ผมโคตรรักการวิ่งเลยนะ เวลาคุณเมาค้างคุณคิดว่าคุณคงไม่ไหวแล้ว
แต่หากได้ออกกำลังกายทุกอย่างมันจะดีขึ้นเองนั่นแหละ
- Liam Gallagher -
สวัสดีนักอ่านทุกท่านในยามเย็นของวันฝนพรำ
กลับมาพบกันอีกครั้งกับ Rejio time รายการวิทยุที่ต้องอาศัยการอ่านและใช้ใจในการฟัง
หัวข้อที่เราจะพูดถึงกันในวันนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับการ 'วิ่ง' ค่ะ
ขอเกริ่นก่อนเลยว่าตอนสมัยเราอายุ 15 ปี การวิ่งเป็นกิจกรรมที่เราเกลียดมากที่สุด เพราะนอกจากเหนื่อยจนแทบหายใจไม่ทันแล้ว มันยังเป็นกิจกรรมที่ทำให้วันถัดมาร่างกายยังล้าจนไม่อยากลุกออกจากเตียง นับตั้งแต่ตอนนั้นก็ผ่านมาเป็นเวลา 8 ปีซะแล้ว ตอนนี้เรากลับกลายเป็นคนที่ชอบวิ่งอย่างน้อยวันละ 4 กิโล
จุดเริ่มต้นที่ทำให้เราเริ่มออกกำลังกายคงคล้าย ๆ กับหลาย ๆ คน นั่นคือ 'การลดน้ำหนัก'
เมื่อเข้าสู่ช่วงมัธยมปลาย การกินขนมและกาแฟกลายเป็นปัจจัยที่สำคัญในการอ่านหนังสือ นานวันเข้ากิจวัตรที่เอาแต่นั่ง ๆ นอน ๆ ไม่ค่อยได้ลุกไปไหนก็ทำให้ไขมันในร่างกายมันสะสมจนเพิ่มสูงอย่างรวดเร็วโดยไม่ทันรู้ตัว มาเห็นตัวเองอีกทีก็ตอนขาสองข้างของเราก้าวขึ้นไปบนตาชั่งแล้วพบว่าน้ำหนักเพิ่มขึ้นมาจากเดิมถึง 7 กิโลกรัม พอเห็นดังนั้นเราเลยทุ่มเวลาว่างตอนรอมหาลัยเปิดเทอมในการลดน้ำหนักอย่างเอาจริงเอาจัง ทั้งการกินคลีน ลดน้ำหวาน และวิ่งทุกวัน
ท่านไหนที่ออกกำลังกายเป็นประจำก็อาจจะรู้ดีว่ามันเป็นเรื่องยากที่เราจะคงความสม่ำเสมอให้เราออกไปออกกำลังกายทุกวัน แต่เมื่อเราทำมันไปถึงจุดหนึ่ง วันไหนที่ไม่ได้ออกกำลังกายกลับทำให้เราโหยหามันซะอย่างนั้น นั่นเป็นเพราะเราเสพติดฮอร์โมนแห่งความสุขที่เราได้มาจากตอนออกกำลังกายนั่นเอง
อย่างที่หลาย ๆ คนทราบกันดีกว่าการวิ่งเป็นการออกกำลังกายประเภทแรก ๆ ที่คนมักนึกถึง โดยการวิ่งเป็นการออกกำลังกายแบบ Cardio ที่ช่วยสร้างเสริมให้ปอดและหัวใจมีความแข็งแรง เพราะมีการนำออกซิเจนมาใช้ในปริมาณมากและมีความต่อเนื่องเป็นระยะเวลานึง อีกทั้งการวิ่งเป็นการออกกำลังกายที่สามารถทำได้ง่าย เพียงแค่มีรองเท้าผ้าใบดี ๆ สักหนึ่งคู่ การวิ่งจึงกลายเป็นกีฬาที่เป็นที่นิยมของคนส่วนมาก
แม้ว่าจะการวิ่งจะเป็นออกกำลังกายที่สามารถทำได้ง่าย แต่จุดที่เราคิดว่าอาจทำให้คนหลายคนที่เริ่มวิ่งท้อแท้กับการวิ่งน่าจะเป็น 'ความเหนื่อย'
ไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกายแบบไหน นักอ่านทุกท่านก็คงทราบกันอย่างแน่นอนว่าเราต้องเหนื่อยอยู่แล้วถูกไหมคะ ที่สำคัญคือเราจะทำยังไงให้เรายังคงอดทนกับความเหนื่อยและวิ่งต่อไปได้
วันนี้เราเลยจะมาพูดถึงกลไกของร่างกายอย่างหนึ่งที่เรียกว่า Runner's high
Runner's high เป็นอาการที่เกิดเมื่อเราออกกำลังกายหนักหรือออกกำลังกายเป็นระยะเวลานาน แต่เรากลับรู้สึกผ่อนคลายและมีความสุข สามารถที่จะออกกำลังกายต่อไปได้เรื่อย ๆ
กลไก Runner's high เป็นวิวํฒนาการมาจากการเป็นนักล่าของมนุษย์เมื่อก่อน โดยทำให้ร่างกายของเราสามารถทนกับระดับความเครียดทางกายภาพได้จากการออกล่าสัตว์และเดินทางเป็นระยะเวลานาน ทำให้เราสามารถออกล่าและหนีสิ่งที่เป็นอันตรายได้นานยิ่งขึ้น ซึ่งกลไกหลัก 2 อย่างที่เกี่ยวกับ Runner's high จะประกอบไปด้วย
1.กลไก Opiod เป็นกลไกที่เกี่ยวข้องกับการหลั่งสารความสุขหรือ Endrophins ที่เรารู้จักกันดีนั่นเอง ซึ่งนอกจากจะทำให้เรามีความสุข เจ้าสารตัวนี้ยังช่วยลดความเจ็บปวดอีกด้วย
2.กลไก Endocannabinoids เป็นกลไกที่เกี่ยวข้องกับการหลั่ง eCBs ซึ่งเป็นสารชนิดเดียวกับที่เกิดจากการเสพกัญชา ซึ่งร่างกายของเราสามารถหลั่งออกมาได้เอง เจ้าสารตัวนี้จึงทำให้เราเป็นสุขจากการออกกำลังกาย
อย่างไรก็ตามการออกกำลังกายที่ให้เกิดกลไก Runner's high ขึ้นนั้นอาจขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของแต่ละคน ไม่ว่าจะเป็นระยะเวลาและระดับความหนักของการออกกำลังกาย ดังนั้นเราควรจะค่อย ๆ ปรับเปลี่ยนรูปแบบการออกกำลังกายไปตามสภาพร่างกายของแต่ละคนค่ะ
นอกเหนือจากประโยชน์จากการวิ่งที่หลาย ๆ ท่านคงทราบดีว่าช่วยทำให้สุขภาพของเราแข็งแรง เสริมสร้างภูมิคุ้มกันต่าง ๆ จากประสบการณ์ส่วนตัวและการหาข้อมูลเพิ่มเติมทำให้เราค้นพบว่าการวิ่งเป็นกิจกรรมที่ช่วยเยียวยาจิตใจได้ดีอีกอย่างหนึ่ง เพราะนอกจากจะทำให้ฮอร์โมนแห่งความสุขหลั่งแล้ว ยังเป็นช่วงเวลาที่ทำให้เราได้อยู่กับตัวเองอีกด้วย
เราค้นพบว่าช่วงระยะเวลาเพียงแค่ 30 นาทีที่ได้หลีกหนีจากความวุ่นวายและความเร่งรีบของชีวิตประจำวัน มาฟังเสียงลมหายใจและฝีเท้าของตัวเองเป็นช่วงเวลาที่ช่วยบรรเทาให้สมองที่เต็มไปด้วยความคิดมากมายสงบลงบ้าง คงเป็นเพราะมัวแต่โฟกัสอยู่กับความเหนื่อยและเส้นทางการวิ่งด้วย เลยทำให้เราอยู่กับตัวเองมากขึ้น ถ้านักอ่านท่านใดมีเวลาว่างก็อยากจะชักชวนออกไปวิ่งกันค่ะ
อย่างไรก็ตามเหตุผลของการออกไปวิ่งของแต่ละคนคงแตกต่างกันไป สำหรับคนที่มีแรงบันดาลใจอยากจะเริ่มต้นทำอะไรสักอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องง่าย ๆ อย่างการตื่นเช้า การออกกำลังกาย หรืออาจจะเป็นเรื่องยาก ๆ อย่างเช่นการฝึกเล่นดนตรี หรือกระทั่งการเดินตามความฝัน
เราคิดว่าจุดที่สำคัญที่สุดในการทำอะไรบางอย่างคงจะเป็นจุดที่เราตัดสินใจที่จะเริ่มต้นเพราะหากเราไม่ได้เริ่มทำ สิ่งที่เราหวังให้เป็น มันคงไม่เกิดขึ้น
ในบางครั้งเวลามันก็เดินไปเรื่อย ๆ และโอกาสมันก็ไม่ได้มีไปตลอด
ดังนั้นการเริ่มต้นทำอะไรง่าย ๆ ที่เราได้ตั้งเป้าหมายไว้อาจจะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการเริ่มต้นทำสิ่งที่ยาก ๆ ในอนาคต
ก่อนจะจากกันไป อีกเช่นเคยค่ะ เราอยากจะแนะนำบทเพลงดี ๆ สักหนึ่งบทเพลง เนื่องจากอุตส่าห์นำคำพูดของคุณ Liam Gallagher มาขึ้นต้นบทความ เราเลยจะขอแนะนำเพลงของเค้าค่ะ
เพลงนี้มีชื่อว่า 'ONCE'
It was easier to have fun back when we had nothing
มันเป็นเรื่องง่ายที่จะกลับไปทำตัวสนุก ในยามที่เราไม่มีอะไร
Nothing much to manage
ไม่มีอะไรให้จัดการมากนัก
Back when we were damaged
ในยามที่เรากำลังผุพัง
Sometimes the freedom we wanted feels so uncool
บางครั้งเราก็แค่ต้องการเป็นอิสระ ไม่ต้องทำตัวเจ๋งอะไรให้มากนัก
ในบางครั้งสิ่งที่เยียวยาจิตใจของเราได้ มันอาจจะเป็นสิ่งที่ไม่ได้ซับซ้อนอะไรเลย
แล้วพบกันใหม่ ณ ที่นี่ Rejio time
เครดิตแปลเนื้อเพลง: https://www.beartai.com/lifestyle/346768
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in