เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Grey Zoneunnderbar__
NELL : Farewell / Give me the pill

  • ความเศร้าส่วนใหญ่มักมาจากการจากลา การจากลามีได้หลายรูปแบบ และคำว่า "ลาก่อน" ก็อาจจะเป็นส่วนหนึ่งของมัน หากแต่คำว่า "ลาก่อน" นี้ จะใช้ในสถานการณ์ไหน

    "ลาก่อน" ให้กับเธอที่จากไป

    หรือ "ลาก่อน" ให้กับฉัน ที่กำลังจะจากไป

    สำหรับเพลงนี้ คงจะเป็นอย่างหลัง




    หากใครที่อ่านผ่านการแนะนำในอัลบั้ม Healing Process มาแล้ว (NELL : Meaningless / Healing Process) และคิดว่าเพลง Meaningless มันช่างพาให้ดำดิ่งและรู้สึกสิ้นหวังเสียเหลือเกิน แต่สำหรับเพลงที่กำลังจะแนะนำในต่อไปนี้เป็นการไต่ระดับความยับเยินขึ้นมาอีกขั้น หรืออาจจะเป็นระดับขั้นสูงสุดของความมืดมนอนธการ ความเจ็บปวดรวดร้าวและความทุกข์ทนจนถึงขั้นน่าขนลุก 




    เสียงสะท้อนอันว่างเปล่า 
    ความแปลกหน้าที่คุ้นเคย
    ความคาดหวังที่ไม่จบสิ้นและการยอมแพ้กัดกร่อนฉัน

    "มันเริ่มตั้งแต่เมื่อไรหรอ"
    "ช่วยคิดให้ดีๆเถอะ"
    ทำไมคุณถึงเอาแต่ถาม ทั้งๆที่รู้อยู่แล้วล่ะ?
    ช่วยหุบปาก แล้วส่งมันมาสักที*


    ความสัมพันธ์อันโหดร้าย
    และความชินชาที่ถลำลึก
    เค้าโครงมากมายในโลกนี้ที่มองไม่เห็น

    "มันเริ่มตั้งแต่เมื่อไรหรอ"
    "ช่วยคิดให้ดีๆเถอะ"
    ทำไมคุณถึงเอาแต่ถาม ทั้งๆที่รู้อยู่แล้วล่ะ?
    ช่วยหุบปาก แล้วส่งมันมาสักที*
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    ฉันมองไม่เห็นทางข้างหน้า 
    ทุกครั้งที่ฉันก้าวออกไป ความหวาดวิตกทะลักออกมา

    ฉันรู้สึกหายใจไม่ออก
    ฉันสำลักยาออกมา มันช่างทุกข์ทรมานเหลือเกิน

    ฉันไม่อยากรู้อะไรอีกแล้ว
    ในแต่ละครั้งที่ฉันรับรู้ ความกลัวพุ่งเข้ามารายล้อม

    ฉันรู้สึกหายใจไม่ออก
    ทุกครั้งฉันกรีดอย่างบ้าคลั่ง ความเจ็บปวดมันกลืนกินฉันเข้าไป 

    ฉันอยากให้มันสิ้นสุดลงสักที


    ฉันกรีดข้อมือ
    ฉันแขวนคอ
    ได้โปรดทำอะไรสักอย่างสิ

    ฉันกระโดดออกไป
    ฉันแหลกสลายแล้ว
    ได้โปรดเถอะ ช่วยทำอะไรสักอย่าง

    ฉันกรีดข้อมือ
    ฉันแขวนคอ
    ได้โปรดทำอะไรสักอย่างสิ

    ฉันกระโดดออกไป
    ฉันแหลกสลายแล้ว
    ได้โปรดเถอะ ช่วยทำอะไรสักอย่าง
    .



    *มีคอมเม้นท์ในคลิปอื่นว่าส่วนนี้แปลผิด ไม่ได้หมายความว่า let it go แต่เป็น give it to me แทน
    เพลงนี้แปล eng หลายสำนักไม่เหมือนกันเลย เราพยายามแปลตามที่คิดว่าถูกต้องที่สุดเท่าที่จะทำได้
    เป็นเนื้อที่แปลแล้วเครียดมาก ผิดถูกยังไงท้วงติงได้นะคะ


    ต้องขออธิบายเพิ่มเติมตามที่ได้เกริ่นไว้เล็กน้อยว่าในภาษาเกาหลีนั้น มีคำบอกลาที่เป็นภาษาสุภาพมากๆ ใช้กันในสองลักษณะ อย่างแรกคือ "안녕히 세요" จะใช้ประโยคนี้เมื่อผู้พูดเป็นผู้อยู่ พูดส่งคนที่ไป ความหมายจะประมาณว่า "ลาก่อน ขอให้ไปดี ไปโดยสวัสดิภาพ" กับอย่างที่สองคือ "안녕히 세요" ซึ่งจะใช้ประโยคนี้เมื่อผู้พูดเป็นผู้จากไป พูดกับคนที่อยู่ ความหมายกลายๆคือ "ลาก่อน ขอให้อยู่ดีๆ" ซึ่งแน่นอนประโยคอย่างที่สองนั้น เป็นชื่อเพลงที่เรากำลังจะพูดถึงในตอนนี้




    "안녕히 계세요" (Farewell) เป็นแทร็คที่ 9 (CD1) ในอัลบั้ม Healing Process สตูดิโออัลบั้มชุดที่ 3 (ไม่นับรวมอัลบั้มอินดี้) ออกมาเมื่อปี 2006 เป็นเพลงที่ยาวที่สุดในอัลบั้ม กินความยาว 6:05 นาที และเป็นเพลงเดียวในอัลบั้มนี้ที่ถูกแบนไม่ให้ออกอากาศ ด้วยเหตุผลที่เด่นหราอยู่บนเนื้อเพลงนั่นเอง (ในกรณีการแบนนี้เราไม่ค่อยเข้าใจว่าห้ามร้องออกรายการโทรทัศน์อย่างเดียวหรือแบบไหน แต่ทางวงก็ไม่ได้ใช้เพลงนี้เป็นเพลงโปรโมทอยู่แล้ว ก็คงไม่แคร์เท่าไร /ขนาดในคอนเสิร์ตตัวเองยังไม่ค่อยจะร้องเลย)



    เนื้อเพลงนี้พูดเกี่ยวกับเรื่องการฆ่าตัวตายชัดเจนอยู่แล้ว มีการตีความว่าผู้พูดในที่นี้คือบุคคลที่มีปัญหาด้านจิตใจ หรือผู้ป่วยโรคจิตเวช จากประโยคในเพลงที่ว่า


    "มันเริ่มตั้งแต่เมื่อไรหรอ 
    ช่วยคิดให้ดีๆเถอะ 
    ทำไมคุณถึงเอาแต่ถาม ทั้งๆที่รู้อยู่แล้วล่ะ?
    ช่วยหุบปาก แล้วส่งมันมาสักที"


    ซึ่งสิ่งที่ผู้พูดร้องขอว่า "ส่งมันมาสักที"  ในที่นี้จึงหมายถึง "ยา" แสดงอาการเหวี่ยง ประชดประชันและความตัดพ้อน่ารำคาญ ซึ่งสอดคล้องกับเนื้อเพลงช่วงท้ายที่แสดงถึงอาการสำลัก ช่วงแรกเนื้อเพลงแสดงบุคลิกคนที่เต็มไปด้วยความหมดอาลัยตายอยาก เฉยเมย ชินชา คล้ายอาการขีดความกลัวต่ำ ซาวด์ช่วงแรกจึงวนลูป ให้ความรู้สึกล่องลอยไร้จุดหมาย เหมือนไม่มีจุดให้ยึดเหนี่ยว ไม่มีท่อนฮุคที่ชัดเจน มีแต่เสียงคอรัสและดนตรีพาไหลและข้นมากขึ้นเรื่อยๆ จนทุกอย่างพรั่งพรูออกมาในเนื้อเพลงอย่างตรงไปตรงมาในช่วงท้าย เสียงร้องเหมือนเสียงที่มาจากที่ห่างไกลสลับคล้ายกับเสียงก้องในหัว ซึ่งก็คืออาการของความป่วยไข้ในคนที่จมปลักอย่างหนัก เป็นความรู้สึกรวดร้าว แหลกสลาย ไม่จบไม่สิ้น มืดมน ไม่มีทางออก เต็มไปด้วยอารมณ์ความรู้สึกที่ล้ำลึกพร้อมกับความทุกข์ทรมานแสนสาหัส เป็นเนื้อเพลงที่มีแต่ถ้อยคำน่าตกตะลึง ตรงไปตรงมามากจนน่ากลัว 


    Healing Process (2006) Album Artwork by Iwan (아이완)


    "안녕히 계세요" นี้เป็นเพลงที่ลี แจคยอง (มือกีตาร์) ชอบมากที่สุดในอัลบั้ม Healing Process ซึ่งนับตั้งแต่ปล่อยออกมาเมื่อปี 2006 ทางวงไม่เคยเล่นสดเลยสักครั้ง จนในคอนเสิร์ต "Christmas in Nell's Room 2015" วง Nell ได้แสดงเพลงนี้เป็นครั้งแรกและครั้งเดียวจนถึงตอนนี้ โดยใช้เป็นเพลงปิดสุดท้ายของ Setlist ในปีนั้น (ก่อนช่วง encore/เป็นปีที่มี setlist โหดมาก)


    안녕히 계세요 : CHRISTMAS IN NELL'S ROOM 2015

    "안녕히 계세요" จึงเป็นเพลงที่เต็มไปด้วยอารมณ์ความรู้สึกอย่างมาก หลายครั้งที่เราจะพูดถึงความหม่นเทาในเพลงของ ​Nell แต่สำหรับเพลงนี้เป็นข้อยกเว้น เพราะมันโคตรจะดำสนิท แฟนเพลงหลายคนที่ฟังแล้วต่างบอกแซวๆ ให้เปลี่ยนชื่ออัลบั้มเป็น Killing Process แทนไหมคะคุณพี่ เพราะเนื้อเพลงมันบอกชัดเหลือเกิน แต่ในขณะเดียวกันเพลงในลักษณะนี้จะมีความ Nell ที่โดดเด่นมาก นั่นก็คือความเศร้าอันสวยงาม ซึ่งเพลงในหมวดนี้จะทำงานกับคนฟังในแบบเดียวกัน คือฟังแล้วค่อยๆซึมลึกอยู่กับมัน แถมซึมนาน จากนั้นมันจะค่อยๆรีดระบายความโศกเศร้า ความรู้สึกหม่นหมอง หรือบางสิ่งบางอย่างที่อยู่ในใจออกมา (หรือไม่ก็ให้ผลทางตรงกันข้าม/โชคดีค่ะทุกคน) 


    สำหรับเพลงนี้โดยส่วนตัวแล้วเหมือนมันแทนความรู้สึกของคนที่มีอาการซึมเศร้านะสำหรับเรา เป็นเพลงที่ชอบมากและรู้สึกเป็นท็อปฟอร์มของอัลบั้มนี้ (อีกแล้ว ท็อปทุกเพลง) เมโลดี้มันเพราะแล้วอารมณ์มันเยอะ ช่วงที่ฟังแรกๆขอสารภาพว่าเหนื่อย อึดอัดไปหมด คือเพลงมันทำปฏิกิริยามาก รู้สึกเหมือนฉันจะไม่พบเจอความสุขอีกแล้วในชีวิตนี้ ยิ่งพอรู้ความหมายแล้วฟังมันยิ่งหนัก รู้สึกเหมือนหัวใจเต้นผิดจังหวะ หายใจไม่ออกตาม ฟังแล้วต้องถอนหายใจเป็นพักๆ โคตรสิ้นหวัง เป็นเพลงโปรดที่ให้ความรู้สึกย้อนแย้งไปหมด คือชอบนะ แต่จะเลี่ยงๆ พยายามจะไม่ฟังบ่อย เพราะมันหดหู่ ท้อแท้สิ้นหวังเกินไป แต่พอเวลาผ่านไปก็รับเพลงได้มากขึ้น แต่ก็ไม่ชินหรอก อย่างตอนที่กำลังเขียนเรื่องนี้ ก็ต้องฟังๆๆๆๆ ฟังให้แตก จน เฮ้ออออออออออออ เหนื่อยยยยยยยยยยยย 


    Healing Process (2006) Album Artwork by Iwan (아이완)


    และสำหรับคิม จงวาน (นักร้องนำและผู้แต่งเนื้อเพลงทั้งหมดของ Nell) คงไม่มีใครเข้าใจความเศร้าของเขาในขณะที่ทำอัลบั้มนี้ได้ถ่องแท้ ว่ามันทุกข์ระทมหรือขุ่นมัวมากแค่ไหน แต่ในขณะเดียวกันดนตรีกลับเป็นสิ่งเดียวที่เขาอยากจะทำมากกว่าอะไรทั้งหมดในช่วงเวลานั้น

    นี่อาจจะเป็น Healing Process อย่างหนึ่งของเขาเองในมุมของคนทำเพลง 

    นั่นคือการได้ระบายความเศร้านั้นออกมาได้รูปแบบของดนตรี

    .







Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in