เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
นานาความรักจากฉันให้เธอP'Tingly
เป็นได้แค่เพื่อนเธอ
  •           ถ้าคุณและผมต่างเป็นตัวละครของโลกใบนี้ ณ ที่จุดนี้ คือบทสุดท้ายของความเป็นเรา ที่จะถอดหน้ากากออก เผยให้เห็นใบหน้าที่แท้จริงต่อกัน
             มันควรเป็นวันคืนที่แสนเศร้าสําหรับการสิ้นสุดสายใยใจ
    แต่...
    จริงๆแล้วมันเป็นเพียงความเศร้าที่งดงามเหมือนเรามองเห็นสายรุ้งที่หักเหทํามุมกับแสงในดวงนํ้าตา เป็นความเศร้าที่ผ่านมา
    แล้วจากไปเหมือนกับท้องฟ้าที่สว่างสดใส
    หลังจากถูกความมืดที่เข้ามาบดบัง
    ไม่มีรอยแผลจากฝีเท้าที่เดินจากไป

    ทั้งคุณและผมต่างตระหนักดีว่า

             “เราต่างก็รอวันนั้น...”

    วันที่เราจะกลายเป็นคนแปลกหน้าของหัวใจ
    แต่เงื่อนไขของความผูกพันของความ
    เป็น "เพื่อน" 
    ยังคงเบ่งบานเกลื่อนกลาดในดวงใจไม่มีวันสูญสลาย
    เราเพียงช่วยกันลบคราบเปรอะเปื้อนที่อารมณ์ซุกซนจิตใจพลิ้วเผลอได้หกรด
    แปดเปื้อนความบริสุทธิ์ของเราเท่านั้น
    ผมอยากเรียกว่า

     "เป็นว๊าปอารมณ์ของความอ้างว้าง ที่ชักนํำเราไปยืนบนฐานที่เรียกว่า

                       "ความรัก..."

    เปลี่ยนฐานะจากเพื่อนมาเป็นคู่รัก
    ทั้งที่จริงๆแล้ว เราไม่ได้รักกันเช่นนั้นเลย

    ในช่วงขณะที่ผมกับคุณรักกัน
    ผมได้เปลี่ยนชีวิตที่ว่างเปล่าไร้สีสันใดๆมาแต่งแต้มดุจฟองสบู่ที่สุดแต่สายลมจะพัดไปกระทบสิ่งใดก่อนพร้อมที่จะแตกสลายกับสิ่งนั้นทันที

    ส่วนคุณก็ถูกความอ้างว้าง....
    ความเหงาจากการไกลบ้านครอบงําทุกคํ่าคืนที่คุณเดียวดายกับความเหงาในห้องนอน
    ก็จะมีเสียงจากคนแปลกหน้าในวิทยุพรํ่าบ่นดุจคนชราเป็นเพื่อน

    นั่นคือสิ่งเดียวที่จะส่งให้คุณสดับฟังได้
    นอกจากการผันตัวเองเข้าสู่...
    โลกแห่งความฝัน.....จินตนาการของหนังสือนิยายหรือบทกวี....
    ส่วนตําราหนังสือก็็็ได้กลายเป็นเนื้องอกของชีวิตที่น่าเบื่อสำหรับคุณ
    คร้านแม้กระทั่งจะหยิบมาเปิดดูเพราะความที่คุณถูกกดดันจากความหว้าเหว่

    เหมือนดอกหญ้าด้อยค่าริมฝังทางไร้คนสนใจเป็นเพียงรอยยิ้มน้อยๆ
    แทรกข้างทางอย่างเปล่าเปลี่ยว

    เมื่อมีแมงปอพเนจรบินวนมาเคล้าคลอ
    ก็ไหวล้อสายลมยั่วเข้าปีกบางใสของแมงปอ ....ด้วยความเต็มใจ....

    ในช่วงที่เรารักกันผมก็ทราบว่า
    ส่วนเกินที่เราคิดว่าคุณมี/ผมมีคือส่วนเกินที่เราต่างก็ขาด

    เราก็เหมือนถมความว่างในอากาศแล้วก็มีแต่ความว่างเปล่าที่ดำรงอยู่

    เราพบกันในจุดสัมผัสของความเหงาและความเดียวดาย

    ความอ่อนไหวของคุณกับความช่างฝันของผม
    ช่วยกันแต้มวาดเวทีเรือร้างของหัวใจให้มี                         ...ชีวิต...
    มี....วิญญาณ....โลดแล่นในความนึกคิดที่เรากําหนดขึ้นมา

    เราพยายามหลอกตัวเองว่า
           "เรามีวันพรุ่งนี้ เรามีโมง มียาม”

    ความสุขหลุดลอยอยู่ในลมหายใจใหม่ๆ
    แต่เมื่อเราเดินไปถึงจุดนั้น
    ความฝันก็กลายเป็นธาตุอากาศ
    แล้วเราก็เริ่มวาดภาพฝันชิ้นใหม่ขึ้นมาอีก
    เป็นเช่นนี้ซํ้าแล้วซํ้าเล่า

    จนในที่สุดเราก็ต้องหยุดแล้วหันเข้าเผชิญหน้ากับความจริงหยุดพักการเดินทางของอารมณ์ลวง
    แล้วถามตัวเองอย่างจริงจังว่า

    "เรากำลังทำอะไรอยู่เรากำลังเป็นอะไร...???"

    (พักก่อนไว้มาต่อใหม่พรุ่งนี้) ???
    ปล.ทางนี้ฝนตกทางนั้นเป็นไงก็..
    รักษาสุขภาพด้วยนะครับ??

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in