยภาษาของพวกเขาเอง แม้ไม่มีคำร้อง แต่ดนตรีของพวกเขาก็สามารถสื่อถึงสิ่งที่วงอยากจะบอกออกไปได้ มันคือภาษาแบบ NELL ซึ่งคอนเทนต์และโทนของหนังก็เข้ากับโทนของวงได้อย่างพอดิบพอดี
สมาชิกวง
คิมจงวาน / Jongwan Kim
หัวหน้าวง/นักร้องนำ/กีตาร์/คีย์บอร์ด/ผู้แต่งเพลงทั้งหมดของวง/S.A.D
ลีแจคยอง / Jaekyung Lee
กีตาร์/คีย์บอร์ด/มือกีตาร์ที่สูงที่สุดในเกาหลี/สุขุมคัมภีรภาพ
ลีจองฮุน / Junghoon Lee
เบส/คอรัส/ทาสแมว/บอสแห่ง SPACE BOHEMIAN
จองแจวอน / Jaewon Jung
กลอง/คอรัส/สปอร์ตแมน/ ชายผู้แต่งงานแล้วคนเดียวในวง
(เรียงขวาไปซ้าย)
พวกเขาทั้ง 4 คนเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่สมัยเรียน ลีแจคยอง กับจองแจวอน เป็นเพื่อนกันมาก่อน ต่อมาคิมจงวาน ได้มาเจอมือกีตาร์และมือกลองของเขาทั้งสองคนตอนเกรดสาม ซึ่งตรงนี้มีเรื่องเล่าตลกๆอยู่ว่า ในครั้งแรกที่คิมจงวาน ได้มีโอกาสได้ไปดูลีแจคยอง และจองแจวอน กำลังซ้อมดนตรีอยู่ในห้องซ้อม หลังจากนั้นไม่ถึงสิบนาทีจงวานก็ เดินหนีออกไปเลย เพราะทนฟังไม่ได้ 555555555 โศกนาฏกรรมมาก ซึ่งเจ้าตัวได้อธิบายภายหลังว่า เพราะในตอนนั้นทั้งสองคนเล่นเพลงที่ไม่เข้ากับตัวเอง จนถึงท้ายที่สุดที่คิมจงวาน ตัดสินใจจะฟอร์มวงของเขาเอง เขาก็ได้ชักชวนลีแจคยอง (มือกีตาร์) เป็นคนแรก ตามด้วยจองแจวอน (มือกลอง) ภายในเวลาไม่ถึงอาทิตย์ และต่อจากนั้นราวๆ 2 เดือน จึงได้มาเจอลีจองฮุน (มือเบส)การฟอร์มวงดนตรีจึงเริ่มต้นขึ้นนับจากนั้นเป็นต้นมา
และตั้งแต่วันนั้น วันที่วงดนตรีที่ชื่อ NELL ได้ถือกำเนิดขึ้นอย่างเป็นทางการ จนถึงวันนี้ วง NELL ไม่มีการเปลี่ยนแปลงสมาชิกวงเลยแม้แต่คนเดียว แม้บางคนจะแต่งงานมีลูก (จองแจวอน มือกลอง เพียงคนเดียวในวงเท่านั้นที่แต่งงานแล้ว) ทั้ง 4 คนยังคงอยู่ทำผลงานเพลงด้วยกันมาตลอด 20 ปี โดยไม่มีการผลัดเปลี่ยนสมาชิกเข้าออกเลย และยังคงความเป็นมิตรภาพกันมายาวนานกว่านั้น ซึ่งนี่เป็นสิ่งที่ทำให้เรารักวงๆนี้มากขึ้นไปอีก แม้ว่าดนตรีจะเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เรารัก NELL แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าความเป็น unity ก็เป็นส่วนที่สำคัญ สำหรับการติดตามวงๆหนึ่งเช่นกัน
ผลงาน
NELL เริ่มต้นแบบวงอินดี้ทั่วไปในยุคนั้น นั่นคือการตระเวนเล่นดนตรีสดในคลับแถวย่านฮงแด ซึ่งเป็นย่านที่รวมวงดนตรีอินดี้มากมาย โดยเริ่มต้นจากเป็นวงที่เล่นวันพุธ (ประมาณว่าวงหน้าใหม่) จนได้ขยับมาเล่นเป็นวงเสาร์-อาทิตย์ เริ่มได้แสดงช่วงเวลา prime time จนหลังๆเริ่มได้เล่นเป็นวงปิดสุดท้ายในแต่ละวัน แม้คิมจงวาน จะพูดติดตลกว่าที่ NELL ได้เล่นเป็นวงปิดนั้นเพราะพวกเขามาสายก็ตาม 55555 บ้าบอ และจุดที่ทำให้ NELL เ ป็นวงดนตรีที่ต่างจากวงอินดี้ที่มีมากมายในยุคนั้น คือพวกเขาจะเล่นเพลงที่แต่งเองเสมอ โดยไม่แคร์ว่าคนมาดูจะรู้จักหรือไม่ (เปรี้ยวมาก) ต่างจากวงอื่นๆ ที่มักจะเล่นเพลง cover เพลงดังๆที่เป็นที่รู้จัก
NELL : 벽 (Wall)
Album : Speechless (2nd Indie Album 2001)
NELL : My Reason
Album : Speechless (2nd Indie Album 2001)
ทั้งการเล่นเพลงที่วงแต่งเองแบบไม่สนใจฟ้าดิน การเล่นแจมแบบสดๆ และเปลี่ยน setlist ตามใจชอบ ท่ามกลางวงอินดี้มากมายที่แสดงสดในย่านนั้น วง NELL กลับเป็นวงที่ได้รับเลือกจากซอแทจี ผู้ที่กำลังเฟ้นหากลุ่มวงดนตรีอินดี้เพื่อโปรโมทในค่ายใหม่ หลังจากที่มีทีมงานได้ชมการแสดงสดของวง (ซึ่งมันคงไม่ใช่เพราะความแตกต่างเพียงอย่างเดียว มันต้องเล่นสดดีมากๆแน่ๆ) NELL จึงได้รับการติดต่อให้เซ็นสัญญาเป็นศิลปินเบอร์แรกของค่าย Goesoo Indigene ที่เป็นค่ายใหม่ที่ซอแทจี ก่อตั้งขึ้น
(ซอแทจี เป็นทั้งศิลปิน/นักแต่งเพลง/ไอค่อน เป็นบุคคลผู้มีอิทธิพลมากต่ออุตสาหกรรมเพลงของประเทศเกาหลีใต้ เป็นผู้บุกเบิกแนวเพลงให้ประเทศเกาหลีใต้หลายๆอย่าง ถึงกับได้การขนานนามว่า เป็นผู้นำแห่งวัฒนธรรม เรียกได้ว่าวงการ Kpop ที่มีอยู่ทุกวันนี้ ก็มีเขานี่แหละที่เป็นผู้เบิกทาง)
NELL : 낙엽의 비 (The rain of falling leaves)
Album : Let it Rain (2003)
และได้ออกอัลบั้มภายใต้สังกัด Goesoo Indigene ไว้ 2 ชุด นั่นก็คืออัลบั้ม Let it Rain ในปี 2003 พร้อมการกำเนิดของคอนเสิร์ต Christmas in NELL's Room I ในปีนั้น และอัลบั้ม Walk Through Me ปี 2004 จึงนับว่าอัลบั้ม Let it Rain นั้นเป็นสตูดิโออัลบั้มเต็มชุดแรกอย่างเป็นทางการ NELL ได้คัดเพียง 11 เพลงจาก 100 เพลงที่ได้แต่งไว้ ซึ่งรวมถึงการเรียบเรียงเพลงในอินดี้อัลบั้มชุดก่อนเข้ามารวมไว้ด้วย ได้แก่เพลง 어차피 그런, 믿어선안될말 (Words You Shouldn't Believe), 낙엽의 비 (Rain of Leaves), Eden และใช้เพลง Stay เป็นเพลงโปรโมท จนกลายเป็นเพลงฮิตของวงจนถึงทุกวันนี้
NELL : Stay
Album : Let it Rain (2003)
Concert : NELL'S SEASON 2019 'QUIET yet LOUD'
NELL : 인어의 별 (Mermaid's Star)
Album : Let it Rain (2003)
Concert : Grand Mint Festival 2012
Album : Let it Rain (2003)VIDEO
และอัลบั้ม Walk Through Me กับเพลงที่มีเมโลดี้ติดหูสุดๆ ซึ่งส่วนตัวเราคิดว่าถ้าไม่นับรวมพวกอัลบั้ม acoustic อัลบั้มนี้ จะฟังง่ายสุด เพลงเพราะและสมูทเป็นเนื้อเดียวกันมาก จากวงดนตรีอินดี้ใต้ดินที่มีกลุ่มคนฟังเฉพาะ NELL ก็เริ่มกลายเป็นวงที่เป็นที่รู้จักในวงกว้าง เป็นวงร็อคที่ผุดขึ้นมาท่ามกลางเพลงบัลลาดและวงบอยแบนด์ในสมัยนั้น
(แต่หากจะนับเพลงเดบิวต์จริงๆ น่าจะเป็น 믿어선안될말 (Words You Shouldn't Believe) เพราะเป็นเพลงแรกที่เป็น title ของ Reflection of แต่ถ้านับอันดับของอัลบั้ม วงดนตรีส่วนใหญ่จะไม่นับอัลบั้มอินดี้ ก็เลยนับว่าอัลบั้ม Let it Rain เป็นชุดแรก)
พอวงหมดสัญญาจากค่ายเดิม NELL ก็ได้ย้ายไปอยู่ค่ายเพลงใหม่ นั่นก็คือ Woollim Entertainment โดยการชักชวนของ ทาโบล สมาชิกวง Epik High เพื่อนสนิทของคิมจงวาน นั่นเอง และได้ออกอัลบั้มภายใต้สังกัด Woollim Entertainment เรื่อยมา ตั้งแต่สตูดิโออัลบั้มเต็มชุดที่ 3 อันลือลั่น Healing Process ปี 2006 จนถึงชุดที่ 6 กับอัลบั้ม Newton's Apple ในปี 2014 มีทั้งอีพีอัลบั้ม และอัลบั้มพิเศษต่างๆ รวมถึงคอนเสิร์ต Christmas in NELL's Room ที่ยังคงจัดอย่างต่อเนื่องเรื่อยมา ตลอด 10 กว่าปีที่วงสะสมความนิยมเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ยึดมั่นในแนวทางของตัวเอง มีผลงานเพลงดีๆ และมีเพลงที่โด่งดังมากมาย จนทำให้ทุกวันนี้ NELL กลายเป็นวงดนตรีแถวหน้าของเกาหลีอย่างปฏิเสธไม่ได้
วง NELL จะปล่อยงานเพลงเป็นอัลบั้มเสมอ ซึ่งส่วนใหญ่จะออกวางปีเว้นปี พวกเขาจะผลิตผลงานเพลงที่อยากทำ โดยไม่ได้คำนึงนักว่าจะเป็นเพลงแนวไหน แต่ต้องเป็นเพลงที่เข้ากันกับภาพรวมและธีมของอัลบั้มนั้นๆ การเรียงจัดลำดับในแต่ละเพลงจะต้องฟังแล้วลื่นไหล เพื่อให้คนฟังเกิดความรู้สึกคล้อยตามไปอย่างที่วงต้องการ ความเป็นเอกภาพจึงเป็นสิ่งที่สำคัญเสมอสำหรับอัลบั้มเต็มของวง NELL พวกเขาสามารถที่จะอัดเป็นร้อยๆเพลงและคัดออกจนเหลือ 12-13 เพลงได้ หากเพลงเหล่านั้นไม่เข้ากันหรือมีโทนที่ล้นเกินออกมา
แต่เมื่อเวลาผ่านไป วงเริ่มรู้สึกสบายใจกับการคัดเพลงเพื่อปล่อยเป็นซิงเกิ้ล แทนที่จะยึดการโปรโมทงานเป็นอัลบั้มเพียงอย่างเดียว ผลผลิตของมันจึงออกมาในรูปแบบของอัลบั้มไตรภาคชุด Gravity (H olding Onto Gravity/ Escaping Gravity/ Newton's Apple) มีความยืดหยุ่นในการเปลี่ยนวิธีการปล่อยเพลงเป็นซิงเกิ้ลต่างๆ บ้างตามโอกาส ตั้งแต่เพลง 청춘연가 (Green Nocturne), Star Shell และอื่นๆเรื่อยมา (ไม่งั้นก็คงต้องแห้งตาย รออัลบั้มเต็มกันอย่างเดียว)
NELL : Star Shell
3rd Single (2015)
NELL อยู่กับ Woollim Entertainment ร่วม 10 ปี ซึ่งการที่วงอยู่กับค่ายมาได้นานขนาดนี้ ส่วนหนึ่งเราคิดว่าค่ายให้อิสระกับวงมากๆ และทรีทวงนี้ดีพอสมควร ถ้าเป็นเรื่องดนตรีกับ NELL แล้ว อูลลิมไม่มีอิดออด (หรือจำยอมก็ไม่รู้ ฮ่าาาาา) อยากได้อะไรได้ อยากทำอะไรทำ อยากไปอัดเพลงต่างประเทศหรอ ก็ไปสิ ดีที่วงนี้ค่อนข้างขยัน แม้จะทำอัลบั้มนาน แต่ก็ทำผลงานเพลงออกมาตลอดๆ และเวลาออกอัลบั้มจะไม่แคร์ชาวบ้านด้วย จะไม่สนใจเลยว่าจะออกเพลงพร้อมกันกับวงอื่นในค่ายหรือไม่
เคยมีเหตุการณ์เอ็กซ์ตรีมช่วงปี 2014 ที่จู่ๆ คิมจงวาน ได้ทวิตข้อความผ่านทางทวิตเตอร์ส่วนตัวของเขาว่า "ฉันอยากจะขึ้นแสดง" หลังจากนั้นผ่านไปหนึ่งสัปดาห์ NELL ก็ประกาศคอนเสิร์ตแบบสายฟ้าแล่บ ในทวิตเตอร์ส่วนตัวของคิมจงวาน อีกเช่นเคย เป็นการทวิตรูปถ่ายจากหน้ากระดาษที่มีลายมือของเขาเอง เขียนประกาศวันเวลาและสถานที่ที่ขึ้นแสดง ซึ่งเล่นถัดจากวันที่โพสประกาศไปเพียงแค่ 3 วันเท่านั้น คือมันเกิดขึ้นเร็วมาก จนได้รับรีแอคชั่นอันเกรียวกราวจากแฟนเพลง ทั้งเสียงตื่นเต้นดีใจ และเสียงบ่น 5555555 อินดี้แบบสุด (ส่วนรายละเอียดการขายบัตรให้ไปตามที่ช่องทางออฟฟิเชียลของค่ายเอาเอง มาทิ้งระเบิดแค่นี้ แล้วก็ไป จบ โปสเตอร์คอนเสิร์ตก็เป็นลายมือเขียนเองเลย มินิมอลมาก 5555 ชอบ) โดยมีชื่อคอนเสิร์ตในภายหลังว่า NELL Secret Stage แสดงเพียงรอบเดียว ขายบัตรหน้างานของวันที่แสดงเลย ซึ่งก็ sold out ในเวลาอันรวดเร็ว ถือเป็นอีเวนท์คอนเสิร์ตหนึ่งของวงที่ Exclusive มากๆ มีจองแจวอนแบนด์ มีการเล่น cover และเล่นเพลงของวงในเวอร์ชั่นพิเศษ รวมถึงได้ SimZ วง PIA มาช่วยเสริม และได้ฮาดงคยุน เพื่อนสนิทร่วมแก๊งค์ TAJONGKYUN (Ta blo/Jong wan/Dongkyun ) มาเป็นแขกรับเชิญในคอนเสิร์ตนี้อีกด้วย ซึ่งถือว่าพิเศษมากๆ เพราะคอนเสิร์ต NELL โดยปกติจะไม่เคยเชิญใครมาเป็นแขกรับเชิญพิเศษ (เท่าที่เรามีข้อมูลในหัวอยู่ตอนนี้นะ ไม่นับคนที่มาช่วยเล่นเสิรมให้)
ส่วนผลงานอื่นๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับงานเพลงนัั้น แทบจะไม่มีเลย น้อยมาก ถึงพักหลังๆมานี้จะปรากฏตัวในรายการโทรทัศน์อยู่บ้าง แต่ก็จะเกี่ยวกับงานเพลงเป็นสำคัญอยู่ดี ซึ่งบางคนอาจจะคิดว่าอูลลิมโปรโมทให้ NELL น้อย แต่โดยส่วนตัวเราคิดว่า อย่าได้เอาการโปรโมทของวงดนตรีแบบนี้ไปเทียบเคียงกับการโปรโมทของศิลปินกรุ๊ปอื่นๆ เพราะมันคนละรูปแบบ คนละกลุ่มเป้าหมาย ทางวงยังเคยพูดเองเลยว่าแฟนเพลงของพวกเขาคงไม่ดูทีวีกันหรอก และก็มีช่องทางอื่นๆอีกมากมายที่คนจะสามารถฟังเพลงของพวกเขาได้ จะมีช่วงหลังๆ ปี 2013-2014 ที่ออกรายการเพลงพวกมิวสิคแบงค์ อินกิกาโยนิดๆหน่อยๆ พอเป็นพิธี ซึ่งตรงนี้เราว่าเป็นการประนีประนอมให้กับทางค่ายแล้ว 5555 แต่เอาจริงๆ จากใจเลย คือไม่แนะนำให้ดูเท่าไร มันไม่ได้เลย ให้ไปดูคลิป live จริงๆ ที่เป็นคอนเสิร์ตของวงดีกว่า ในมุมมองของอินเตอร์แฟนอย่างเราๆ อาจจะมองว่ามันช่างลับแลและติดตามยากเหลือเกิน แต่เรากลับประทับใจที่วงเป็นแบบนี้นะ คือคุณแน่วแน่ในหนทางของตัวเองมาก โฟกัสเรื่องดนตรีเป็นหลัก และไม่เคยรับงานขายวิญญาณเลย ไม่เคยเลยสักครั้ง มันต้องเป็นของจริงมากๆ ถึงจะยืนอายุวงและคงความนิยมได้นานขนาดนี้
เมื่อหมดสัญญากับทาง Woollim Entertainment ในปี 2016 พวกเขาทั้งสี่คนจึงตัดสินใจไม่ต่อสัญญา โดยถือเป็นการจากกันด้วยดีทั้งสองฝ่าย (ไม่เหมือนกับในกรณีที่อูลลิมทำกับทาโบล กรณีดราม่ามหากาพย์นั่น แต่ตอนนี้คิดว่าความสัมพันธ์น่าจะดีขึ้นกว่าช่วงก่อนเพราะมีจงวาน ช่วยเป็นกาวใจ) ซึ่งวงคงรู้สึกอิ่มตัวกับที่เดิมพอสมควร ถึงจุดหนึ่งที่พวกเขาต้องการความเปลี่ยนแปลงและสิ่งท้าทายใหม่ๆ ทั้งสี่คนจึงร่วมกันก่อตั้งค่ายเพลงเป็นของตัวเองชื่อว่า Space Bohemian โดยมีลีจองฮุน เป็นประธานบริษัท ทำสตูดิโอของตัวเองเพื่อที่จะสามารถสิงอยู่ในนั้นทั้งวันทั้งคืนได้
และได้ออกอัลบั้มเต็มที่เลื่อนแล้วเลื่อนอีก จนกว่าจะเป็นที่พอใจถึงปล่อยออกมา ชื่อว่า C เป็นอัลบั้มเต็มชุดที่ 7 ของ NELL ออกมาเมื่อปี 2016 ซึ่งใช้เวลาในการแต่งและเรียบเรียงนานถึง 2 ปีและอัดเสียงนานถึง 8 เดือน ถือเป็นอัลบั้มเต็มชุดแรกที่ปล่อยออกมาในนามของค่าย Space Bohemian ตามมาด้วยซิงเกิ้ลและอีพีอัลบั้มอะคูสติก ชุดล่าสุด 행복했으면 좋겠어 (I wish you happiness) ซึ่งออกวางเมื่อปี 2018
NELL :
헤어지기로 해 (Let's Part) Album (EP) : 행복했으면 좋겠어 (I wish you happiness) (Acoustic Arranged Album 2018)
ตลอด 20 ปีที่วง NELL ยังคงโลดแล่นอยู่ในวงการเพลง และเป็นวงดนตรีที่ผลิตผลงานเพลงออกมาอย่างสม่ำเสมอ ทั้งงานดนตรีของวง รวมถึงการเป็นโปรดิวเซอร์และร่วมแต่งเพลงให้กับศิลปินคนอื่นๆ และยังคง active กิจกรรมของวงเรื่อยมาตลอดระยะเวลา 20 ปี ถึงแม้บางช่วงอาจจะดูหายเงียบไปบ้าง เพราะพวกเขากำลังกินนอนในสตูดิโอ ทำเพลงโดยไม่เห็นเดือนเห็นตะวันกันอยู่ แต่กิจกรรมหลักๆเลยก็คือ ช่วงกลางปีจะจัดคอนเสิร์ต NELL's Seson สัก 1-2 อีเว้นท์ ต่อด้วยทัวร์งานเทศกาลดนตรีต่างๆ รับมากรับน้อยแล้วแต่ปี และพักหลังๆ มานี้ก็จะหาเวลาไปจัดคอนเสิร์ตที่ญี่ปุ่นตลอด จากนั้นช่วงปลายของเดือนตุลาคมก็จะกลับมาเตรียมงานคอนเสิร์ตประจำปีของวงนั่นก็คือคอนเสิร์ต Christmas in NELL's room ที่จะจัดขึ้นเป็นอีเว้นท์สุดท้าย ปิดตารางงานในปีนั้นๆเสมอ เป็นเช่นนี้ วนลูปไปตลอดๆ
จากกลุ่มเด็กวัยรุ่นที่รักและหลงใหลในเสียงเพลง รวมทั้งมิตรภาพที่ล่อหลอมให้พวกเขาทั้งสี่คนร่วมกันก่อตั้งวงดนตรีที่ชื่อว่า NELL และเดินร่วมเส้นทางกันมาตลอด 20 ปี จากการเล่นดนตรีเพื่อความสนุกในวัยเยาว์ ครั้งที่ยังคงเป็นวงดนตรีอินดี้ที่ไม่ค่อยเป็นที่รู้จัก จนสะสมผลงานเพลงดีๆที่เป็นที่จดจำมากมาย และเติบโตจนกลายเป็นดวงดนตรีที่มีชื่อเสียงจนถึงทุกวันนี้ วง NELL ยังคงเป็นวงที่มีทัศนคติที่แน่วแน่ มั่นคงต่องานดนตรีไม่เปลี่ยนแปลง ยังคงมี passion อันล้นเหลือกับดนตรีอย่างน่าทึ่ง และยังไม่หยุดที่จะสร้างสรรค์ผลงานเพลงใหม่ๆ
blog.naver.com
และกับอัลบั้มใหม่ที่กำลังจะเกิดขึ้น ซึ่งจะเกิดขึ้นเมื่อไรไม่รู้ เริ่มแรกทางวงเปรยไว้ว่าจะปล่อยช่วงเดือนมีนาคม 2019 และก็อีกเช่นเคย ประกาศเลื่อนมาเรื่อยๆ จนล่าสุดมีการประกาศว่าจะออกช่วงครึ่งปีหลัง ซึ่งนี่ก็สิ้นเดือนกรกฎาคมเข้าไปแล้ว ก็ยังบอกว่ากำลังปั่นอย่างบ้าคลั่งอยู่เลย ฮ่าาาาาา (เอาจริงๆ ไม่เคยเชื่อเลย จนกว่าจะได้เห็นทีเซอร์ เพราะวงนี้ลีลาเป็นอาชีพอยู่แล้ว 5555555 /หัวเราะเสียสติ รอออออเว้ยยยย รอออออยู่)
แนวดนตรี
หากใครที่ได้ฟังอัลบั้มในชุดแรกๆ โดยเฉพาะอัลบั้มอินดี้ (Reflection of /Speechless ) จะพบว่ามีความเป็น Britpop อย่างเข้มข้น เพลงเร็วจะดีดและเฟี้ยวมาก ซาวด์จะฟุ้งๆหม่นๆหนึบๆ ฟังแล้วก็จะนึกถึงวงดนตรีอย่าง Radiohead กับซาวด์แบบวง Alternative Rock ฝั่งอังกฤษ เต็มไปด้วยความดาร์กและมืดหม่น ที่ทางวงพูดติดตลกเสมอว่าเพราะคุณภาพในการอัดเสียงสมัยนั้นแย่มาก (กัดตัวเองก็ยังได้ ฮ่าาา)
NELL : 두번째
Album : Reflection of (1st Indie Album 2001)
Concert : 'WE ARE' Club Concert 2017
ในอัลบั้มต่อๆมา NELL เริ่มมีการผสมผสานและทดลองซาวด์ดนตรีใหม่ๆ ทั้งการเพิ่มเข้ามาของเครื่องสายและเสียงอิเล็กทรอนิกส์ แต่วงก็ยังคงไม่ละจากการเป็นวงดนตรีสี่ชิ้น ซึ่งแนวดนตรีของ NELL หากจะอธิบายให้เข้าใจง่ายๆ แล้ว แน่นอนว่า NELL คือ Rock Band ก็คือวงดนตรีร็อกที่ทำเพลงเบสออนร็อก Alternative Rock, Psychedelic Rock, Progressive Rock, Modern Rock, Ballad Rock บลา บลา บลา อาจมีความเป็นป็อบเข้ามาผสม แต่ท้ายที่สุดแล้วสิ่งเหล่านี้ก็จะรวมกันเป็นแนวดนตรีแบบของ NELL
การระบุแนวเพลงก็อาจจะทำให้คนที่ไม่เคยฟังเพลงของวงนี้มาก่อน พอเข้าใจภาพรวมได้มากขึ้น แต่โดยส่วนตัวแล้ว ถ้าไม่จำเป็น เราจะไม่พยายามให้คำจำกัดความเพลงของ NELL ว่าเป็นเพลงแนวไหน เพราะมันนามธรรมมากๆ แต่ดนตรีของ NELL จะให้ความรู้สึกเด่นชัดเสมอ มันสามารถสร้างมวลอันเข้มข้นของบรรยากาศบางอย่าง ที่อาจพาให้เราพบกับความสุข อิ่มเอิบ เคลิ้มฝันเหมือนอยู่ในสรวงสวรรค์ และในขณะเดียวกันกลับว่างเปล่า เศร้าหมอง เจ็บปวดราวกับตกลงมาจากฟ้า เป็นส่วนผสมของความหวานหยดและความขมปร่า การมองโลกเทาๆ แต่กลับให้สัมผัสความหมายที่งดงามในความเศร้า และทำปฏิกิริยาชั้นยอดในการกระตุ้นความรู้สึกอ่อนไหวที่ซ่อนอยู่
น้ำเสียงของคิมจงวาน ก็ทำหน้าที่เหมือนเครื่องดนตรีชนิดหนึ่ง ที่เข้ากับซาวด์ดนตรีของวงได้อย่างมหัศจรรย์ และปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเสียงนักร้องนำของวงดนตรี จะเป็นสิ่งแรกๆที่ทำให้คนฟังเข้าถึงวงๆนั้นได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งเสียงร้องของคิมจงวาน ก็เป็นส่วนประกอบสำคัญที่ทำให้เพลงของ NELL โดดเด่น นอกจากเนื้อเสียงจะเพราะมากๆแล้ว เขายังคงเป็นหนึ่งในนักร้องอันดับต้นๆของเกาหลีที่มีเสียงอันคงความเป็นเอกลักษณ์และจดจำได้ง่าย และเหมือนเปิดปิดโหมดเสียงได้ตลอดเวลา ทั้งโหมดเกรี้ยวกราด หนักแน่น กระแทกกระทั้นในเพลงเร็ว (เลิฟมาก อยากให้กลับมาว๊ากอีก) โหมดอบอุ่นโรแมนติก เคลิบเคลิ้มในเพลงรัก (ที่ฟังแล้วโคตรเขิน) โหมดร้าวราน พังทลายในเพลงเศร้า (ฟังแล้วหงอยไปสามเดือน) ทั้งหมดล้วนไหลลื่นซึมเข้าไปในใจทุกๆคำร้อง
NELL : 백색왜성 (White Dwarf Star)
Album (EP) : Let's take a walk (Acoustic Arranged Album 2007)
Concert : Greenpluged Festival Gyeongju 2017
คิมจงวาน จะเป็นคนที่มีเรนจ์เสียงกว้างมาก เขาสามารถร้องเสียงที่ต่ำมากๆ อย่างท่อนต้นๆในเพลง 백색왜성 (White Dwarf Star เวอร์ชั่นอะคูสติกในอัลบั้ม Let's take a walk) ไปจนถึงคีย์แหลมสูงสุด อย่างในเพลง 12 Seconds ซึ่งเทคนิคการร้องเสียงหลบสูง (falsetto) ถือเป็นเอกลักษณ์หนึ่งของเขา ซึ่งหากใครที่ฟังเพลงของ NELL ตั้งแต่อัลบั้มแรกๆจนถึงตอนนี้ จะพบว่าเสียงร้องของคิมจงวาน เปลี่ยนไปประมาณนึง เนื้อเสียงหนาขึ้นกว่าแต่ก่อน จะมีความเป็นทรายๆ เย็นๆ ซึ่งอาจจะเป็นการใช้ช่องเสียงใหม่ๆของตัวเอง แต่ก็ยังคงโทนเดิม แถมเราว่าความเป็นเอกลักษณ์ยิ่งชัดเจนเข้าไปอีก และตั้งแต่ดูคลิปแสดงสดมาเป็นพันๆ live ไม่เคยมีครั้งไหนที่ท่านเขาจะร้องพลาดหรือเสียงไม่ถึงคีย์เลย แม้จะเป็นคนที่ไม่ร้องโชว์เทคนิคหวือหวาบ่อยๆ แต่รู้เลยว่าเป็นคนที่ร้องเพลงเก่งมากๆ
ในขณะที่สื่ออื่นๆและสังคม มักจะให้นิยามแนวเพลงของ NELL ว่าเป็น Modern Rock หลังๆมานี้เริ่มมีคำว่าซาวด์แบบไฮบริท หรืออะไรก็แล้วแต่ แต่ส่วนตัวเราว่าเปล่าประโยชน์หากจะหาคำจำกัดความของแนวดนตรีไปครอบเพลงของพวกเขาไว้ เพราะสิ่งที่สำคัญคือการยึดมั่นในการทำเพลงแบบที่พวกเขาชอบและอยากทำ โดยไม่ได้แคร์ว่ามันจะเป็นเพลงแนวไหน สะสมประสบการณ์ ทั้งความรู้ อารมณ์ความรู้สึกและเทส ที่เติบโตไปพร้อมกับสมาชิก จนกลายเป็นเพลงที่ขับสีสันเฉพาะตัวของวงออกมาอย่างเป็นธรรมชาติ เป็นซาวด์ดนตรีที่มีความพิเศษ โดดเด่น และมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว อันเกิดจากดนตรีที่มีเพียงพวกเขาทั้งสี่คนเท่านั้น ที่จะสามารถสร้างสรรค์มันขึ้นมาได้ ซึ่งไม่ว่าวงจะหันไปหยิบจับแนวเพลง genre ไหน พวกเขาก็สามารถนำเสนอออกมาในรูปแบบของตัวเอง ออกมาเป็นสีสันเฉพาะตัวของวงได้เสมอ
เพราะฉะนั้นเพลง NELL ก็คือเพลงแนวของ NELL ที่ฟังทีไรก็จะรู้ได้ทันทีเลยว่าเป็นเพลง NELL แม้กระทั่งเพลงที่ทำให้คนอื่นร้องก็ตาม สไตล์ของวงจะออกมาชัดเจนมาก กลิ่นมันจะมา ภาพมันจะชัดเสมอ ส่วนตัวเพลงที่ทำให้คนอื่นแต่โคตร NELL สุดๆในความรู้สึกเรา ถ้าเป็นเพลงช้าเราให้เพลง Implode ของโบอา ส่วนเพลงมีจังหวะหน่อย คือ Time lapse ของแทยอน (SNSD) กับเพลง Shine โซโล่ของ
ซองกยู (Infinite)
NELL : 한별 implode (Cover Acoustic ver.)
Album : (BoA) Hurricane Venus
Concert : NELL'SEASON 'Beautiful Day' 2015
แม้ว่าจะมีเสียงค่อนขอดจากแฟนเพลงเดนตายในอัลบั้มแรกๆ ว่าเพลงของ NELL ก้าวเข้าสู่ความเป็นเมนสตรีมมากขึ้น เมื่อวงเป็นที่นิยม ซึ่ง NELL นั้นเลยจุดของคำว่าวงอินดี้มาแล้วก็จริง แต่ก็แมสไม่พออยู่ดี เพราะท่ามกลางแนวดนตรีเคป็อบและฮิปฮอปที่ครองความเป็นแนวดนตรีกระแสหลักในตลาดเพลงของเกาหลีมาตลอด ทั้งแต่ก่อนจนถึงปัจจุบัน วงดนตรีลักษณะ band นั้นไม่เคยกลายเป็นสิ่งแมสเลย และยิ่งกับวงร็อกด้วยแล้ว ดนตรีแนวนี้ยังคงเป็นแนวดนตรีกระแสรองที่มีคนฟังเฉพาะกลุ่มเท่านั้น
แถมวงก็ไม่ได้ทำเพลงโทนอินดี้เฮ้าส์จ๋าๆ เหมือนกับเพลงกระแสรองที่กำลังมาแรงในตลาดเพลงเกาหลีตอนนี้ เช่น hyukoh, ADOY, Jannbi, Bye Bye Badman, Se So Neon (อันนี้ไม่ได้จะเปรียบเทียบวงนะคะ แค่ยกตัวอย่างมาให้เห็นภาพ) NELL เลยเป็นวงที่ใต่เส้นตรงนี้อยู่ ระหว่างความเป็นเมนสตรีมกับความอินดี้ ตรงนี้แหละที่เรามองว่าทำให้วงไม่ได้มาแสดงสดที่ไทยสักที เพราะมันอินดี้ไม่พอแล้วมันก็ไม่แมสด้วย / ว๊อยยยย ทึ้งผมตัวเอง ซึ่งคิมจงวาน เคยสารภาพออกมาว่าเขายังอยากได้ความป๊อบปูล่าในฝั่งเมนสตรีม พร้อมกับอยากทำเพลงเหมือนในยุคอินดี้ซีน 55555 (วงพี่ไม่อินดี้ แต่นิสัยพี่นี่อินดี้เกินเบอร์มาก)
และตอนนีี้ก็ยังมีเพลงอีกหลายแบบที่วงอยากจะทำ สำหรับเราแล้ว ยังไงก็ได้ แล้วแต่เลย ทำแบบไหนมาก็จะฟังหมด อวยหมด ถึงวงจะทำ EDM ซึ่งเราเกลียด EDM แต่ก็เชื่อว่ามันคงจะออกมาเป็น EDM ที่ดีแน่ๆ และสำหรับอัลบั้มใหม่ที่กำลังจะออกในปีนี้ (มั้งงงงงง) ขอชูเกสยาวๆสักเพลงนะ และกรุณาตั้งชื่อเพลงเป็นภาษาอังกฤษให้หมดด้วยนะคะ /ไหว้ย่อ ;)
เนื้อเพลง
NELL : 기억을 걷는 시간 (Time Spent Walking Through Memories)
Album : Separation Anxiety (2008)
Concert : PARK CONCERT 2019
ดนตรีของ NELL ทำให้คนฟังเหมือนถูกดูดเข้าไปอีกโลกหนึ่ง เมื่อมันได้แทรกซึมเข้าไปในความรู้สึกในขั้นต้น เนื้อเพลงของ NELL คือส่วนผสมขั้นตอนถัดไปในการเกาะกินเข้าไปในใจอย่างลึกซึ้ง โดยเพลงของ NELL ทุกเพลงนั้น ได้รับการแต่งโดย คิมจงวาน ทั้งหมด ซึ่งเรื่องราวโดยส่วนใหญ่นั้นเริ่มจากตัวเขาเอง จากการจดบันทึกสิ่งที่ประสบพบเจอ เนื้อหาของเพลงจึงมีความเป็นส่วนตัวอยู่มาก การนำเสนอมุมมองหรือความรู้สึกที่เขามีต่อสิ่งต่างๆ ความสัมพันธ์ ผู้คน ความรัก ความสุข และความเศร้า
"ความเจ็บปวดทำให้เกิดความทุกข์ ความว่างเปล่าทำให้เกิดความเศร้า" Jongwan Kim (2016) ความเศร้ากับความทุกข์ไม่เหมือนกัน เราอาจจะหลุดพ้นจากความทุกข์ได้เมื่อเวลาผ่านไป ไม่วันใดก็วันหนึ่ง แต่ความเศร้านั้นไม่ใช่ ความเศร้านั้นรักษาไม่หาย มันจะยังคงก่อตัวอยู่ในเรา อยู่ในส่วนที่ลึกที่สุด แม้ว่าเราจะลืมมันไปชั่วขณะก็ตาม เพราะฉะนั้นเวลาที่เราเจอช่วงเวลาที่ยากลำบาก เราอาจจะพูดได้ว่าสักวันมันจะผ่านไป แต่เราไม่สามารถพูดแบบนั้นกับความเศร้าได้
สิ่งเหล่านี้แทนความหมายในเนื้อเพลงเศร้าของ NELL แทบจะทุกเพลง เพราะความเศร้านั้นรักษาไม่หาย มันจึงวนเวียนและตามติดเราไปทุกที่ การเข้าใจและยอมรับ จะทำให้เราสามารถรับมือและอยู่กับมันได้ เพลงเศร้าของ NELL จึงสามารถเยียวยา ปลอบประโลมคนฟัง เพราะความเข้าใจในความเศร้า และความปล่าวดายอย่างลึกซึ้ง ไม่ฉาบฉวย
เหมือนรอยเปื้อนที่ไม่อาจลบได้
เหมือนผิวหนังที่ไม่อาจหลุดลอกออกไป
ไม่ว่าอย่างไร ไม่ว่าจะในรูปแบบไหน
คุณ เข้ามาและพูดกับฉันอีกครั้ง
คุณ อาจเหมือนพระอาทิตย์ยามบ่ายที่สดใส
ทันใดนั้นกลับกลายเป็นห่าฝนในฤดูมรสุม
ไม่ว่าอย่างไร ไม่ว่าจะในรูปร่างไหน
คุณ กลับมาและทักทายฉันอีกครั้ง
Hi, It's me
คุณ ในเพลงนี้หมายถึง "ความเศร้า"
NELL : 이명 (tinnitus)
Album : C (2016)
Concert : Christmas in NELL's room 2017
ซึ่งต่อไปนี้เราจะมาทำความรู้จักกับตัวอย่างเนื้อเพลงของ NELL แบบกระชับ ไม่เรียงทามไลน์ เป็นการรีวิวเนื้อเพลงที่เราชอบแบบสั้นๆ อย่างรวดเร็ว ส่วนใหญ่ก็จะเป็นเพลงที่เคยเขียนไปแล้วในตอนก่อนหน้า เพราะมันเต็มไปด้วยแง่มุมที่น่าค้นหา ซึ่งเนื้อเพลงของ NELL นั้นเป็นส่วนที่แข็งแรงและโดดเด่นเสมอ แม้กระทั่งในช่วงอัลบั้มแรกๆ ที่จะพบความแข็งกระด้างในภาษาของเพลงของวัยรุ่นขี้โมโห คำร้องที่มีความ Self และแดกดัน ซึ่งผสมผสานกันได้ดีกับดนตรีและช่วงวัย แต่ในพาร์ทของเพลงเศร้า เนื้อเพลงของ NELL นั้นเฉามาตั้งแต่เริ่มแรกอยู่แล้ว จนถึงตอนนี้ที่ความเข้าใจและมุมมองต่อสิ่งรอบตัวได้เติบโตเข้าสู่วัยผู้ใหญ่ เนื้อเพลงจึงมีความเข้าใจชีวิตมากขึ้น ปลงๆ มองโลกกลางๆ ไม่ขาวไม่ดำ คมคาย มีเสน่ห์และสวยงามราวบทกวี
หัวในอันว่างเปล่าของฉัน
จมดิ่ง
หนักอึ้งเหมือนนุ่นที่ชุ่มน้ำ
ฉันต้องการคำปลอบโยน
แต่อย่าห่วงไปเลย
เดี๋ยวมันก็จะผ่านไป
ใช่แล้ว
오늘은 (Today) : NELL x GROOVY ROOM 7th Single (2017)
NELL x GROOVY ROOM : 오늘은 ( Today)
7th Single (2017)
The love we make
The tears we cry
Sometimes they're just not real
The heart we break
The wounds we make
Sometimes they just don't heal
Tokyo : NELL Album Separation Anxiety (2008)
เพลงเศร้าที่ทำให้น้ำตาไหลตั้งแต่ประโยคแรก เพลงที่มีคำร้องเฉาๆ จมๆ และอธิบายถึงความเหงาได้อย่างหนาวเหน็บ
แม้จะเป็นเพียงประกายเล็กๆ
ที่ส่องสว่างในความมืด
แค่นั้นก็เพียงพอสำหรับฉัน
แม้จะเป็นเพียงเสียงร้องไห้เบาๆ
ที่ทำลายความเงียบ สำหรับฉันก็เพียงพอแล้ว 숨 (Breath) : NELL The Good Wife OST Part 1 (2016)
ถ้าฉันปิดหู ความเงียบจะเกิดขึ้นไหม?
ถ้าฉันปิดตา ฉันจะไม่สามารถมองเห็นใช่หรือเปล่า?
ฉันจึงเชื่อว่าหากเราปิดกั้นหัวใจตัวเอง
เราจะไม่มีวันเจ็บปวดอีกต่อไป
_ (Underbar): NELL Album Separation Anxiety (2008)
รอยยิ้มและน้ำตามากมายที่เราเสียไป
จะกลายเป็นบทความที่ชื่อว่า "ความทรงจำ"
ที่ถูกทิ้งไว้สักแห่ง
บนชั้นหนังสือของความทรงจำ
เมื่อเวลาผ่านไป
มีเพียงฝุ่นเท่านั้นที่ปกคลุม
NELL : One Time Bestseller
Album : Let's Take A Walk (Acoustic Arranged Album 2007)
Concert : NELL's Season 2019 'QUIET yet LOUD'
ทั้งการจากลา ความโดดเดี่ยว รวมถึงเนื้อร้องที่กล้าพูดในสิ่งที่เราต่างรู้อยู่แก่ใจแต่ไม่เคยยอมรับ เนื้อเพลงแทงใจดำอันร้ายกาจ แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่ามันคือเรื่องจริงทั้งนั้น
ในท้ายที่สุดพวกเราทั้งหมดล้วนอ่อนแอ
ผู้ที่ต้องดิ้นรนอย่างไม่จบไม่สิ้นเพื่อไม่ให้โดดเดี่ยว
ในท้ายที่สุดพวกเราทั้งหมดล้วนขี้ขลาด
ผู้ที่ต้องหลอกลวงกันและกันไม่จบไม่สิ้นเพื่อไม่ให้ถูกทิ้งไว้ลำพัง
Meaningless : NELL Album Healing Process (2006)
เปล่าประโยชน์ที่จะต่อสู้กับตัวเอง
ความอ้างว้างของฉันลอยออกไปโดยไร้จุดหมาย
เดินผ่านม่านหมอก
ทุกๆอย่างคลุมเคลือ
มีเพียงความสั่นคลอน
พอกันที ฉันยอมแพ้แล้ว
ตอนนี้ฉันขอพอ
ฉันแค่มีชีวิตเพียงคุกเข่าต่อหน้าความเป็นจริงเท่านั้น
ถึงยังไง ความพ่ายแพ้ของฉันก็ถูกวางไว้แต่แรก
เท่านี้ก็เพียงพอแล้ว
และจะจากไป
นี่เป็นทางเดียวที่จะจบลง
Movie : NELL Album Healing Process (2006)
NELL : Movie
Album : Healing Process (2006)
Concert : Christmas in NELL'S room 2018
เนื้อเพลงในรูปแบบของบทสนทนา การแสดงความรู้สึกของคนที่ถูกความว่างเปล่าในจิตใจครอบงำ และกัดกินชีวิตไปอย่างหมดสิ้น จนเกิดความสงสัยและการตั้งคำถาม คนเรามีชีวิตอยู่ไปเพื่ออะไรกันแน่ การจากลาเป็นอย่างไร
จะรับมันได้ไหม?
ถ้าคุณเตรียมพร้อมมาแล้ว
จะเจ็บปวดน้อยลงหรือเปล่า
คุ้มค่าที่จะลองอีกครั้งไหม?
ความเป็นจริงแล้ว
ฉันแค่กลัวเท่านั้นเอง
This is all that I can say
เนื้อเพลงที่แสดงออกถึงความเจ็บปวดร้าวราน ตั้งแต่เพลงที่มีความดำมืดอย่างที่สุด กับเนื้อร้องที่มีนัยยะ เต็มไปด้วยความสิ้นหวัง หมดหนทาง เกรี้ยวกราดและรุนแรง (NELL : Suicide Playlist )
ฉันกรีดข้อมือ
ฉันแขวนคอ
ได้โปรดทำอะไรสักอย่างสิ
ฉันกระโดดออกไป
ฉันแหลกสลายแล้ว
ได้โปรดเถอะ
ช่วยทำอะไรสักอย่าง
สู่แง่มุมของการจากลาที่งดงาม กับเนื้อเพลงที่สร้างบรรยากาศของช่วงเวลาสุดท้ายของชีวิต กลายเป็นความเศร้าอาลัยปนความอบอุ่น อ่อนหวานได้อย่างไม่น่าเชื่อ
ได้โปรด เอาลมหายใจสุดท้ายของผมไป
ปรายตาสุดท้าย, สัมผัสสุดท้าย
เพื่อที่ผมจะสามารถไปจากคุณ
ผมจะได้ไปจากคุณ
พร้อมหยาดน้ำตาสุดท้าย
กับคำอ้อนวอนสุดท้าย
ที่ผมจะเติมเต็มให้คุณ
Afterglow : NELL Album Separation Anxiety 2008
ความงดงามของทั้งเนื้อร้องและความหมาย เพลงที่ทำให้เราเข้าใจในความสวยงามของชีวิต กับการพบเผชิญ เจริญเติบโต ซึบซับไปกับเนื้อเพลงที่ทำให้เรา โหยหาช่วงเวลาอันเดียงสาในวัยเยาว์
เวลาทำให้เราเติบโตเป็นผู้ใหญ่
แต่ฉันไม่คิดว่ามันทำให้เราเข็มแข็งขึ้น
เวลาทำให้เราเติบโตเป็นผู้ใหญ่
แต่ฉันกลับคิดว่ามันทำให้เราโง่งมยิ่งกว่าเดิม
NELL : 청춘연가 (Green Nocturne) Acoustic ver.
2nd Single (2014)
Concert : 'WE ARE' Club Concert 2017
ความละเมียดละไมในเนื้อร้อง ใครกันที่จะแทนคำว่า 'สี่ปี' ด้วยประโยคที่ว่า 'โลกหมุนรอบดวงอาทิตย์สี่รอบ' ในเนื้อเพลง เพลงที่มีความโรแมนติกและรสชาติความหวานแบบหน่วงๆ
ความทรงจำเหล่านั้นเหมือนแรงดึงดูด
ที่ดึงหัวใจของผมให้กลับไปหาคุณ
โดยไม่สามารถหนีได้เลย
ในขณะที่โลกหมุนรอบดวงอาทิตย์ไปแล้วสี่รอบ
นับร้อยๆครั้งที่ผมโหยหาแต่คุณ
จนต้องร้องไห้ออกมา
แม้จะมีเพลงเศร้าหดหู่ หม่นหมองอยู่มาก แต่ก็มีเพลงอีกโซนหนึ่ง ที่เป็นเพลงให้กำลังใจ ฟังแล้วจะรู้สึกฮดสู้ ปลุกไฟ และเหมือนได้ปลดล็อคพลังบางอย่างในตัวเอง
ปล่อยโลห์อันผุพังไว้ที่พื้น
ชูดาบของคุณขึ้นมา
ครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้าย
จงยืนอยู่กลางถนน
โยนเกราะอันหนักอึ้งทิ้งไป
Jump in to the fire
แม้มันจะกลายเป็นเถ้าถ่าน
และสลายหายไป
แต่ความจริงยังคงอยู่
เหมือนดั่งเงาที่ติดไปกับคุณเสมอ
If it's in there,
then just jump into the fire
Burn : NELL EP Album Escaping Gravity (2013)
เงยหน้าของคุณขึ้นมา
และชูเสียงของคุณ
คุณที่เข็มแข็งและงดงามกว่าใครๆ
ความกลัวที่กักขังคุณเหมือนนักโทษ
ถึงคราวออกมาจากที่นั้น
Don't be afraid
We all rise and fall
Star Shell : NELL 3rd Single (2015)
มีบางแง่มุมที่เย้ยหยัน กับความยียวนกวนประสาทของเนื้อเพลง มีความแดกดัน ประชดประชันที่ถึงกับทำให้คนฟังสะอึกแบบขำๆ
My very last advice
ความโง่เงาของเธอ
ที่ทำเหมือนตัวเองฉลาด
ทำให้ฉันคลื่นไส้ ทำให้ฉันปวดหัว
มันน่ารังเกียจมาก จนฉันอยากจะบ้า
ฉันเอือมระอาเต็มทน
ความตื้นเขินของเธอ
ที่ทำเหมือนตัวเองสูงส่ง
ทำให้ฉันคลื่นไส้ ทำให้ฉันปวดหัว
มันน่ารังเกียจมาก จนฉันอยากจะตาย
ฉันทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว
Last Advice : NELL Album Walk Through Me (2004)ช่วยกรุณาหุบปากสักหนึ่งนาทีได้ไหม
คุณพูดมากเหลือเกิน
ไม่เมื่อยปากบ้างหรือไง
ช่วยกรุณาหุบปากสักหนึ่งนาทีได้ไหม
ถ้าไม่มีเหตุผลที่จะพูด
ทำไมคุณถึงพล่ามอยู่ได้?
ไม่มีอะไรที่ดีกว่านี้ทำแล้วหรอ
เพลงของ NELL ยังมีความโลดแล่นอีกรูปแบบหนึ่ง เมื่ออีพีอัลบั้ม Escaping Gravity (2013) ได้เดินทางมาถึง คิมจงวาน เริ่มมีการแต่งเพลงจากจินตนาการ ที่มีส่วนผสมของความฝันและความเหนือจริงเข้าไปอยู่ในเนื้อเพลง อย่างเพลง Ocean of Light ที่สว่างจ้าไปด้วยความแฟนตาซี Haven ที่ยั่วยุและมืดมน และเพลง Boy-X ที่มีเนื้อหาเสียดสีได้อย่างเจ็บแสบ ด่ากราดทั้งวงการ
NELL : Ocean of Light
Album : Escaping Gravity (2013)
VIDEO
นักการเมืองที่ไร้คุณสมบัติ
ผู้ไม่สนใจถึงความตกทุกข์ได้ยาก
Strike three, and you're out
นักปฏิวัติที่ไร้คุณสมบัติ
ผู้ชนะเลิศในการพูดพร่ำเพรื่อ
Strike three, and you're out
ผู้ให้ความรู้ที่ไร้คุณสมบัติ
ผู้ฆ่าความฝันของคนนับไม่ถ้วน
Strike three, and you're out
นักบวชที่ไร้คุณสมบัติ
ผู้เปรียบไม้กางเขนราวเครื่องหมายสวัสดิกะ
Strike three - yes, you're out
Boy-X : NELL EP Album Escaping Gravity (2013)
NELL : Boy-X
Album : Escaping Gravity (2013)
Concert : Christmas in NELL's room 2013
บางครั้งเราจะเห็นวิวัฒนาการความคิดผ่านเนื้อเพลงในเรื่องเดียวกันอย่างค่อยเป็นค่อยไป จากการเติบโตและมุมมองต่อเรื่องบางเรื่อง ที่ค่อยๆตกตะกอนเป็นลำดับ
And when you're standing in the rain
ไม่มีอะไรที่คุณจะทำได้
ท่ามกลางสายฝนโปรยปรายนี้
หัวใจของเราจะเปียกโชก
เมื่อฝนตกก็เปียก
เมื่อลมพัดก็สั่นไหว
มันต้องเป็นแบบนั้น
yes, it's natural
Fantasy : NELL Album Newton's Apple (2014)
I'll sail through the pouring rain
แน่นอน ฉันต้องเปียกฝน
แต่แล้วไงล่ะ
I'll dance in the rain
NELL : Day After Day
Album : C (2016)
Concert : GREENPLUGGED SEOUL 2019
เนื้อเพลงของ NELL มีหลายเลเยอร์ บางเพลงจุกตั้งแต่คำแรก กลิ่นความโศกจะโชนมาเลยตั้งต้น ในขณะที่บางเพลงฟังแรกๆ คล้ายจะเป็นเพลงรัก ดูหวานชื่นโรแมนติกมาก พอฟังไปเรื่อยๆ จะรู้สึกขื่นๆแปลกๆ สุดท้ายหักมุม กลายเป็นเพลงที่โคตรเศร้า ช่วงที่เราฟังวงนี้แรกๆ เราหาเพลงรักสมหวังแทบไม่เจอเลย (ทุกวันนี้ก็ยังไม่ค่อยเจอ ฮาาา) บางเพลงดนตรีมันสดใสมาก เมโลดี้มันก็น่าจะใช่ แต่พอไปดูคำแปล เอิ่บบ น้ำตาไหล...
บางเพลงยากที่จะเข้าใจได้ ต่อให้แปลออก ก็ไม่เข้าใจความหมายอยู่ดี เนื้อเพลงจะเหมือนเข้ารหัสลับลางอย่างอยู่ตลอด รหัสที่มีเพียงคนแต่งเท่านั้นที่รู้ คำร้องในเพลงของ NELL จึงลึกลับ ซ่อนเร้น แฝงนัยยะและมีเสน่ห์ ซึ่งจะมีเพลงจำนวนหนึ่งที่สามารถใช้เทคนิค Backmasking ในการกรอย้อนกลับเพื่อไขรหัสได้ ซึ่งเราจะพบทำนองหรือความหมายใหม่ที่เพลงได้ซ่อนไว้
NELL Backward masking compilation
เคยมีคอมเม้นท์ของคนเกาหลีที่ทำให้เรารู้ว่า ลักษณะการใช้ภาษาของคิมจงวาน จะแปลกและแตกต่างจากไวยากรณ์เกาหลีอยู่หน่อยๆ แต่สิ่งที่น่ามหัศจรรย์นอกจากเนื้อเพลงที่โดดเด่นแล้ว คำร้องของคิมจงวาน เรียลเสมอ มันดูจริงไปหมด อาจจะเป็นเพราะเสียงร้องและดนตรีประกอบกันไป แต่ฟังแล้วเราจะรู้สึกเลยว่า คำว่า "เธอ" ในนั้นมีตัวตนจริงในทุกๆเพลง เพราะเนื้อเพลงมันดูเรียล กินใจ และเป็นธรรมชาติสุดๆ ถ้าเป็นเพลงอกหัก มันจะอึนๆหน่อย เนื้อเพลงแบบรักข้างเดียวแทบจะไม่มีเลย แต่จะเป็นในบริบทที่ว่า 'เราเคยรักกัน แต่ตอนนี้ไม่ได้รักแล้ว' เป็นเพลงอกหักแบบซึมๆ ที่ไม่โวยวาย ไม่ตีอกชกหัว แต่โคตรเรียล
ในทุกๆวัน
กาลเวลาพาผมย้อนไปวันนั้น
ในที่แห่งหนึ่ง
ที่เรามีความสุขมากกว่าใครในโลก
ผมระวังที่จะไม่เรียกชื่อคุณออกมาจนเป็นนิสัย
ผมหลับตาลง
เพราะกลัวว่าจะมองหาแต่คุณเหมือนอย่างที่เคยทำ
NELL : 습관적 아이러니 (Habitual Irony)
Album : C (2016)
ONSTAGE LIVE
การบอกเล่าเรื่องราวผ่านเนื้อเพลงเป็นเหมือนการรีด ระบายอารมณ์ความรู้สึกอย่างหนึ่ง คิมจงวาน เคยอธิบายไว้ว่า เขาไม่เคยคิดว่าชีวิตของตัวเองแย่ เพียงเพราะความเศร้า เพียงแต่ดนตรีทำให้เขาได้คิด ตกตะกอนความรู้สึก และได้ค้นพบแง่มุมที่แตกต่างในตัวเอง ซึ่งเป็นเรื่องยากเวลาที่เราสาดความเศร้าและสิ่งด้านลบแย่ๆ เข้าไปในเนื้อเพลง แต่มันจะรู้สึกดีเมื่อได้ระบายมันออกไป เขาอาจจะใช้ชีวิตจมอยู่ในเนื้อเพลงของตัวเองอยู่บ้าง โดยเฉพาะช่วงเวลาที่เขียนเพลง ซึ่งมันจะออกมาไม่ได้เลย ถ้าเขาปราศจากความรู้สึกในห้วงลึกของอารมณ์ แต่เขาสามารถทนได้เพราะรู้รสชาติของมันดี จนเมื่อผลงานเพลงที่ทำออกมาแล้วเสร็จและได้อารมณ์เพลงอย่างที่วงต้องการ ความรู้สึกสบายและเปี่ยมสุขจะแล่นเข้ามาแทน ซึ่งพวกเขาทั้งสี่คนเสพย์ติดความรู้สึกนั้น ความรู้สึกเปี่ยมสุขเมื่อเพลงเสร็จ
เนื้อเพลงของ NELL ยังมีแง่มุมให้ค้นหาอีกมาก ซึ่งบทเพลงเหล่านั้นจะทำงานกับคนฟังแตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับประสบการณ์ วุฒิภาวะ หรืออารมณ์ความรู้สึกเฉพาะของแต่ละคน บางเพลงมันอาจไปทัชส่วนใดส่วนหนึ่งในตัวของเรามากกว่าคนอื่นๆ เมื่อเรามีประสบการณ์ในเรื่องราวชีวิตร่วมกับมัน
เพลง NELL จะทำงานกับเราได้ดีในแง่นั้น มันสามารถทำให้วันแย่ๆ ดีขึ้นมาได้ ให้ความมีชีวิตชีวาในเมเลดี้ที่สดใส ให้ความฮึกเหิมสนุกสนานยามที่เราต้องการ เพลง NELL จะสามารถพะยุงอารมณ์ของเราได้ แม้ในเพลงเศร้าดิ่งๆ มันจะสามารถบำบัดและเยียวยาจิตใจ ทำให้เราพบกับความสงบ กลายเป็นความเศร้าในรูปแบบของความสุขที่หาไม่ได้จากที่ไหน
วงดนตรีล้วนเปลี่ยนแปลง "เหตุผลที่พวกเรารักดนตรี ก็เพราะว่าถ้าหากเราไม่เปลี่ยน คนก็เกลียด
แต่ถึงแม้ว่าเราจะเปลี่ยน คนก็เกลียดอยู่ดี"
วงดนตรีที่มีอายุวงนานๆ มักจะประสบกับความย้อนแย้งอย่างหนึ่ง หากเพลงของพวกเขาไม่มีการเติบโต ไม่มีการพัฒนาทั้งในด้านซาวด์ดนตรีและเนื้อร้อง ยังทำเพลงเหมือนเดิมอย่างที่เคยทำ ก็จะถูกมองว่าไม่สามารถออกจากกรอบเดิมๆที่วงเคยทำได้ ย่ำอยู่กับที่และไม่มีพัฒนาการ แต่หากเพลงของพวกเขาเปลี่ยนแนวทางแม้เพียงนิดเดียว จะถูกมองว่าวงเปลี่ยนไป ไม่ทำเพลงเหมือนแต่ก่อน หรือกระทั่งประโยคประเภทที่ว่า พอดังแล้วก็เลยเปลี่ยนแนวNELL : 한계 (Limit)
Album : Healing Process (2006)
Concert :
I'm LIVE (arirang) VIDEO
NELL เป็นวงที่ก่อตั้งขึ้นมาตั้งแต่ปี 1999 มีผลงานอัลบั้มแรกเมื่อปี 2001 ซึ่งเริ่มต้นในช่วงที่สมาชิกอยู่ในช่วงอายุวัย 20 จนตอนนี้จะ 40 ปีเข้าไปแล้ว เป็นวงที่ออกอัลบั้มทันช่วงที่เป็นยุคเทปคาสเซ็ทถึงสี่ชุด มีแฟนเพลงทั้งเก่าและใหม่ ที่ติดตามมาตั้งแต่ยุคอินดี้ บางคนเริ่มห่างหายไป บ้างก็เลิกฟังไปแล้ว แต่บางคนก็ยังคงติดตามมาจนถึงทุกวันนี้
ทุกๆครั้งที่ NELL ออกอัลบั้มใหม่ คำพูดว่าเหล่านี้จะวนเวียนมาเสมอ คำพูดที่ว่าดนตรีของพวกเขาเปลี่ยนไป ซึ่งแน่นอนว่ามีทั้งคนที่ชอบและไม่ชอบ ในด้านหนึ่งพวกเขาทั้งสี่คนไม่เคยคิดว่า NELL เปลี่ยนไปเท่าไรนัก เพราะสิ่งที่พวกเขาเป็นมาเสมอ นั่นก็คือการ ซื่อสัตย์ต่องานดนตรีที่ทำ สร้างสรรค์บทเพลงและนำเสนอซาวด์ในแบบที่ตัวเองชอบ และหวังว่าผู้ฟังก็จะชอบเช่นเดียวกัน พออัลบั้มปล่อยออกไป หน้าที่ของพวกเขาก็หมดลงเพียงแค่นั้น ที่เหลือจึงเป็นหน้าที่ของคนฟังที่จะติดสิน
คิมจงวาน เคยกล่าวไว้ว่า "อัลบั้มเก่าก็เหมือนแฟนเก่า" ทุกวันนี้เขาไม่ค่อยย้อนกลับไปฟังเพลงของตัวเองในอัลบั้มก่อนๆมากนั้น เพราะมักจะเห็นข้อบกพร่องในงานเก่าๆของตัวเองเสมอ อย่างอัลบั้ม Walk Through Me (2004) ที่วงชอบพูดเหน็บงานตัวเองบ่อยๆ ว่าอัดเสียงไม่ค่อยดี เป็นเรื่องทางเทคนิคอะไรสักอย่าง (คนฟังนี่แทบไม่รู้สึก ไม่เห็นจะไม่ดีตรงไหน เพราะจะตาย เป็นอัลบั้มที่เราฟังบ่อยด้วยซ้ำ) เพราะฉะนั้น ถ้าคุณชอบและซื้อกับสีสันทางดนตรีแบบ NELL คุณก็สามารถเดินร่วมทางกับวงนี้ต่อไปได้ แต่ถ้าคุณคิดว่าคุณชอบเพลงในยุคเก่าๆของ NELL มากกว่า ก็กลับไปฟังอัลบั้มเก่า วินๆ
ทุกวันนี้วงไม่แคร์แล้ว NELL สามารถที่จะละทิ้งคำค่อนขอดเล็กๆน้อยนี้ไว้เบื้องหลังได้ และกาลเวลามันก็ทำให้รู้ว่า พวกเขาสามารถสร้างผลงานเพลงให้ออกมาในรูปแบบของตัวเอง ออกมาเป็นสีสันเฉพาะตัวของวงได้เสมอ ไม่ว่าจะเป็นเพลง genre ไหนก็ตาม คิมจงวาน ถึงกับพูดออกมาเลยว่า ทุกๆครั้งที่มีคนบอกว่าเพลงของ NELL สดใสขึ้น เขากลับคิดว่าทำไมคนในประเทศนี้ช่างดาร์กเสียเหลือเกิน และถ้าหากคนอื่นๆพูดว่าเพลงของ NELL สว่างขึ้น เขาก็คงคิดว่ามันสว่างขึ้นจริงๆ หรือต่อให้คนพูดว่าเพลงของ NELL ดาร์กขึ้น เขาก็คิดว่ามันอาจจะดาร์กขึ้นจริงๆก็ได้ (นี่ มันพูดตัดรำคาญนิ 5555555)
IG : nelldrum
ทุกวันนี้ NELL ก็ยังคงโฟกัสในงานดนตรีที่ทำต่อไป ยังคงเป็นวงที่ทำเพลงที่ดีและร่วมสมัย ไม่ว่าเวลาจะผ่านไป เพลงของ NELL ยังคงไพเราะและอยู่เหนือกาลเวลาเสมอ ในขณะที่แฟนเพลงเฝ้าถามว่าวงจะทำอะไรสำหรับการฉลองครบรอบ 20 ปี พวกเขาก็ให้คำตอบแบบง่ายๆว่า NELL คงจะแสดงคอนเสิร์ตเหมือนอย่างที่เคยทำมาในทุกๆปี เพราะการนับวันเวลาถึงเลข 20 นั้นก็คงไม่ต่างกับเลขอื่นๆสักเท่าไร ก็แค่เพิ่มจาก 19 มา 1 ปีเท่านั้นเอง
"มันก็คงจะเหมือนเดิมเหมือนที่เคยเป็นมาตลอด" XX ไม่เห่อเรื่องปีเท่าไร แต่ XX อ่ะ ฮาาา
MY BAND
Happy 'NELL' 20th Anniversary!
20 ปีแล้วที่วง NELL อยู่ด้วยกันมา สำหรับวงดนตรีแล้ว การยืนระยะเพื่อสร้างสรรค์ผลงานเพลงร่วมกันนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย เราคิดว่าส่วนที่สำคัญที่สุดที่จะทำให้วงอยู่ได้นาน ก็คือการที่วงนั้นๆ ยังมี passion และเป้าหมายในการทำเพลงร่วมกันมาโดยตลอด กับเคมีของสมาชิกแต่ละคนที่รวมกันได้อย่างลงตัว เคยมีคนไปกวนตีนถามคิมจงวาน ในบทสัมภาษณ์หนึ่งเมื่อนานมาแล้วว่า ถ้าเขาได้มีโอกาสไปทำเพลงเดี่ยวที่เมืองนอกจะไปไหม จงวาน ก็ตอบไปว่าเขาไม่ไปหรอก ถ้าไปก็ต้องไปกับวง คือพาเพื่อนไปด้วย (เนี่ยย ซึ้งโว๊ยย รักกก)
เลยอยากจะขอบคุณมากที่อยู่ด้วยกันจนถึงทุกวันนี้ ขอบคุณโลกที่เหวี่ยงพวกคุณทั้ง 4 คนที่มีเทสเรื่องดนตรีที่ใกล้เคียงกันมาเจอกัน ขอบคุณทั้งสามคนที่ชอบเพลงที่คิมจงวาน แต่ง ไม่งั้นคงอยู่กันไม่รอดแน่ ฮ่าาาาาาาาาา
ขอบคุณที่ทุ่มเททำเพลงที่สุดยอดเสมอ เป็นวงดนตรีที่คลิ๊กกับเราไปหมดทุกอย่าง ดีถึงขนาดที่ว่าทุกวันนี้เรายังตอบตัวเองไม่ได้เลยว่าชอบเพลงไหนของ NELL ที่สุด อย่าว่าแต่เพลงเลย แค่ให้เลือกอัลบั้มที่ชอบที่สุด ก็ยังเลือกไม่ได้เลย เพราะชอบไปหมด ดีไปหมด ขอบคุณมากๆๆๆๆ จะ 40 แล้ว รักษาสุขภาพและอยู่ทำเพลงด้วยกันต่อไปต่อไปอีกนานนนนเท่าาาาานานนนนนนนนเลยยยย
ขอบคุณสำหรับคนอ่านหลายคนที่อ่านมาถึงตรงนี้ด้วย ไม่ว่าจะตั้งใจหรือหลงเข้ามาก็แล้วแต่ หรืออ่านไม่จบก็ไม่เป็นไร เพราะไม่ได้ตั้งใจด้วยว่ามันจะยาวขนาดนี้ แล้วก็เตือนแล้วนะว่าอวยมากๆ เชื่อหรือยัง อวยแบบอ่านเองบางทียังเขินๆ เลย ฮ่าาาา แฮปปี้ เนลเดยยย์ : ))
"NELL 20th Anniversary" 1999 . 07 . 31 - - - - -2019 . 07 . 31 - - - - - - - - - - - ->
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in