World Film Festival of Bangkok 2015 มีอะไรน่าดู

            เทศกาลภาพยนตร์ World Film Festival of Bangkok จัดต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 13 แล้ว โดยปีนี้จะจัดขึ้นในวันที่ 13-22 พ.ย.นี้ ที่ เอสเอฟเวิลด์ ซีเนม่า เซ็นทรัลเวิลด์ นี่เป็นโอกาสอันดีที่จะได้ค้นพบหนังแปลกใหม่หรือหาดูยาก เราจึงขอแนะนำ 5 โปรแกรมหนังเด็ดไม่ควรพลาดในงานนี้ 


           1. Arabian Nights (2015, Miguel Gomes)
    หนังของผู้กำกับชาวโปรตุเกสที่ขึ้นชื่อเรื่องการทำหนังที่พิศวงสุดๆ หนังสร้างจากนิทานอาหรับ One Thousand and One Nights (หรือที่บ้านเราเรียกกันว่า ‘อาหรับราตรี’ หรือ ‘พันหนึ่งราตรี’) แต่มันเป็นการตีความใหม่แบบที่ไม่มีใครคาดคิด เพราะมีทั้งยุคอดีต ปัจจุบัน อนาคต ปนมั่วกันไปหมด แถมหนังยังแบ่งเป็น 3 ภาค รวมแล้วยาว 381 นาที! ข่าวแว่วมาว่าตัวผู้กำกับจะมาร่วมงานนี้ด้วย


ตัวอย่างภาพยนตร์ Arabian Nights (2015)




            2. The Human Resources Manager (2010, Eran Riklis) 
    ผลงานของผู้กำกับอิสราเอลคนดัง หนังของเขาเรื่องก่อนหน้าอย่าง The Syrian Bride (2004) หรือ Lemon Tree (2008) ก็เคยมาฉายในเทศกาลบ้านเรา หนังว่าด้วยผู้จัดการฝ่ายทรัพยากรบุคคล (ตามชื่อเรื่อง) ที่ต้องนำศพลูกจ้างไปส่งให้ยังบ้านเกิดที่โรมาเนีย ถึงหนังจะเก่าไปหน่อย แต่ก็น่าดูทีเดียว


ตัวอย่างภาพยนตร์ The Human Resources Manager (2010)
            



            3. Almost Heaven (2014, Li Shih)
    ภาพยนตร์ไต้หวันที่เราไม่มีข้อมูลอะไรมากนัก (ขนาดว่ากูเกิลแล้วก็ยังหาอะไรไม่เจอ) แต่พล็อตเรื่องน่าสนใจมาก มันเล่าถึงหญิงสาวที่หนีหายจากสามีและลูกชายไปถึงสิบปี แต่แล้วอยู่ดีๆ วันหนึ่งเธอก็กลับมาบ้านราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น น่าติดตามว่าครอบครัวนี้จะสามารถกลับไปเป็นเหมือนเดิมได้หรือไม่



            4. Contempt (1963, Jean-Luc Godard)
    นอกจากหนังร่วมสมัยแล้ว ในเทศกาลยังมีส่วนของหนังคลาสสิกด้วย อย่าง Contempt ก็เป็นหนังดังของ Godard ผู้กำกับระดับปรมาจารย์ของกลุ่มฝรั่งเศสคลื่นลูกใหม่ (French New Wave) เนื้อเรื่องว่าด้วยชู้รักสามเส้าที่เกิดขึ้นกลางกองถ่ายหนัง เป็นการปะทะกันของความขัดแย้งเชิงศิลปะและอารมณ์มนุษย์  

            
            5. โปรแกรม Tribute to Hou Hsiao-Hsien
    เพิ่งมีหนังเรื่อง The Assassin เข้าฉายในบ้านเราไปหมาดๆ ทางเทศกาลจึงจัดโปรแกรมสดุดีให้แก่ Hou Hsiao-Hsien ผู้กำกับชาวไต้หวันท่านนี้ โดยเลือกหนังเรื่อง A Time to Live, a Time to Die (1985) เล่าถึงครอบครัวที่ต้องจากบ้านเกิดไปเมืองอื่น และ Dust in the Wind (1986) ว่าด้วยหนุ่มสาวที่ต้องพรากจากกันเพราะฝ่ายชายไปเกณฑ์ทหาร ส่วนฝ่ายหญิงก็แต่งงานกับชายอื่น


ติดตามรอบฉายและข้อมูลภาพยนตร์เรื่องอื่นๆ ได้ที่ worldfilmbkk.com