เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
คุณเชื่อในรักแรกพบไหม ?stfellove
สายเรียกเข้าที่ไม่คาดคิด
  •      แปลกไหมนะที่เราส่งดอกไม้ให้เขาทุกวันเเต่กลับเป็นเพียงการให้โดยไม่หวังผลตอบเเทนใดๆ หรือนี้คือการคาดหวังเเต่เราไม่รู้ตัวนะ 

        ประหลาดเหมือนกันนะ ที่เราให้ไปโดยที่เราไม่ได้สนใจเลยว่าผลตอบกลับมาจะเป็นยังไง อาจเพราะเรายุ่งจนไม่ได้ไปสนใจ พอว่างที่จะสนใจก็ไม่ใช่เวลาที่เหมาะสมกับการโทรกลับไปที่เมืองไทย 
        ถ้าจำไม่ผิด ดอกไม้ดอกเเรกที่ตัดสินใจให้น่าจะให้ในวันอังคารเป็นช่อดอกไม้สีชมพู ซึ่งมันอาจไม่ได้ใส่ใจในการจัดดอกไม้หรือใส่ใจในการเลือกสีดอกไม้ชนิดดอกไม้ เเต่ใส่ใจในการเขียนข้อความลงบนการ์ดมากๆ เพราะไม่ว่าจะยุ่งยังไงก็จะรีบมาคิดเเละพิมพ์ส่งให้ ซึ่งมันไม่ใช่การพิมพ์อะไรลงไปก็ได้นะ เเต่มันคือการคิดว่าจะใช้คำว่าอะไรดีที่จะสื่อความหมายในใจว่าเราอยากรู้จักพี่จริงๆนะ .....
        ฟังดูอาจเป็นเรื่องง่ายนะการที่สั่งให้ใครไปส่งดอกไม้ เเล้วก็เขียนสิ่งที่บอกลงไป เเต่จริงๆมันไม่ง่ายเลยนะ จะบอกให้ว่าถ้าอ่านมาถึงตรงนี้จะสังเกตุเห็นว่าเล่าเรื่องเเฟนไปถึง2คน เเต่ไม่ใช่การจีบเเต่เพียงอย่างใด ครั้งนี้สินะ จะเป็นครั้งเเรกที่จะจีบใครสักคน...

    •    จีบคนที่เขาไม่รู้จักชื่อเรา
    •    จีบคนที่เราไม่รู้จักเขาดี
    •    จีบคนที่ไม่เคยเเม้เเต่จ้องตากันเลยด้วยซ้ำ 
       
        ต้องใช้ความกล้าอย่างมากเพื่อตัดสินใจจพยายามทำให้ความรักครั้งนี้สำเร็จ 
         
        เลือกจะส่งดอกไม้ให้เขา ซึ่งโดยส่วนตัวเเล้วเป็นคนเเพ้ดอกไม้ เเละไม่รู้จักด้วยซ้ำว่า
    • ดอกไม้เป็นยังไง
    • ชนิดนี้สื่อถึงอะไร
    •  ต้องใช้ดอกไม้ชนิดไหนเพื่อจะสื่อความหมายอย่างงี้ 
    • จำนวนของดอกไม้เกี่ยวไหม 

            ทำไมถึงเลือกส่งดอกไม้ไปเพื่ออยากจะทำความรู้จักกับเขา ซึ่งตัวเราเองนั้นมีความคิดเเบบนี้ได้ยังไงนะ จนตอนนี้ก็ยังไม่รู้เลย ....

            อาจเป็นเพราะเมื่อครั้นตอนเราอายุ 13 ปี เราได้มีคนเข้ามาจีบครั้งเเรกเเละเขาได้ให้ดอกไม้เราทุกวัน ทุกวัน เเต่สุดท้ายเเล้วเรากับเขาก็ไม่ได้เป็นเเฟนกันนะ 
        เห้ย ขนาดเราได้ดอกไม้ทุกวันเรายังไม่เลือกเขาเป็นเเฟน เข้าใจเเละ เเสดงว่าครั้งนี้ถ้าเขาจะไม่เลือกเราเป็นเเฟนก็คงไม่เเปลก เวรกรรมเเท้ๆ ชิบหายละ นี้พึ่งคิดได้เลยนะเนี่ย ....
      
  •         ปกติด้วยนิสัยของตัวเอง เป็นคนทำไรโครตจริงจังอ่ะ เเบบถ้าต้องอ่านหนังสือก็จะอ่านหนังสือ ถ้าต้องทำงานก็จะทำงาน เเละนี้ก็เป็นอีกอย่างนึงที่ทำให้เราไม่ได้สนใจอะไรมากมายนักอาจเป็นเพราะเราไม่มีความจำเป็นต้องทำอะไรในโทรศัพท์ เลยไม่ได้เล่นเเบบจริงๆจังอ่ะ 
        ซึ่งมารู้ตัวอีกทีคือคุณตุ๊ก ไลนมาเยอะมาก ไลนมาถามว่าจะเอาควอทอะไร เราเลยตัดสินใจคืนนั้นทำควอทเป็นเเถวๆ เเละให้เขาเลือกใส่ลงไปเองเลย เพราะเรากลัวว่าเราจะทำให้เขาส่งช้า เเละเป็นปัญหาเพราะเราอีก 
         ซึ่งเราได้เล่นโทรศัพท์ก็ตอนจะนอนมาก็จะเช็คมาเซฟรูปดอกไม้เเล้วเอาไปปรินท์ เเละเก็บไว้ในไดอารี่ 
       เราเป็นคนชอบเขียนไดอารี่ด้วยนะ เป็นไง ตกใจใช่ป่ะ 55555555555 

       บางวันบังเอิญเดินไปเจอฟ้าสวยๆก็หยิบ โพลารอยด์ขึ้นมาถ่ายไว้ หรือบางวันเดินไปเจออะไรที่มันดีๆ ก็อยากจะเก็บไว้ 
        เคยมีวันนึง ลืมกล้องไปหยิบโทรศัพท์มาถ่ายเเล้วรูปมันหายก่อนจะได้ปรินท์หรือบันทึกลงไป ตอนนั้นหัวเสียมากโวยวาย ด้วยความที่เอาเเต่ใจมาก จนตอนนั้นเหมือนเเม่จะนั่งฟังอยู่นาน เเม่บอกว่า
          แม่ : กล้องที่ดีที่สุดคือกล้องที่ติดมากับเราตั้งเเต่เกิดเเละเครื่องปรินท์ที่ดีที่สุดคือสมองเรา มันจะสามารถจำทุกอย่างที่เราเห็นเเละจำความรู้สึกในตอนนั้นได้ด้วย 

         หลังจากวันนั้นก่อนที่เราจะหยิบกล้องขึ้นมาถ่าย เราหยุดมองก่อนขอเก็บรูปนั้นช่วงเวลานั้นด้วย กล้องที่เราพกมาตั้งเเต่เกิดอันนี้ก่อนเเละค่อยหยิบกล้องขึ้นมาถ่ายเก็บไว้อีกที ถึงเเม้สมองกับตาจะดีก็จริงเเต่ก็ยังชอบเก็บรูปถ่ายไว้ เพราะมันทำให้เราเห็นว่าสิ่งที่เคยมีตรงนี้มันมีอยู่จริง ไม่ใช่ความฝัน ไม่ใช่จิตใต้สำนึกของเรา ที่ทำให้มันเกิดขึ้นมา นี้อาจเป็นข้อเสียเครื่องปรินท์ของเเม่ก็ได้

  •    แม่ : ลูกไปจีบใครมาป่าว เขาโทรมาถามว่าลูกเป็นใคร อะไรยังไง
       พี่ใหญ่ : ห้ะ อะไรยังไง ผม งง
       เเม่ : ก็เขาบอกว่าลูกไปส่งดอกไม้ให้เขาที่ทำงานทุกวันเลย 
       พี่ใหญ่ : อ่อครับ (เเล้วก็รู้ว่าเป็นเรา เเต่พี่เราก็ดีนะ ) ผมไปเจอผู้หญิงคนนึงมา เขาผมบลอนด์สวยมากครับเเม่ 
       เเม่ : เขาไม่ค่อยพอใจนะ มาขอโทษเขาด้วย
       พี่ใหญ่ : ทำไม เขาไม่พอใจ ผมยังไม่ทำไรให้เลยนะ
       เเม่ : เขาบอกว่าถ้าอยากรู้จักให้โทรมา เเม่ว่าเขาเป็นคนที่คงไม่ชอบความโรเเมนติก เเบบนี้มั้ง
       พี่ใหญ่  : ครับ 
        
    เเละเมื่อพี่ใหญ่วางโทรศัพท์ พี่เขาก็คงไปทำงานเขาต่อ จนเมื่อเรากลับมาถึงห้อง พี่เขาก็เล่าให้ฟังว่าเเม่โทรมา
       พี่ใหญ่ : เเม่โทรมาเรื่องรักเเรกเเกอ่ะ 
       เรา : เเม่รู้ได้ไงอ่ะ
       พี่ใหญ่ : ก็เขาโทรเข้าบริษัทมา 
       เรา : เเละเขาโทรมาได้ไงอ่ะ
       พี่ใหญ่ : พี่จะรู้ไหม เเต่เหมือนจะไม่สำเร็จว่ะ เขาบอกว่า ให้เเกถ้าอยากรู้จักให้ไปคุยไม่ต้องส่งดอกไม้มาให้
       เรา : อ่อ ช่างมันเหอะ คิดไว้อยู่เเล้ว ( ในใจ ก็เตรียมใจผิดหวังนะ เเต่ไม่คิดว่าจะเร็วขนาดนี้ ) 
      
        สงสัยไหมทำไมเเม่ถึงคิดว่าเป็นพี่ใหญ่ ?
         อ่ออก็เพราะ เเม่รู้ว่าเราเป็นคนงิ่มๆ ไม่เคยทำไรประเจิดประเจ่อขนาดนี้ เเต่พี่ใหญ่เราทำบ่อย เเต่มีเรื่องที่เเม่ไม่รู้เรื่องนึง คือ 'พี่ใหญ่ไม่ชอบผู้หญิง หลังจากที่เลิกกับเเฟนตอนม.ต้นไปก็ชอบผู้ชายจริงจัง'

        หลังจากวันนั้นเราก็นอนคิดถึงประโยคที่พี่ใหญ่บอกว่าให้เราโทรไปคุยกับพี่เขา เราก็ยังคิดว่า ใครบ้าที่ไหนมันจะกล้าไปคุยว่ะ เเต่ก็รู้สึกว่ากว่าเราจะเเก้โจทย์คณิตออกในเเต่ละครั้งมันไม่ใช่ครั้งเดียวที่จะเเก้ออกเลย มันต้องตั้งหลายครั้ง หรือเราจะลองเข้าหาพี่เขาอีกสักทีดีละ เเต่ก็ไม่รู้ว่าจะทำได้ยังไงนั้นนะสิ 
        เเต่ตอนนั้นตอนที่อยากรู้จัก ไม่คิดว่าอยากรู้จักพี่เขาจากปากคนอื่น อยากรู้จักพี่เขาจากการศึกษาเอง เเต่วันนี้เริ่มอยากรู้เเล้วสิ ว่า

    • พี่เขาเป็นคนยังไง 
    • พี่เขาชอบคนเเบบไหน 
    • งานอดิเรกเขาคืออะไร 
    • เเละที่สำคัญพี่เขาจะนิสัยเข้ากับเราได้เหมือนที่เราชอบเขาไหมนะ 

    คำถามเเบบนี้พุดขึ้นมาในหัวอีกครั้ง ครั้งเเล้วครั้งเล่า ก็ยังหาข้อสรุปไม่ได้สัทกี เห้ออ

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in