ขอรีวิวแบบรวดเดียวจบ และมันจะเยอะๆ หน่อย
(มีสปอยล์เล็กน้อยถึงปานกลาง)
ปกติเราเป็นคนที่อ่านนิยายจีนแนวเทพเซียนหรือกำลังภายในไม่ค่อยได้ ยกเว้นบางเรื่องที่เข้าท่าเข้าทางเรา (เทพเซียนก็แบบเจ็ดชาติภพหนึ่งปรารถนาที่ยังไม่ได้เขียนรีวิวถึง ยุทธภพก็แนวๆ อาจารย์เป็นคนชั่วฯ หรือ คนท่องยุทธภพฯ) แต่กำลังภายในหรือสายเซียนเพียวๆ เลยนี่อ่านไม่ได้ เคยพยายามจะอ่านฮวาเชียนกู่ก็ไปไม่ไหว พยายามจะอ่านชอลิ้วเฮียง พยัคฆราชฆ่อนเล็บ เจาะเวลาหาจิ๋นซี ก็ไปไม่รอด แต่เรื่องนี้รอด และสนุกมากด้วย
ได้ยินชื่อเสียงมานานละแต่ไม่ได้อ่านสักทีเพราะพยายามจะอ่านก็กลัวเบื่อ กลัวไม่ใช่แนว กลัวเสียเวลา แต่เห็นเพจสาวกเอยจงเสพนิยายจีนอวยมากอวยขั้นสุดสองเรื่องกับเทพยุทธ์เซียนกลอรี่ ประจวบเหมาะกับเจียงเหย่จะได้เป็นซีรีส์ และแคสมาถูกใจข้ามาก (จะพูดถึงเรื่องนี้ทีหลัง) ก็เลยตัดสินใจ เอาวะ มาลองดูกันสักตั้ง
เรื่องนี้ออกมาแล้ว 15 เล่ม ยาวไกลมากเพราะจำนวนจบอบู่ที่ 40 เล่ม นับนิ้วกันแล้วก็น่าจะต้องรอไปประมาณอีกสามปีกว่าจะออกครบจบหมดทุกเล่ม ตอนแรกคิดว่าอาจจะท้ออ่าน แต่พอเห็นเล่มจริงแล้วก็โอเค เล่มบางๆ แนวเหมือนสำนักพิมพ์สยามฯ เลย และพออ่านถึงได้รู้ว่าแบบนี้โคตรฆ่ากันอ่ะ เพราะมันไม่พอ มันอยากได้หนากว่านี้!
เรื่องนี้เป็นเรื่องของ
หนิงเชวีย (หนิง แปลว่า สงบสุข เชวีย แปลว่า ปราศจาก รวมๆ ก็คือปราศจากความสุขสงบนั่นเอง) เป็นคนจากยุคปัจจุบันที่ทะลุมิติมาในยุคโบราณ เติบโตมาในจวนแม่ทัพใหญ่ แต่เดิมคิดว่าจะสุขสบายแต่เกิดจากฆ่าล้างครัว เขาที่ยังเด็กมากหนีตายมาได้และต้องระหกระเหินร่อนเร่ไปไกล ชีวิตพลิกผันชนิดหน้ามือเป็นหลังมือ ในที่สุดก็ไปพบเด็กทารกหญิงคนหนึ่งในกองซากศพ หนิงเชวียช่วยเด็กทารกคนนั้นมา ทั้งยังเจอร่มดำใหญ่เทอะทะอีกคันหนึ่ง ไปๆ มาๆ ก็กลายเป็นเหมือนสมบัติประจำตัว
หนิงเชวียคอยดูแลเด็กที่เก็บมาและเรียกนางว่า
ซังซัง ทั้งสองคอยประคับประคองกันมาตลอด นอนก็ต้องนอนกอดกัน ทำอะไรก็จะมองสีหน้ากันเสมอ จนหนิงเชวียสมัครเข้ากองทัพชายแดนก็ยังต้องหนีบซังซังไปด้วย แม้จะบอกใครต่อใครว่าซังซังเป็นสาวใช้แต่ความสัมพันธ์ของทั้งสองคนมันลึกซึ้งกว่านั้น ตอนอยู่ในกองทัพหนิงเชวียได้ฉายาว่าคนตัดฝืนแห่งทะเลสาบซูปี้ เพราะเขาทำหน้าที่ไล่ฆ่าพวกโจรขี่ม้า
ทุกอย่างเริ่มต้นขึ้นเมื่อหนิงเชวียต้องดูแลขบวนขององค์หญิงสี่หลี่อวี๋กลับฉางอัน หนิงเชวียได้เจอผู้ฝึกฌานและเขาต้องการเข้าสถานศึกษา แต่ตัวเขาไม่มีคุณสมบัติพอจะเป็นผู้ฝึกฌาน ทว่ามีฝีมือแบบนักฆ่าที่หลายคนหวาดหวั่น อีกทั้งร่มดำคันนั้นของมันยังเป็นปริศนาทั้งยังปัดเป่าอันตรายได้ทุกรูปแบบ ไหนจะซังซังสาวใช้หน้าดำคนนั้นอีก หนิงเชวียมาถึงฉางอันแล้วก็เช่าบ้านเปิดร้านเล็กๆ ในตรอกแห่งหนึ่ง ซังซังบังคับให้นายน้อยของนางเปิดร้านขายอักษรพู่กันเพราะหนิงเชวียลายมืองดงามนัก แม้จะไม่อยากทำแต่เพราะความยากจนหนิงเชวียเลยต้องกัดฟันเปิดร้าน
เหล่าปี่ไจขึ้นมา แต่ความทระนงก็ตั้งราคาไว้สูงลิ่วจนไม่มีใครอยากซื้อ
ต่อมาหนิงเชวียได้รู้จักกับบุรุษชุดเขียวเฉาเสี่ยวซู่ที่รู้ฝีมือของหนิงเชวียและให้เขาช่วยจัดการสังหารศัตรูที่ศาลาชุนเฟิงจนเป็นที่เลื่องลือไปไกล อีกทั้งหนิงเชวียยังต้องการสะสางบัญชีแค้นกับซย่าโหวที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการฆ่าล้างครัวครั้งนั้น หนิงเชวียได้รายชื่อผู้เกี่ยวข้องแลกมากับการตายของเพื่อนในวัยเด็ก เขาตามเก็บคนพวกนั้นทีละคนอย่างไม่รีบร้อน และแม้จะไม่มีคุณสมบัติเป็นผู้ฝึกฌานแต่หนิงเชวียก็ได้สังหารผู้ฝึกฌานคนหนึ่งตาย
หนิงเชวียมีโอกาสได้เข้าไปในพระราชวัง ขณะยืนเซ่อซ่าอยู่ในห้องทรงพระอักษรของจักรพรรดิ เขาก็เห็นโคลงที่จักรพรรดิเขียนไว้แต่ยังไม่เสร็จ ความคันไม้คันมือของเขาทำให้เขาเขียนโคลงตอบไปว่า
“มาลีบานอีกฝั่งพสุธา” แต่จักรพรรดิไม่ทรงทราบ ได้แต่สั่งให้คนควานหาตัวเซียนพู่กันคนนี้ และหนิงเชวียยังได้ผูกมิตรกับสำนักคณิกาชื่อดังในฉางอัน เขาได้รับความเอ็นดูจากสาวๆ ในหอโคมเขียว เขากับซังซังไม่ต้องจ่ายเงินสักอีแปะหากเข้ามาที่นี่ (แต่ไม่ได้ทำเรื่องอย่างว่ากัน) วันหนึ่งหนิงเชวียเมาแล้วเขียนข้อความจะฝากคนของสำนักโคมเขียวเอาไปให้ซังซังที่ร้าน เขียนประมาณว่าให้ซังซังไม่ต้องรอและกินน้ำตุ๋นไก่ไปซะ แต่คนของที่นั่นไม่ได้นำส่ง ข้อความนี้จะสร้างชื่อเสียงให้เขาภายหลัง
หนิงเชวียสอบผ่านได้เข้าเรียนในสถานศึกษา (ตอนนี้สนุกมากกกกกก) หนิงเชวียได้เขียนจดหมายโต้ตอบกับศิษย์ชั้นสองของสถานศึกษา (เป็นศิษย์ที่ถูกเลือกให้เป็นศิษย์ของจอมปราชญ์และร่ำเรียนอยู่บนเขาหลังสถานศึกษา คนทั่วไปเข้าไม่ได้) ชื่อ
เฉินผีผี เป็นศิษย์ลำดับที่ 12 เฉินผีผีได้แนะนำวิธีการเล่าเรียนรวมถึงช่วยหนิงเชวียเปิดจุดชวี่ไห่ที่ทำให้สามารถฝึกฌานได้แต่ไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์ แถมหนิงเชวียยังทำให้สัตว์เทวะอย่างจูเชวี่ยที่หลับใหลตื่นขึ้นมาอีกต่างหาก
ต่อมามีการคัดเลือกศิษย์เข้าชั้นสองของสถานศึกษา หนิงเชวียก็เข้าร่วมด้วยและแน่นอนว่าเขาชนะ (สนุกมากอีกเช่นกัน) ถึงตอนนี้มีแต่คนอยากได้ตัวเขาเพราะจอมยันต์เทวะที่นิกายเฮ่าเทียนฝ่ายใต้อย่างเหยียนเซ่อต้าซือมีโอกาสได้เห็นภาพอักษรน้ำตุ๋นไก่ที่หนิงเชวียเคยเขียนไว้และสัมผัสได้ทันทีว่าหนิงเชวียมีความสามารถจะเป็นจอมยันต์เทวะได้ เยียนเซ่อต้าซือที่ชรามากต้องการได้ตัวหนิงเชวียมาเป็นศิษย์เลยไปตบตีแย่งคนกับทางสถานศึกษา (ฮาสุดตอนนี้) สุดท้ายหนิงเชวียได้เป็นศิษย์ลำดับที่ 13 ของสถานศึกษา พร้อมกันนั้นก็เป็นศิษย์ของเหยียนเซ่อต้าซือจากเฮ่าเทียนฝ่ายใต้ และจักรพรรดิตามพบแล้วว่าคนที่เขียนอักษร
‘มาลีบานอีกฝั่งพสุธา’ คือหนิงเชวีย เขาก็เลยดัง เงินก็ได้เยอะ กลายเป็นคนรวยไป
ตอนนี้เราจะได้ทำความรู้จักกับศิษย์พี่คนอื่นๆ ซึ่งมีคาแรคเตอร์แตกต่างกันไปเหมือนเราอ่านการ์ตูนสักเรื่องอ่ะ (เราชอบศิษย์พี่สองกับศิษย์พี่สี่) ต่อมาหนิงเชวียต้องเดินทางไปฝึกภาคสนามที่ชายแดนร่วมกับเพื่อนร่วมรุ่นสมัยอยู่ชั้นหนึ่ง ที่นั่นเขาได้พบกับหนึ่งในสามผู้งมงาย ผู้งมงายอักษร
โม่ซันซัน ไม่รู้ทำไม อาจเพราะอ่านสปอยล์มาก่อนเลยไม่ชอบโม่ซันซันมาก และเกลียดที่ผู้เขียนจงใจให้โม่ซันซันมีชื่อคล้ายกับซังซังของเรา แถมบทนางเยอะมากกกกกกก โม่ซันซันเป็นพวกซึนเดเระ เป็นหนึ่งในสามผู้งมงาย (ประกอบไปด้วยผู้งมงายอักษร ผู้งมงายยุทธ์ ผู้งมงายบุปผา) ใบหน้างดงาม (แต่สวยจริง ตอนนางขึ้นปก หมั่นไส้) ทั้งสองพัฒนาความสัมพันธ์กัน ขอข้ามตรงนี้เพราะเราไม่ได้อ่าน ฟังดูใจร้ายและน่าเกลียด ซึ่งยอมรับ เราแค่ไม่ชอบที่โม่ซันซันบทเยอะเกินไป เลยตัดสินใจข้ามตรงนี้ไปซะ อ่านผ่านๆ จนกระทั่งหนิงเชวียเดินทางกลับฉางอัน…ซึ่งพานังโม่ซันซันกลับมาด้วย
ย้อนกลับมานิด ตอนที่หนิงเชวียไม่อยู่ ซังซังอยู่เฝ้าร้านคนเดียวและได้เจอกับชายชราคนหนึ่งชื่อ
เว่ยกวงหมิง เป็นต้าเสินกวนหน่วยแสงสว่างคนปัจจุบันที่หนีออกมาจากการคุมขัง เขาเป็นคนทำนายชะตาของหนิงเชวียเมื่อยังเด็กและทายทักว่ามีเงารัตติกาลทำให้ครอบครัวหนิงเชวียถูกฆ่า เว่ยกวงหมิงหลบหนีมาถึงฉางอันเพราะเห็นเงารัตติกาลปรากฏอีกครั้ง (คือจะตามฆ่าหนิงเชวียนั่นแหละ) ได้ประมือกับหลี่ชิงซานศิษย์ของเหยียนเซ่อต้าซือแต่เว่ยกวงมิงชนะได้สบายๆ เขาได้เจอซังซังโดยบังเอิญและเห็นว่านางสะอาดเป็นอย่างยิ่ง เว่ยกวงหมิงอยากได้นางมาเป็นศิษย์ และซังซังก็ยอมรับเขาเป็นอาจารย์
เว่ยกวงหมิงฟังแล้วอาจดูเหมือนโหดร้ายแต่ความจริงเป็นชายชราที่ดีคนหนึ่งนะ เขาดูแลซังซังเหมือนลูกหลานคนหนึ่ง ตอนซังซังถูกรบกวนก็ใช้พลังจนอีกฝ่ายตาบอดไปเลย (โหดมั้ยล่ะ) แต่ไม่นานเว่ยกวงหมิงก็ตายพร้อมกับเหยียนเซ่อต้าซือ ขอไม่สปอยล์ว่าเกิดอะไรขึ้นกับทั้งสองคน ซังซังเป็นคนเก็บเถ้ากระดูกของพวกเขา (นางได้ใจพี่รองและเฉินผีผีมาก) และได้เป็นว่าที่ต้าเสินกวนหน่วยแสงสว่าง แถมยังได้รู้ว่าพ่อแม่จริงๆ ของตัวเองเป็นใครอีกด้วย
พอหนิงเชวียกลับมาก็ได้รู้เรื่องทั้งหมด แต่เขาไม่ได้โกรธซังซังที่กลายเป็นศิษย์ของเว่ยกวงหมิง ทั้งสองคิดถึงกันมาก แต่นิยายกำลังภายในกลายเป็นนิยายรักตรงที่เมื่อหนิงเชวียกลับมาแต่ไม่ค่อยอยู่ร้าน ชอบแล่นไปหาโม่ซันซันคนสวย จนในที่สุดซังซังทนไม่ไหว เก็บข้าวของหนีไปอยู่บ้านพ่อบ้านแม่ตัวเอง พอรู้เข้าหนิงเชวียแทบเป็นบ้า ทั้งยังถูกองค์หญิงหลี่อวี๋แซะอีกว่าเป็นไงละสมน้ำหน้าแกนัก เขาเลยไปตามซังซังกลับมาแต่ถูกบีบให้ต้องเลือก และ อื้ม…นับว่ายังมีตาที่ตัดสินใจเลือกคนที่มีค่ากับตัวเอง
ซังซังยอมกลับมาอยู่ด้วย โม่ซันซันหอบใจช้ำรักกลับไป (สมน้ำหน้าหล่อน ไม่รู้จักว่าที่ต้าเสินกวนหน่วยแสงสว่างเสียแล้ว) และหนิงเชวียไปล่วงเกินจอมปราชญ์ที่เพิ่งมีโอกาสได้พบหน้าหลังจากไปท่องเที่ยวกับศิษย์พี่ใหญ่ อีกทั้งก่อนหน้านี้หนิงเชวียเข้าสู่ทางมารตามรอยอาจารย์อาที่ถูกฟ้าผ่าตายไป จอมปราชญ์จึงจับเขาขังไว้บนเขา มีซังซังคอยดูแล และเพราะหนิงเชวียเป็นศิษย์ชั้นสองคนเดียวที่เข้าสู่โลกิยะตามรอยอาจารย์อา เขาจึงต้องคอยรับมือกับคนเก่งๆ ที่มาท้าสู้ หนิงเชียวถูกขังก็ยังมีคนมาท้าสู้ด้วย กว่าอาจารย์จะออกจากที่คุมขังได้ก็ใช้เวลาสามปี แต่หนิงเชวียใช้เวลาแค่สามวันก็หาทางจัดการกับพลังของตนได้ ตอนนี้ชื่อเสียงของหนิงเชวียไปไกลจนทุกคนต้องจับตามอง
พูดง่ายๆ คือจากคนตัดฟืนแห่งทะเลสาบซูปี้ สู่นักฆ่าปิดหน้าที่ศาลาชุนเฟิง ศิษย์จอมทะนงแห่งสถานศึกษา เซียงซือสิบสาม และผู้เข้าสู่โลกิยะ หนิงเชวียมาถึงทุกวันนีได้เพราะความพยายาม จะมีอะไรโดดเด่นให้จดจำอีกมั้ยยังต้องรอกันไปยาวๆ อีก 25 เล่ม
เราพยายามเล่าแบบบีบเรื่องให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้เพราะมันยาวถึง 15 เล่ม แบ่งเป็นสองภาคคือภาคแรก
‘อรุณรุ่งที่ต้าถัง’ และภาคสอง
‘ทะเลสาบอันหนาวเหน็บ’ พระเอกค่อยๆ เติบโตขึ้นและแข็งแกร่งขึ้น มันไม่เหมือนนิยายอื่นๆ ที่พระเอกเก่งเทพ เรื่องนี้พระเอกเก่ง แต่เมื่อเทียบกับคนอื่นๆ ถือว่ายังด้อยกว่ามาก จึงได้พยายามๆๆ ถีบตัวเองมาจนถึงจุดนี้
ตอนเข้าสถานศึกษาจะมีซีนให้เห็นว่าพระเอกไม่ได้รับการยอมรับจากกลุ่มเพื่อน ถูกนินทา ถูกบอยคอต พระเอกก็ไม่สนใจ ไม่โต้แย้ง แค่ใช้การกระทำแสดงให้คนที่ดูถูกเห็นว่าตัวเองมีฝีมือแค่ไหน คนพวกนั้นยังไม่ทันรู้ตัวดี เงยหน้าขึ้นมาอีกทีหนิงเชวียก็อยู่สูงเกินเอื้อมมือไปถึงแล้ว
ถ้าพูดถึงเรื่องรัก พระเอกต้องมีความรักอยู่แล้ว เจอคนสวยแถมยังชอบอะไรเหมือนกันก็ยิ่งรู้สึกดี แต่เราชอบที่พอเอาเข้าจริงๆ พระเอกกลับพบว่าขาดสิ่งใกล้ตัวไม่ได้ หนิงเชวียกับซังซังโตมาด้วยกัน เจออันตรายมาด้วยกัน ต้องนอนกอดกันจึงจะหลับได้ แม้หนิงเชวียจะทะลึ่งตึงตัง ปากร้าย เรียกง่ายๆ ว่าชอบปีนเกลียวชาวบ้านแต่เอาเข้าจริงก็เป็นคนดีมากคนหนึ่งนะ ตอนรู้ตัวว่าไม่มีซังซังอยู่ข้างกายหนิงเชวียก็เขวไปเยอะ เหมือนเด็กหลงทางที่ทำอะไรไม่ถูก เราชอบที่เปรียบเปรยซังซังเป็นน้ำ กินบ่อยแต่ไม่เบื่ออีกทั้งยังขาดไม่ได้
เชื่อเหอะว่าถ้าได้อ่านจะต้องชอบซังซัง และจะได้เห็นว่าทั้งสองคนสนิทกันมากแค่ไหน มันมากกว่าคำว่าผูกพันอ่ะ และแม้ผู้เขียนจะจงใจยัดเยียดตัวละครสาวๆ เข้ามา (องค์หญิงหลี่อวี๋ที่ทำให้ใจสั่นตั้งแต่สองเล่มแรก กับผู้งมงายอักษร) แต่ก็เขียนย้ำบ่อยมากว่าหนิงเชวียกับซังซังนั้นขาดกันไม่ได้จริงๆ มันเป็นอะไรที่อบอุ่นใจมากๆ
พูดถึงซีรีส์ที่กำลังจะฉาย แคสนักแสดงดีนะ พระเอกไม่เรียกว่าหล่อเว่อร์วังแต่หน้าตาใช้ได้ มีความกวนโอ๊ย นางเอกตัวเล็กน่ารัก (คนที่รับบทซังซังคือน่ารักจริง ตัวเล็กเว่อร์) โปรดักชั่นดี๊ดี นี่รอไม่ไหวละเนี่ย
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in