ผมสะดุ้งตื่นเพราะมือถือสั่นที่ข้างหมอน
แค่โพสรูปๆเดียวกับแคปชั่น ทำเป็นตกใจกันหมด
….แต่ความจริง ผมก็ดีใจกับตัวเองไม่ใช่เล่น
เพราะไม่ใช่ทุกวันที่จะมีนางฟ้าเป็นของตัวเองนี่ฮะ
เรานัดเจอกันที่ร้านเจลาโต้แถวมหาลัย โคเว้นท์ การ์เด้นไม่เคยเงียบเหงา มักเต็มไปด้วยผู้คนและนักท่องเที่ยวที่เดินขวักไขว่ แม้จะยามบ่ายวันพุธ
บางทีผมเอือมระอาพื้นที่ย่านดังกลางลอนดอน
ผิดกับคนผมหยิกตรงหน้า ที่กำลังและเล็มไอศครีมทิรามิสุของตัวเองอย่างอารมณ์ดี
เขาว่าไม่มียาวิเศษหรือกระสุนเงินที่จะคลี่คลายปัญหารุงรังของเราได้
ผมว่ามองตาพี่นายเหมือนการรักษาเยียวยาทุกสิ่ง
ส่วนคุณ(คง)ว่าความรักบิดเบือนมุมมองผมต่อโลกภายนอกสำเร็จแล้ว
จะให้อธิบายอิทธิพลของเสียงเทเนอร์หวานต่อความเครียดของผมยังไงคุณก็อาจไม่เข้าใจ
ความรักไม่ได้เป็นกุญแจอเนกประสงค์ที่ไขประตูออกทุกบานหรอก ผมรู้
เพียงให้มีคนๆหนึ่งให้เราคอยแบ่งปันชีวิตที่กำลังพยายามอยู่ด้วย
มีคนที่ไม่จำเป็นจะต้องเข้าใจเราทุกเรื่อง ไม่ได้ชอบอะไรเหมือนกันหมด ไม่ได้เคยรู้จักอะไรที่เรารู้จัก
แต่เป็นคนที่ยอม
ยอมเหมือนเรายอมเขา
ยอมแบ่งเวลาให้กัน ยอม พยายามเข้าใจ รับฟังเวลาผมไม่ใช่เวอร์ชั่นที่ดีที่สุด
พูดคุย ตักเตือน ทวงให้ผมดูแลตัวเอง
พร้อมจะขยับจัดการตารางชีวิตไปด้วยกัน
สนับสนุนกันในสิ่งที่ต่างคนรักเหมือนเราเป็นละครเวทีเรื่องใหม่ในชีวิต
เรื่องที่ผมขออย่าให้จบลงง่ายๆ
“แบร์ ดูสิ” พี่นายเรียกผมเบาๆ เรานั่งตรงข้ามกันที่โต๊ะกลมตัวเล็กสีขาวหลังร้าน เจ้าตัวยกช้อนเล็กขึ้นชี้ผม
“ฮะพี่นาย” ผมเลียสแตร็กคิอาเตลล่าบนช้อน รสวานิลลาหวานติดปลายลิ้นตัดกับช็อกโกแลตขม
เจลาโต้สกู๊ปเดียวหมดอย่างรวดเร็ว
เร็วจนผมยังรู้สึกว่ากินไปไม่เต็มที่
(ก็มันอร่อยสุดในลอนดอนนี่นา)
พี่นายยิ้มเอ็นดูให้กับสายตาผิดหวังของผม
“เราใส่เสื้อสีเดียวกันเลย”
ผมหัวเราะ ก้มลงมองเสื้อยืดสีดำของตัวเอง
“บังเอิญ” ผมว่า วางช้อนลงในถ้วยกระดาษที่ความว่างเปล่าเหมือนจะล้อผมกลับ
เท้าแขนกลางโต๊ะแล้วเอนตัวเข้าใกล้พี่นาย
“แต่จะไม่ให้บังเอิญก็ได้--“
พี่นายเลิกคิ้ว จ้องผมนิ่ง
ผมคว้ามือพี่นายมากุม
“--เป็นแฟนกับผมนะฮะ”
ความสุขคือความรู้สึกที่ยากจะอธิบาย
ความรู้สึกชนิดที่คุณก็คงรู้สึกว่าใช่ก็ต่อเมื่อได้รู้สึกถึงมันนั่นแหละ*
ความรู้สึกวินาทีที่ริมฝีปากคนข้างตัวสัมผัสต้นแขนผม
ลมหายใจใกล้ตัวจนอยากจะรีรันเหตุการณ์บนเตียงเมื่อคืน
“ตื่นก่อนพี่เป็นด้วยหรอเรา”
ผมกลอกตา เอื้อมมือไปวางมือถือไว้ที่โต๊ะข้างเตียง
“มีโนติเตือนน่ะพี่” หย่อนตัวกลับลงเตียง ขยับไปเบียดที่นอนของคนข้างตัว
“นาฬิกาปลุกดีๆนี่เอง”
พี่นายจูบไหล่ผม
“สำคัญรึเปล่า”
ผมยิ้ม
“จะว่าสำคัญก็ได้--“ ผมหลับตา คิดถึงรูปถ้วยเจลาโต้กับช้อนคู่สองคันที่ปักสกู๊ปสแตร็กคิอาเตลล่าอยู่
“รอพี่ดูเอาเองละกัน”
//
ฟฟฟฟฟ แบร์อนาย!!!
แนบเพลง:
ชอบเวอร์ของ คริสติน เชียวโนเวท์ (เทพธิดาอีสต์เตอร์ของ American Gods, กลินด้าดั้งเดิมของละครเพลง Wicked) ที่หวานมาก จะฟังเวอร์
Beatles ก็น่ารักอีกแบบ
พูดตรงๆเหมือนน้องฟินน์ว่ายังไงคนเขียนก็คิดถึงค่ะ
.... เราจะไปถึงวันที่ 31 ด้วยกัน :3
<3
ชอบไม่ชอบยังไงติชมได้เลยค่ะ คุยกับเรา เม้นท์ข้างล่าง รบกวนกดบอกคนเขียนด้วยน้าว่าเป็นไง
ขอบคุณทุกคนที่รับแบร์อนายไว้ในอ้อมอก และ ขอบคุณทุกกำลังใจเสมอค่ะ
x
ข้าวเอง.
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in