"Sleep is that golden chain that ties health and our bodies together" - Thomas Dekker
วันนี้ (18 มีนาคม) เป็นวันนอนหลับโลกประจำปี 2016 ล่ะ ซึ่งเป็นวันที่ผู้ริเริ่มเขามีแนวคิดว่ามันควรจะมีวันที่เราจะมาระลึกถึงความสำคัญของการนอนหลับ รวมถึงตระหนักถึงปัญหาการนอนอย่างไม่มีคุณภาพกันมากกว่านี้ได้แล้ว เอาล่ะ มาดูกันอย่างละเอียดขึ้นหน่อยดีกว่าว่าเขาว่ายังไงกันบ้าง
วันนอนหลับโลกจัดขึ้นทุกปีโดย The World Association of Sleep Medicine มาตั้งแต่ปี 2008 นู่นแหนะ ซึ่งจนถึงตอนนี้ก็มีผู้เข้าร่วมในสมาคมนี้ถึง 68 ประเทศแล้ว (มีไทยแลนด์ของเราด้วยจ้า) ซึ่งจุดประสงค์ของการก่อตั้งวันนี้สมาคมนี้ขึ้นมาจริงจังก็เพราะว่าการนอนหลับมันไม่ใช่เรื่องเล่นๆ นะ เราควรจะตระหนักกันได้แล้วนะว่าการหลับเนี่ยเป็นปัจจัยที่ส่งผลกับร่างกายได้พอๆ กับการกินหรือการออกกำลังเลย ดังนั้นเราก็ควรจะทำทุกทางให้การนอนของเราเนี่ยสมบูรณ์แบบ
อย่างที่เขาบอกว่าการนอนหลับเป็นปัจจัยที่มีบทบาทมากกับสุขภาพ ถ้าเรานอนกันอย่างไร้คุณภาพไม่ถูกตามหลักเนี่ยทั้งกายทั้งใจเราก็จะแย่ตาม เรียกได้ว่าคุณภาพชีวิตเราขึ้นอยู่กับการนอนเลยก็ว่าได้ เอาง่ายๆลองคิดถึงวันที่เรานอนกันดึกมากๆ หรือนอนๆ อยู่แล้วมีเสียงหรือมีใครมารบกวนดูสิ ตื่นมามันทั้งหัวตื้อไปหมด เฉื่อยชาหาวทั้งวัน จะเรียนจะทำงานก็หนืดอืดกันไปหมดใช่มั้ยล่ะ
สโลแกน ของวันนอนหลับโลกปีนี้คือ Good Sleep is a Reachable Dream หรือแปลว่าการนอนหลับที่ดีคือฝันที่เอื้อมถึงได้ ซึ่งเขาบอกว่าจริงๆ แล้วคนที่หลับได้ดีอย่างที่ควรจะเป็นจริงๆ มีเพียง1/3ของประชากรโลกแค่นั้นเอง ส่วนคำว่าหลับที่ดีคืออะไร (ไม่ใช่หลับได้หลับดีนะเธอ) ต้องมีองค์ประกอบ 3 อย่างครบถ้วนนั่นคือ 1) ระยะเวลาการหลับที่เพียงพอ 2) หลับได้โดยไม่สะดุดไม่ถูกรบกวน 3) เข้าสู่ช่วงหลับลึกอย่างเพียงพอ ขาดอันใดอันหนึ่งไปก็ถือว่าเป็นการนอนหลับที่คุณภาพต่ำแล้ว (ฮือ)
ทางสมาคมเขายังบอกด้วยว่าจริงๆ คนเรามีโรคที่ไปรบกวนการนอนกันเยอะอยู่นะ แล้วโรคส่วนใหญ่ก็รักษาได้ด้วย แต่ก็ไม่ยอมไปหาหมอกัน เช่นโรค Sleep Apnea ที่ทำให้เราหยุดหายใจเป็นพักๆ เวลานอนหลับเนี่ย 17% ของผู้ชายและ 9% ของผู้หญิงเลยนะที่เจอว่าเป็น แล้วถ้าเป็นเนี่ยจะนอนคืนละ 10 ชั่วโมงตื่นมามันก็ไม่สดชื่นหรอกนะ อยากมีคุณภาพชีวิตที่ดีก็จงไปหาหมอซะ มันสามารถแก้ให้ดีขึ้นได้จริงจริ๊ง
หรือถ้าอยากจะลองปรับเปลี่ยนเองที่บ้านก่อนเขาก็แนะนำทริคเพื่อการนอนที่ดีมาให้หลายข้อ เช่น ห้องนอนควรจะมืดและเงียบที่สุดเท่าที่จะทำได้ , เตียงควรทำหน้าที่ของเตียงจริงๆ ดังนั้นทำเตียงให้น่านอนซะ ไอ้กองเสื้อยังไม่ได้รีด หนังสือ ชีทเรียน คอมน่ะเคลียร์ด่วน ไปวางตรงอื่น กับอีกทริคที่เขาบอกว่าขอให้ลองดูซักครั้งคือพอคิดว่าจะเข้านอนล่ะก็เอาโทรศัพท์มือถือไปไว้อีกห้องกันไปเลย ลดได้ทั้งการจิ้มเล่นเพลินๆ จนไม่ยอมนอน และการรบกวนที่มาตามมือถือ (เช่น เพื่อนเมาแล้วโทรมาดราม่าตอนตี 2 , ข้อความขยะชวนชิงโชคตอนเที่ยงคืน เป็นต้น)
หากเรานอนหลับกันอย่างมีคุณภาพ เขาก็บอกว่ามันดีกับสุขภาพทั้งกายทั้งใจจริงๆ นะ เอาที่เรารู้สึกได้เลยก็คือเราจะรู้สึกสดชื่น ไม่หงุดหงิดง่าย โฟกัสกับงานก็ได้ดีขึ้น ความจำดีขึ้น หากป่วยอยู่ก็จะฟื้นตัวเร็วขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยลดความเสี่ยงจากโรคได้หลายโรคเลยล่ะ โรคหัวใจก็ได้ ความดันสูงก็ช่วยได้นะ
เห็นมั้ยล่ะว่าการนอนนั้นส่งผลกับเราได้ทั้งทางบวกทางลบเลยล่ะ ดังนั้นอย่าละเลยหรือเห็นว่าเป็นแค่การพักผ่อนให้หายเหนื่อยเฉยๆ นะ หากมีปัญหาที่รบกวนการนอนรีบแก้ให้ไวเลยอย่ารอช้า คุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นอาจจะเริ่มได้จากการนอนนี้ก็ได้นะจ๊ะ :>
ที่มา: worldsleepday
ภาพ : giphy,giphy,stuffpoint