ปริศนาด่านปีศาจอวี้เหมิน เล่ม 1-2
ผู้เขียน : Wei Yu
ผู้แปล : สนสราญ
ENTER BOOKS
4 เล่มจบ

*รีวิวนี้มีการเปิดเผยเนื้อหาบางส่วน*

          กำลังมองหาใครสักคนมาร่วมกรี๊ดไปด้วยกันเพราะจู่ๆ ENTER BOOKS ก็ปล่อยระเบิดลงมาว่า "LC งานของเหว่ยอวี๋มานะ จะเปิดขายเร็วๆ นี้แหละ" จากนั้นก็ตู้มมม สมงสมองไปหมดเลย

          เราชอบงานของคุณเหว่ยอวี๋มากกกก รู้จักเรื่องแรกก็ ครึ่งปีศาจซือเถิง ของ ENTER BOOKS นี่แหละ จำได้ว่าอ่านแล้วติดงอมแงม แต่ว่ามาหลงรักแบบถอนตัวไม่ขึ้นก็ตอนได้อ่าน ลางสังหาร ไขคดีพิศวง ซึ่งตีพิมพ์กับทางสยามอินเตอร์บุ๊คส์

          งานของคุณเหว่ยอวี๋อีกเล่มที่มีแปลเป็นไทยคือ คดีปีศาจแห่งเมืองไคเฟิง แต่เรื่องนี้เราไม่ได้อ่านเพราะพล็อตไม่โดนใจเราเลยข้ามไป แต่ต้องบอกว่าเราชอบบรรยากาศนิยายคุณเหว่ยอวี๋มาก มันเป็นแนวลึกลับ ไขปริศนา มีสิ่งเหนือธรรมชาติ บวกกับแบ็คกราวนด์สถานที่ในจีนที่ค่อนข้างลึกลับ คนไทยไม่ค่อยรู้จัก มีตำนานเล่าขานพอให้รู้สึกอกสั่นขวัญหาย

          เพราะฉะนั้นตอนลางสังหารฯ ออกมาเราจึงติดงอมแงม ใจจดใจจ่อรอหนังสือออกทีละเล่มๆ ทุกเดือน ห่างหายไปนาน ENTER BOOKS ก็พาความรู้สึกนั้นกลับมาอีกครั้งด้วยการปล่อย ปริศนาด่านปีศาจอวี้เหมิน มา ซึ่งเป็นพล็อตที่เราคุ้นเคยจากลางสังหารฯ และตอนที่อ่านเราเจอเซอร์ไพรส์อย่างนึง เดี๋ยวบอกว่าคืออะไร

          เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นที่โรงละครเชิดหุ่นเงาเล็กๆ ไม่มีชื่อเสียงอะไร ชายชราคนหนึ่งทำหน้าที่เชิดหุ่นให้นักท่องเที่ยวดูฆ่าเวลาอยู่ที่นั่น เขาพบว่าหลายวันมานี้มักจะมีหญิงสาวคนหนึ่งซื้อตั๋วเข้ามาดูเสมอ เธอท่าทางลึกลับและบางอย่างก็ทำให้ชายชราคนนี้รู้สึกแปลกใจเลยหาโอกาสเข้าไปพูดคุย

          ผู้หญิงคนนี้ชื่อ เยี่ยหลิวซี และมาตามหาหลานชายของชายชราที่ชื่อว่า ชางตง คนคนนี้คือชายหนุ่มที่เชี่ยวชาญการเดินทางในทะเลทรายโกบี ทำหน้าที่นำทางให้คณะเดินทางมาหลายต่อหลายครั้ง ฝีมือเจนจัดจนถูกขนานนามว่า เขี้ยวทะเลทราย

          เยี่ยหลิวซีอยากให้ชางตงนำทางเธอเข้าไปในทะเลทราย แต่ชายชราก็บอกไปตามตรงว่าตอนนี้หลานชายตายไปแล้ว เหตุเพราะสองปีก่อนชางตงนำทางกลุ่มนักผจญภัยที่ชื่อ คามีเลีย เข้าไปในทะเลทรายแต่แล้วเขากลับเปลี่ยนจุดพักของคณะไปยังเนินทรายหินกุหลาบเพียงเพราะต้องการจะขอแฟนสาวอย่าง ข่งยาง แต่งงานที่นั่น

          ใครจะรู้ว่าการทำแบบนั้นกลับทำให้คณะพบเรื่องร้าย คน 18 คนหายไปเพราะพายุทะเลทราย ตายแบบหาศพไม่เห็นรวมทั้งข่งยางด้วย จะรอดกลับมาก็แต่ชางตงคนนำทางเท่านั้น เรื่องราวใหญ่โต คนรู้จักเหตุการณ์นี้กันในนาม คามีเลียสีดำ ญาติพี่น้องคนในคณะเดินทางล้วนโกรธแค้นชิงชัง สุดท้ายชางตงก็เลิกทำหน้าที่ไป

          เยี่ยหลิวซีเห็นงั้นเลยไม่คาดคั้นต่อ แต่ทิ้งรูปถ่ายไว้ใบหนึ่งก่อนจากไป พอชายชราดูรูปถ่ายก็พบว่ามันเป็นรูปของศพข่งยางนอนอยู่ที่เนินดินแห่งหนึ่ง ชายชราตกใจมากรีบวิ่งตามหลังไปแต่ก็หาหญิงสาวลึกลับคนนั้นไม่เจอแล้ว

          ที่แท้ชายชราคนนี้ก็คือชางตง เขาปลอมตัวเพื่อหลบซ่อนจากผู้คน นานทีจะออกจากบ้าน ใช้ชีวิตให้ผ่านไปวันๆ ตอนนี้มีเรื่องให้ต้องกระชากหน้ากากกลับมาเข้าสังคมใหม่อีกครั้ง ชางตงตามหาเยี่ยหลิวซีจนเจอ ใครจะไปรู้ว่าผู้หญิงคนนี้กลับเป็นแม่ค้าขายแคนตาลูปอยู่ในตลาด

          แต่พอชางตงได้รู้จักเยี่ยหลิวซีเขาก็พบว่าผู้หญิงคนนี้ลึกลับอย่างมาก และมีบางอย่างไม่ปกติเกิดขึ้นกับหญิงสาว กระทั่งเจ้าตัวยังไม่รู้ว่าตัวเองเป็นใคร เธอนอนในรถ เงินทองติดตัวก็ไม่ค่อยมี เช้าขายแคนตาลูป เย็นขายปิ้งย่าง มีงานอะไรให้ทำก็ทำ ที่ตามหาชางตงเจอก็เพราะสาวเบาะแสได้จำนวนหนึ่ง ต้องการจ้างเขาให้เข้าไปในทะเลทราย ส่วนเขาก็ต้องเข้าไปหาศพข่งยาง ทั้งคู่เลยดีล ไปด้วยกัน

          นอกจากนี้ยังมี เฝยถัง นักค้าของเก่าที่ตามติดขบวนมาด้วยเพราะต้องการจะขโมยของล้ำค่าชิ้นหนึ่งจากเยี่ยหลิวซี คนทั้งกลุ่มมุ่งหน้าเข้าทะเลทราย เผชิญกับเรื่องราวลึกลับและปริศนามากมายให้ต้องไข พร้อมๆ ไปกับเรื่องราวเหนือธรรมชาติที่ยากจะพบเจอ

          ใครชอบเรื่องลึกลับผจญภัยประมาณบันทึกคนขุดสุสานน่าจะชอบเรื่องนี้ เราเองชอบบรรยากาศแบบนี้อยู่แล้วก็เลยอ่านได้ลื่นมาก แล้วนิยายเหว่ยอวี๋จะใส่การเดินทางตามสถานที่จริงรวมถึงเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยเข้าไปด้วย เวลาอ่านเราจะรู้สึกอยากรู้ว่าสถานที่พวกนั้นเป็นยังไงอยู่ตลอด อย่างตอนที่อ่านลางสังหารฯ เรายังอยากไปตุนหวงสักครั้งเลย

          เรื่องนี้เน้นเข้าทะเลทราย ปกติเราไม่ชอบทะเลทราย ไม่ชอบบรรยากาศแห้งๆ ทรายพัดเต็มหน้าเต็มหัว ดังนั้นเลยไม่ค่อยรู้เรื่องราวอะไรเกี่ยวกับทะเลทรายมากนัก แต่พออ่านแล้วก็เหมือนเปิดโลก เพิ่งรู้ว่าการเดินทางในทะเลทรายด้วยรถออฟโรดมันเป็นแบบนี้เอง เล่นเอาอยากลองไปนั่งหัวสั่นหัวคลอนอยู่ในรถที่หลัวปู้พัวดูบ้างสักครั้ง

          ในเล่มแรกยังมีเรื่องลึกลับเข้ามาไม่มาก เพราะพวกเขายังไม่ได้เข้าด่านอวี้เหมิน สถานที่ลึกลับที่พวกเขาพบว่ามันเหมือนโลกอีกใบที่ซ้อนทับโลกแห่งความจริงเอาไว้อยู่ แต่เล่มสองจะหาทางเข้าไปได้ละ หลังจากนั้นเรื่องประหลาดก็มาไม่หยุดเลย มีตัวละครใหม่ๆ เข้ามาร่วมทีมด้วยเหมือนกัน อย่างสาวน้อย ติงหลิ่ว และบอดี้การ์ดของเธออย่าง เกาเซิน ที่กระโจนเข้าการผจญภัยครั้งนี้ด้วย

          เซอร์ไพรส์ที่บอกคือ เรามาค้นพบว่านิยายเรื่องนี้มันจักรวาลเดียวกันกับ ลางสังหารไขคดีพิศวง

          ถ้าใครเคยอ่านเรื่องนี้จะรู้เนื้อหาโดยรวม และพอมาเทียบกับอวี้เหมินจะค้นพบว่าพล็อตไม่ค่อยต่างกันเท่าไหร ตัวเอกชายที่มีแฟนอยู่ก่อนแล้ว มีเรื่องให้ต้องเลิกราหรือแยกจากกับแฟนสาวของตน ส่วนตัวเอกหญิงมีทีท่าลึกลับ มาพร้อมปริศนามากมายบนตัว กับการท่องไปในดินแดนที่เดินทางยากลำบากของจีน

          ตอนแรกคิดว่าพล็อตคล้ายกันก็ไม่อะไร เพราะเราชอบกลิ่นอายแบบนี้จากนิยายของเหว่ยอวี๋อยู่แล้ว มาสะดุดตรงต้นเล่มสองที่เมนชั่นถึงตัวละครหนึ่งคือ เสินกุ้น

          เสินกุ้นคนนี้ถูกพูดถึงว่าเป็นคนสติไม่ค่อยดีที่เดินทางไปทั่วจีน แบกกระสอบเก่าๆ ไว้กับตัว ในกระสอบคือสมุดบันทึกมากมายที่เขาเอาไว้จดบันทึกเรื่องราวและตำนานลึกลับทั้งหลายที่เคยได้ยินได้ฟังมา ที่พวกชางตงได้รู้จักชื่อเสินกุ้นเพราะเสินกุ้นรู้เรื่องตำนานบางส่วนของด่านอวี้เหมิน

          ตอนแรกเรารู้สึกว่าคุ้นๆ นะไอ้ตัวละครเสินกุ้นเนี่ย อ่านไปอ่านมาพบว่าไอดีคิวคิวของเจ้าตัวใช้ชื่อว่า "เพื่อปลดแอกไม่กินไก่" พอมาคิดดูว่าชื่อคุ้นๆ อย่างเสินกุ้น บ้าๆ บวมๆ แบกกระสอบใส่สมุดบันทึก บวกกับชอบกินไก่ทอดเป็นชีวิตจิตใจเราก็ค้นพบว่าไอ้คนคนนี้มันคือเสินกุ้นในเรื่องลางสังหารฯ ซึ่งเป็นหนึ่งในตัวละครที่เราชอบมาก! เพราะป็นตัวละครที่มีการกระทำให้เราขำได้ตลอดเวลา เรียกว่าเป็นสีสันในเรื่องนั้นจริงๆ บทเด่นไม่น้อยเชียว ตอนคิดได้แล้วก็ตกใจ สรุปมันเชื่อมจักรวาลกันจริงๆ ด้วย ได้แต่หวังว่าอีกสองเล่มที่เหลือของอวี้เหมินจะได้เจอเสินกุ้นมาโลดแล่นจริงๆ นะ 5555

          แต่ต่อให้ไม่มีเสินกุ้นเราก็พบว่ามีตัวละครอีกตัวในเรื่องอวี้เหมินที่ทำหน้าที่นั้นแทนได้ นั่นคือ เจิ้นซานเหอ

          เจิ้นซานเหอเป็นไก่ ไก่ตัวผู้ แบบว่าเป็นไก่จริงๆ แต่เป็นไก่ระวังภัย ท่าทางไม่เหมือนไก่เพราะดูสุขุมกว่าไก่ธรรมดา แต่ว่ากลัวแมงป่องที่สุด เวลาเจออะไรไม่ชอบมาพากลเจิ้นซานเหอจะตีปีกร้องลั่น บอกให้ชาวคณะรู้ได้ว่ามีบางอย่างไม่ชอบมาพากลอยู่ใกล้ๆ และมีประโยคหนึ่งที่ชางตงพูดถูกคือ เจิ้นซานเหอโชคร้ายเหลือเกินที่มาเจอพวกเขา เพราะไก่ไม่เคยได้เป็นไก่ที่สงบสุขอีกเลย แงงงง

          พูดถึงไก่พอแล้ว ขอพูดถึงคาแรคเตอร์พระนางสักนิด เราชอบเยี่ยหลิวซีมากเลย เธอจนแบบจนเจ็บ เงินทองร่อยหรอของจริง แต่ว่ามีฝีมือ แถมยังลึกลับ แต่นางก็แอบรั่ว ความคิดอ่านหรือบรรทัดฐานในการใช้ชีวิตน่าสนใจมาก ส่วนพระเอกอย่างชางตงเป็นคนละขั้วกับเยี่ยหลิวซี คือเป็นคนสุขุม รอบคอบ พึ่งพาได้ และดูแลคนอื่นเป็น อันที่จริงมีความคล้ายกับเยวี่ยเฟิงพระเอกจากเรื่องลางสังหารฯ อยู่บ้าง เพียงแต่เยวี่ยเฟิงเป็นผู้ชายปากเสียกวนประสาทที่ดูแลคนเป็น แต่ชางตงเป็นผู้ชายที่ดีครบเครื่อง 5555 / ชั้นเอ็นดูเฮียหรอกนะเฟิงเกอออ

          ส่วนนางเอกนั้นเยี่ยหลิวซีมีชีวิตชีวากว่าจี้ถังถัง แต่ความลึกลับ ความมาจากสถานที่ปริศนานั้นเข้มข้นไม่ต่างกันเลย

          อ้อ แล้วก็รู้สึกว่านี่เป็นนิยายรักได้เลยนะ เพราะเลิฟไลน์ถือว่าเยอะทีเดียว (ถูกใจหนู หัวใจหนูเต้นตึ้กตั้ก) และทุกอย่างเป็นไปอย่างน่ารักชวนให้อมยิ้ม เอาเป็นว่าเราชอบมาก ครบเครื่อง และกำลังสนุกทีเดียว อดใจรออีกสองเล่มที่เหลือไม่ไหวแล้ว ใครชอบแนวผจญภัยบวกความลึกลับจากสิ่งเหนือธรรมชาติตามสไตล์จีนน่าจะชอบ ใครที่อ่านเรื่องอวี้เหมินแล้วชอบก็สามารถตามไปอ่านลางสังหารฯ ได้ หรือกลับกันใครที่ชอบอ่านลางสังหารฯ ก็ต้องไม่พลาดอวี้เหมินเด็ดขาด