จุมพิตสีขาว (Le Baiser au lépreux)ผู้เขียน : ฟร็องซัวส์ โมริยัค (François Mauriac)
ผู้แปล : วัลยา วิวัฒน์ศร
อ่าน๑๐๑
เล่มเดียวจบ
จุมพิตสีขาว เป็นหนังสืออีกเล่มที่ปกสวยยยมากกกก และหลังจากที่ได้อ่านจบแล้วกลับมาดูหน้าปกอีกทีเราจะเห็นดีเทลต่างๆ แทรกไว้อย่างน่าสนใจทีเดียว
สำหรับ
จุมพิตสีขาว เป็นหนังสือที่พล็อตเบสิกมาก ชายหนุ่มผู้ร่ำรวยแต่มีหน้าตาไม่ชวนมอง มีภรรยาสาวที่นึกรังเกียจรูปลักษณ์ของเขา และการแต่งงานของทั้งสองก็เหมือนกับการแต่งงานที่บิดเบี้ยวไม่สมบูรณ์เพราะคนสองคนต่างมีกำแพงกั้นความสัมพันธ์ขวางอยู่ตรงกลาง
แต่เพราะมันเบสิก คำถามคือทำยังไงถึงจะทำให้การเล่าเรื่องมีเสน่ห์น่าสนใจ แตกต่างจากหนังสือพล็อตทำนองนี้อีกหลายเล่ม?
จุมพิตสีขาวเป็นนวนิยายที่ทำให้โมริยัคก้าวขึ้นมาเป็นนักประพันธ์คนสำคัญของศตวรรษที่ 20 เมื่อมองจากพล็อตดาษดื่นแบบนี้เราจะเกิดความคิดว่าใช่แน่เหรอ? แต่ถ้าหากได้ลองอ่านเราจะค้นพบคำตอบของมันว่าเพราะอะไรถึงเป็นแบบนั้น?
คีย์หลักของเรื่องน่าจะเป็นในส่วนของการเลือกใช้ภาษาและจิตวิทยาตัวละคร เหมือนเวลาเราดูหนังที่เล่นผ่านการแสดงอารมณ์ของตัวละครในเรื่อง เราจะค่อยๆ รู้สึกประสาทไปกับความคิดของตัวละครที่ค่อยๆ ชักจูงให้เรามีอารมณ์ความรู้สึกร่วมไปทีละนิดๆ จนกระทั่งถึงจุดพีคของเรื่อง แล้วก็ทิ้งดิ่งลงมาวูบเดียวในช่วงสุดท้าย
การถ่ายทอดความรู้สึกของตัวละครคือกลไกสำคัญในการเล่าเรื่องของนวนิยายเล่มนี้
ฌ็อง เปลูแอร์ บุตรชายเศรษฐีผู้มีรูปร่างหน้าตาอัปลักษณ์ชวนสะอิดสะเอียนมักจะถ่ายทอดความคิดในด้านลบออกมาให้เราได้เห็น อย่าง
"โอ้...คนพวกนั้นคงกำลังกระซิบกระซาบนินทาฉันอยู่สินะ ถ้าเป็นเจ้ารูปหล่อคนนั้นมองพวกเธอไม่ใช่ฉันพวกเธอก็คงจะไม่ทำแบบนี้หรอก" หรือ
"อ้า...ไม่อยากเห็นแม้แต่เงาตัวเองเลย ฉันนี่มันน่าเกลียดอะไรขนาดนี้" ประมาณนั้น
ฌ็อง เปลูแอร์ คือตัวแทนของคนที่ไม่ได้มีหน้าตาตรงตาม beauty standard อย่างแท้จริง และน่าเสียดายที่เขาไม่ได้เกิดในศตวรรษที่ 21 ที่เริ่มมีการรณรงค์ให้รักตัวเองอย่างในยุคนี้ ดังนั้นเปลูแอร์จึงต้องกล้ำกลืนฝืนทนกับความอัปลักษณ์ของตัวเองอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน แต่ว่าเขาก็ยังเป็นผู้ชายคนหนึ่งที่เมื่อเจอหญิงสาวหน้าตาดีหุ่นห้างอวบอัดแล้วจะเกิดความคิดไม่ดีงามขึ้นภายในใจ
ตอนที่รู้ตัวว่าตนจะได้แต่งงานกับ
โนเอมี ดาเตียลห์ สาวงามที่ตัวเองเคยแอบจ้องมอง หัวใจเขาก็ฟูฟ่องไปชั่วขณะ แต่หลังจากนั้นก็ต้องเหี่ยวฟีบลงมาเมื่อรู้สึกได้ว่าสาวเจ้ารังเกียจความอัปลักษณ์ของตนแค่ไหน
โนเอมี ดาเตียลห์ถูกจับให้แต่งงานกับฌ็อง เปลูแอร์เพียงเพราะพ่อแม่ของเธอเห็นว่าเขาเป็นคนรวย แต่งให้คนรวยดีที่สุดแม้ว่าอีกฝ่ายจะไม่หล่อเหลาก็เถอะ แต่โนเอมีก็ไม่ได้แสดงออกจริงๆ จังๆ อย่างไร้มารยาทว่าเธอไม่พอใจรูปลักษณ์ของสามี เธอพยายามจะเป็นภรรยาที่ดี ทว่าถึงอย่างนั้นฟิสิกส์ทางร่างกายก็ไม่สามารถหลอกกันได้ เธอยังคงต้องเผชิญหน้ากับความรังเกียจในใจอยู่ดี
และเปลูแอร์ผู้มีความคิดแง่ลบกับตัวเองอยู่แล้วจึงยิ่งเข้าใจไปว่าภรรยาสุดจะรังเกียจเลยสินะ ความอัปลักษณ์นี้คงกำลังทำร้ายเธอเป็นอย่างมาก การแต่งงานครั้งนี้จึงล่มไม่เป็นท่าตั้งแต่เพิ่งจะเริ่ม
ต่างฝ่ายต่างหลงงมอยู่กับความคิดของตัวเอง แม้จะพยายามเข้าหากันแค่ไหนแต่สุดท้ายก็บอกได้แค่ว่ามันไม่เวิร์คเท่าไหร่เพราะต่างฝ่ายต่างไม่สามารถก้าวข้ามสิ่งที่อยู่ในใจไปได้
ในเรื่อง โมริยัคจะใช้การอุปมาตัวโนเอมีกับดอกไม้เพื่อให้เราเห็นภาพได้ดีขึ้น พอๆ กับการใส่ความเป็นคริสต์เข้ามาในเรื่อง (และปกรีเลทมาก มีดอกไม้ทั้งปกหน้า-หลัง ปกหลังมีแมลงเข้ามาเพิ่ม อุปมาถึงตัวเปลูแอร์ และชุดขาวของโนเอมีสื่อถึงการพยายามเป็นภรรยาที่ดีงามตามแบบคริสเตียน)
เมื่อผสมผสานกับจิตวิทยาตัวละครแล้วมันเลยกลมกล่อมกันดี กลายเป็นว่าสิ่งที่เด่นในเรื่องคือบทบรรยายถึงความเกลียดชังในตัวเอง กับการพยายามเสาะหาหนทางเพื่อจะได้ให้ตนสัมผัสกับความสัมพันธ์ทางวิญญาณ นั่นคือตัวเลือกที่เปลูแอร์หยิบมาใช้ในการผูกมัดตนเอาไว้กับคู่แต่งงานของเขา
Best Quote : ในเมื่อเป็นปฏิปักษ์ทางกาย ก็ขอร่วมใจสวดอ้อนวอนตอนค่ำ อย่างน้อยเสียงของทั้งสองจะได้สอดประสานเป็นหนึ่งเดียว เคียงข้างและแยกห่าง พบกันในนิรันดร์กาล
Note : ตอนนี้พ้นช่วงพรีออเดอร์ไปแล้ว แต่ใครที่สนใจอยากสั่งซื้อก็สามารถติดต่อไปที่
เพจสำนักพิมพ์ ได้ มีโปสการ์ดงามมั่กๆ แถมให้ด้วย
โปสการ์ดถ่ายรวมกับเรื่องเจ้าหนู
contact me
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in