การดำเนินชีวิต​ 

..หากเรารู้จัก​ เข้าใจ​ และใช้เป็น 

DIALOGUE (2009)
สุนทรียสนทนา

 

หนังสือเล่มนี้ในทัศนะผู้เขียนเห็นเป็นประโยชน์ยิ่งกับทุกเพศทุกวัยโดยเฉพาะอย่างยิ่งท่านที่มีพื้นฐานแข็งแรงทั้งสี่ ได้แก่ ความเมตตา (Loving Kindness)ความกรุณา (Compassion) มุทิตา (Sympathetic) และอุเบกขา (Equanimity)ในตนเองและผู้อื่นแล้วก็จะเป็นปัจจัยให้ท่านยิ่งเรียนรู้และเข้าใจได้เร็วยิ่งขึ้นสามารถนำไปฝึกฝนเพื่อให้เห็นผลได้เร็วขึ้นอีกด้วยนั่นเอง

ผู้เขียนเองได้พยายามเรียนรู้ฝึกฝน และพัฒนามาราวสิบปีเศษๆ ยังไม่เก่งนักหรอกครับ ซึ่งคงต้องฝึกพัฒนาตนต่อไปเช่นกันฝึกไปจนกว่าใจจะไม่เป็นทุกข์ครับท่านผู้อ่าน

สำหรับท่านผู้อ่านที่ไม่เคยได้ยินชื่อมาก่อนหรือไม่เคยอ่านเนื้อหาด้านนี้มาก่อน อาจพบว่าเนื้อหามีความใหม่อยู่ไม่น้อย อาจแปลกแตกต่างไปจากที่ท่านเคยรับรู้หรือเข้าใจมาก่อน โดยเฉพาะกับท่านผู้อ่านหรือท่านผู้ปฏิบัติที่ไม่คุ้นเคยกับการฝึกตนแบบใจสู่ใจมาก่อนหรืออาจฝึกฝนมายังไม่มากพอผู้เขียนขอเป็นกำลังใจให้ท่านนะครับ และขอให้ท่านลองดู ลองอ่าน ลองศึกษาดูลองนำไปใช้ ค่อยๆ ประยุกต์ดูครับ

ตลอดการอ่านหนังสือเล่มนี้ผู้เขียนก็ได้ทบทวนตรวจสอบตนเองอยู่ตลอด จะเรียกว่าแทบทุกคำทุกบรรทัดก็ว่าได้พลิกไปพลิกมา จนกระดาษบางและพองหน้าหนาขึ้น ซึ่งเป็นเหมือนครูที่สอบอารมณ์ ร่างกายและความคิดตนเอง ด้วยเหตุนี้ ผู้เขียนจึงได้ทำสรุปออกมาเป็นข้อนั้นๆ ที่เป็น Hightlight เชิงพฤติกรรมร่างกายและภายในตนออกมา เพื่อช่วยให้ท่านผู้อ่านทุกท่านได้เห็นภาพยิ่งขึ้นทั้งนี้รายละเอียดทั้งหมด ท่านผู้อ่านสามารถศึกษาเพิ่มเติมเพื่อใช้พึ่งพาตนเองแบ่งปัน และถ่ายทอดได้ตามอัธยาศัยเลยนะครับผู้เขียนยินดีและขออนุโมทนาสาธุเป็นอย่างยิ่งครับ

ท่านที่อยากฝึกฟังคนเพื่อให้ได้ยินเสียงของตนเองและเข้าใจผู้อื่นได้ลึกซึ้งขึ้นลองศึกษาดูได้เพื่อเป็นแนวทางจากหนังสือเล่มนี้ได้นะครับ

ท่านที่อยากเห็นเสียงภายในตนเองที่มักเป็นผู้ตัดสินพิพากษาผู้อื่นมีอคติและมีความกลัวปนเปื้อนในอารมณ์ของตัวเองทั้งที่แบบรู้ตัวและแบบไม่รู้ตัวก็ตามลองศึกษาดูได้เพื่อเป็นแนวทางจากหนังสือเล่มนี้ได้นะครับ

ท่านที่อยากฝึกตนให้ใจเย็นมีคำพูดที่ประสานสมานหัวใจคน ไม่สร้างบาดแผลให้กับหัวใจคนลองศึกษาดูได้เพื่อเป็นแนวทางจากหนังสือเล่มนี้ได้นะครับ

ท่านที่อยากพาตนออกนอกกรอบโดยมีพื้นฐานที่มั่นคงแน่วแน่ผ่านการคุยคิด คลิก คลำ ไม่เป็นแบบดึง ดัน ผลัก ขู่ อีกต่อไปลองศึกษาดูได้เพื่อเป็นแนวทางจากหนังสือเล่มนี้ได้นะครับ

ท่านที่อยากให้เกิดสติมีเพื่อนฝูงที่ดีงาม มีเครือข่ายส่งเสริมกันและกัน มีสายสัมพันธ์ที่ดีต่อกันลองศึกษาดูได้เพื่อเป็นแนวทางจากหนังสือเล่มนี้ได้นะครับ

และอีกมากมายครับท่านผู้อ่าน

สุดท้ายนี้ผู้เขียนขอขอบคุณหัวหน้าในงาน พี่สาวที่น่ารักอีกหนึ่งท่านของชีวิตผู้เขียนคุณภรณี สุขศรีพานิชย์หรือพี่ออยผู้แนะนำให้ผู้เขียนได้เรียนรู้และศึกษาหนังสือเล่มนี้มากๆ ด้วยนะครับตลอดจนขอขอบคุณอาจารย์ ดร. วรภัทร ภู่เจริญ ผู้ประพันธ์หนังสือเล่มนี้มากๆด้วยเช่นกันนะครับที่เป็นอีกหนึ่งท่านที่ผู้เขียนเคารพนับถือมาตลอดสิบปีที่ผ่านครับขออนุโมทนาสาธุอย่างยิ่งครับ

(Credited : หนังสือDialogue คิดลงสู่ใจ…ไหลเป็นปัญญา)

Living​ Learning​ Life​ 
.
เป็น​ FB​ Fan Page​ ที่สร้างสรรค์ขึ้นมาด้วยเจตนาและความมุ่งหมายเพื่อเป็นแหล่งสาระ​ แหล่งความคิดความรู้ความเข้าใจ​ เป็นหลักในการดำเนินชีวิตเพื่อเรียนรู้​ ฝึกฝน​ พัฒนาชีวิตในทุกๆ​ ด้าน​ เป็นแนวทางหลักคิด​ หลักพูด​ หลักทำให้กับผู้คน​ โดยมุ่งเน้นคุณประโยชน์เชิงปฏิบัติของผู้เรียนรู้ศึกษาเป็นหลัก​ และเพื่อประกอบสัมมาอาชีพควบคู่กันไป
.
ติดตามสาระดีๆ​ ได้จากเพจนี้​ ตลอดจน​ สื่อสาระดีๆ​ ทั้งหนังสือ​แต่งเอง​ E​ Book​ และรูปเล่ม บทความสั้น​ ตลอดจนแนวทางและวิธีการพัฒนาชีวิตตนเองและสร้างสรรค์สังคมให้ดีงามและเป็นมิตร​ 
.
สนใจสั่งซื้อ E Book ฉบับเต็ม หรือ ฉบับแยก Chapter
โปรดแจ้งมาทางข้อความได้เลยนะครับ