สัมผัสสุดท้ายย่อมมีความหอมหวานของมัน
เด็กหนุ่มนั่งหน้าทะเล้นอยู่ปลายเตียงผม ร่างเปลือยเปล่าสวมหมวกรับปริญญาไว้หลวมๆ บังผมสีดำขลับที่ยังชี้โด่เด่ไม่เป็นทรง
“เรียนจบแล้วนะ” ผมว่า หยิกแก้มแฟนในชุดครุยเบาๆ “เจอโลกนอกรั้วมหาลัยได้แล้ว”
(ใครจะคิดว่า ‘เรา’ จะอยู่เป็น ‘เรา’ ได้นานขนาดนี้
จากแก้ววิสกี้ถึงจูบต้นฤดูร้อน
แรงดึงดูดและความใคร่ที่กลายเป็นความสัมพันธ์ระหว่างคนแปลกหน้าสองคน)
แบร์ทำหน้ามุ่ย หยิบมือผมขึ้นมาจูบ
“พี่นาย....” เด็กหนุ่มเรียกชื่อผมด้วยเสียงหนักแน่น โทนกระเซ้าเย้าแหย่คุ้นหูหายไปเสียสิ้น
“—อย่าเอาความจริงมาพูดตอนนี้สิฮะ”
แผ่นหลังผมชิดประตูที่เพิ่งปิดลง ร่างตรงหน้าไม่ยอมละมือจากตัว ทันทีที่เราได้โอกาสอยู่ลำพังสองคน
แขนแข็งแรงโอบเอวผมแนบตัว ปากบรรจงจูบซอกคอ
ลมหายใจอุ่นยังรวยรินระหว่างเรา
“พี่นาย....” เสียงต่ำพร่ำคำเดียวซ้ำๆ ขณะเราก้าวเข้ามาในห้อง “พี่นาย...”
นิ้วปลดกระดุมเสื้อผมลงอย่างรีบเร่ง
หัวใจเต้นกระแทกอกเหมือนเป็นครั้งแรก
ความไม่แน่นอน
ความไม่แน่นอนไม่ใช่หรือที่ทำให้สัมผัสครั้งนี้เร้าใจนัก
ที่ทำให้รอยจูบ รสลิ้น เสียงลุกลนของคนรัก หอมหวานในความทรงจำ
ผมนั่งพิงพนักหัวเตียง ดึงผ้าห่มขึ้นคลุมตัว สายตาพิจารณามองแฟนตรงหน้าเงียบๆ
ถ้าชีวิตเป็นหนัง เราสองคนก็อาจได้เจอกันอีกก่อนองค์สองจะจบลง
ถ้าชีวิตเป็นหนัง ผมคงหวลกลับมาหาคืนนี้ได้ซ้ำๆ
ถ้าชีวิตเป็นหนัง เด็กหนุ่มนัยน์ตาซุกซนของผมคงไม่ต้องหนีห่างไปไหนไกล
สัมผัส ลมหายใจ ร่างกายของอีกคนที่ผมรู้จักดีเกินพอ คงไม่ถูกบันทึกเป็นเพียงเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้น
จุดอ่อนที่ติ่งใบหูของเขา
ปากและลิ้นที่กระตุ้นปลายประสาทตรงซอกคอของผม
กระแสเสือดที่สูบฉีดเร็ว แรง พร้อมเสียงหอบ ลึก รัว ราวขาดอากาศหายใจ เมื่ออีกฝ่ายสัมผัสผมตรงจุด
“แบร์—“
ในตัวเหมือนถูกหลอมละลายเป็นร่างว่างเปล่าอยู่บนเตียงนอน ความคิดวิ่งรนในเขาวงกตที่มีทางออกแต่เขา และ เขา เท่านั้น
“—แบร์...”
ใกล้เข้ามาอีก เร็วกว่านี้ เสียงในหัวผมเรียกร้อง
ทั้งที่รู้ดีเมื่อครึ่งชั่วโมงก่อนหน้าว่าเราควรจะค่อยรีรอ ยืดเวลาชั่วคืนที่ให้แก่กันได้
ทำพี่อีก
ทำพี่สิ
ผมอยากจะกรีดร้อง
หากที่เล็ดลอดจากริมฝีปากกลับเป็นเสียงครางยาว
มือข้างหนึ่งยังกำผ้าปูเตียงแน่น
อีกข้างเกาะแผ่นหลังขาวของคนรักไว้
แบร์ก้มลงจูบผมขณะร่างเราเคลื่อนไหวเป็นหนึ่ง
เราควรจะรอเวลาไม่ใช่หรอ
“....ผมรักพี่นายนะฮะ”
เราควรจะใจเย็นกว่านี้สิ
“พี่รู้”
แต่เราก็ควรจะรู้ว่าสติพี่หายไปตั้งแต่จูบแรกของคืนนี้
สัมผัสเบาของริมฝีปากนุ่ม ที่ทำใจผมเกเร
ที่ทำความคิดและเหตุผลน้อยนิดที่หลงเหลืออยู่นั่นหลุดลอย
เรารู้ใช่ไหม
“พี่รู้อยู่แล้ว แบร์”
เราน่าจะรู้สิ
สักพักแบร์หลับตา โยนหมวกทิ้งไว้ข้างเตียง
“ผมยังไม่อยากนอน” เด็กหนุ่มพูดขึ้นตรงๆ ก่อนจะกระโจนเข้ามาซุกตัวกับอกผม
กลายเป็นหมาป่าน้อยที่ดูไร้พิษสงอีกแล้ว
ผมลูบหัวแบร์ ยีผมยุ่งๆนั้นอย่างเคยชิน
“งั้นก็ไม่ต้องนอน”
(จะยอมตามใจเรื่องนี้ก็แค่คืนนี้
หนุ่มของผมใช่เด็กแล้วซะเมื่อไหร่)
แฟนผมยิ้มกว้าง เอาปลายจมูกถูกับแก้มผมเบาๆ
“พี่นาย--“ คราวนี้เสียงมากับแววตาละห้อย ที่ดูขัดตาสีฟ้าสดใสคู่นั้นเหลือเกิน
“—แค่นี้ผมก็คิดถึงพี่จะแย่...”
ผมส่ายหน้า ไล่นิ้วตามแผงอกคนข้างตัว
“อย่าห้ามพี่เลย” ผมตอบ หอมแก้มแบร์อย่างห้ามตัวเองไม่ได้
“เรามีอยู่คนเดียวในโลกนะ”
แบร์หายใจเข้าแรง กลิ้งตัวมาคร่อมร่างผม
“พูดยังงี้--“ เด็กหนุ่มลดเสียงกระซิบ ยิ้มเจ้าเล่ห์ที่มุมปาก “--รักผมเข้าแล้วล่ะสิ”
ผมหัวเราะ ดึงร่างแฟนเข้ามากอด
“รักมาก--” ผมเสยผมแบร์ให้พ้นตา
“--รักมานานแล้วด้วย."
//
แนบเพลง:
จากโมเม้นเล็กๆ ละมุน แบบที่คุณ @PD704101 พูดถึง มาบูม! ตรงนี้เลย
แถมกาแฟดำไม่ใส่น้ำตาลค่ะ5555
หวาน แบบพี่นายไม่ได้มาแค่เสียงเหมือนตอนที่แล้วนะบี @quiddity8
อิจฉาแบร์ละซี่ อิอิ > <
/ยื่นหมอนให้น้องดาว @_ddddow
และขอบคุณน้องดาวกับน้องแป้ง @pang_ppacx ที่ให้กำลังใจเสมอมา <33
ชอบไม่ชอบยังไงกดด้านล่างบอกได้เลยนะคะ เม้นบอกคนเขียน คุยกับเรา
อยากรู้ว่าคุณคิดยังไง
มาคุย / ทักทายกันได้ที่ทวิต @_XDolan นะคะ <3
ติชม #kpfic เลย
20 วันแล้ว แบร์อนาย เราจะก้าวไปถึง 31 ด้วยกันค่ะ ^^
ขอบคุณสำหรับทุกกำลังใจเสมอ
x
ข้าวเอง.
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in