โดย กระต่ายที่เป็นทาสแมว
ปี 2 เอกภาษาญี่ปุ่น อักษรฯ จุฬาฯ
ผลงานลำดับที่ 15 ในคอลัมน์ "เรื่องเล่า ตัวตน คนอื่น" อ่านที่มาของคอลัมน์ได้ที่ http://minimore.com/b/F5RyR/1
ภาพโดย อรปรียา แซ่หลิว
05.30
น. เวลานี้ของทุกวันรอบตัวฉันจะมีแต่ความมืด
โชคดีที่ตัวฉันมีแสงฉันเป็นสิ่งเดียวที่ส่องสว่างอยู่กลางอากาศตอนนี้ฉันนึกขอบคุณอะไรก็ตามที่ทำให้ฉันมีแสงและทำให้เวลานี้แสงของฉันสว่างเป็นพิเศษเพราะมันทำให้ฉันพอจะผ่านช่วงเวลาที่บ้านของฉันเงียบเหงามากๆไปได้
เสียงฟันเฟืองเครื่องจักรที่ทำงาน ดึงความสนใจฉันให้จดจ่อกับทางออกของบันไดเลื่อนตรงสุดมุมของทางเดินบ้าน
แขกคนแรกของฉันวันนี้จะเป็นยังไงกันนะ
06.00 น.
เวลานี้ของทุกวันความมืดจะเริ่มล่าถอยไป
แสงสว่างจากด้านนอกลอดเข้ามาตามช่องว่างของกำแพงบ้านโดยเฉพาะผ่านรูโหว่ขนาดใหญ่สองรูที่เป็นทางเข้าออกพิเศษเฉพาะให้เพื่อนรักของฉัน
ที่เบื้องล่างของฉันปรากฏร่างเงาของมนุษย์จำนวนหนึ่งกระจายเป็นหย่อมๆตลอดทางเดินภายในบ้านฉันนึกขัดใจที่สำรวจพวกเขาได้ไม่ถนัดถนี่นักเพราะแสงสว่างไม่พอแต่ไม่เป็นไรแค่รู้ว่าพวกเขาอยู่ ฉันก็ไม่เหงาแล้ว
“รถไฟกำลังเข้าสู่ชานชาลา”
อ๊ะ เพื่อนคนพิเศษของฉันมาหาฉันแล้ว
06.45 น.
เวลานี้ในบ้านของฉันจะสว่างไสวไปหมด
แสงสว่างของสิ่งที่มนุษย์เรียกว่าพระอาทิตย์สาดเข้ามาจนฉันเห็นทุกอย่างได้อย่างชัดเจนฉันชอบสิ่งที่เรียกว่าพระอาทิตย์นี้จัง น่าเสียดายที่ไม่รู้ทำไมพอถึงเวลาหนึ่งมันก็จะหายไปแล้วจะกลับมาอีกครั้งตอนเวลาประมาณนี้ของรอบเดินใหม่ของฉัน
เมื่อครู่ หนึ่งในเพื่อนรักของฉันพึ่งบอกลาฉันไปแต่ไม่เป็นไรอีกเดี๋ยวเพื่อนรักอีกคนหนึ่งของฉันก็จะเข้ามาเยี่ยมแล้วตอนนี้ตลอดทางเดินบ้านของฉันมีมนุษย์อยู่เป็นเพื่อนฉันเต็มไปหมดเลยทุกคนยืนเรียงกันเป็นแถวๆ ไปเรื่อยๆ ดีจัง แบบนี้ฉันก็ไม่เหงาแล้ว
อ๊ะมนุษย์คนนั้นกำลังมองฉันอยู่ล่ะ เขาแต่งตัวเหมือนคนที่ยืนอยู่ข้างๆกันเลยเหมือนกับคนตรงโน้นด้วย เอ๊ะ มองดีๆแล้วแอบแตกต่างกันนิดหน่อย ทำไมกัน แล้วทำไมเขาต้องมองฉันไปพร้อมขมวดคิ้วไปด้วยล่ะ
“ต่อให้แกจ้องมันไปมากกว่านี้ตัวเลขมันก็ไม่ขยับลดจาก 15 เป็น 0 ได้หรอกนะ ”
07.30 น.
ว้าวฉันรักช่วงเวลานี้มากเลย
เบื้องล่างของฉันมีมนุษย์อัดแน่นเต็มไปหมดบ้านของฉันตอนนี้ครึกครื้นเป็นพิเศษ ฉันมองเห็นทุกคนชัดเจนมากคนโน้นตัวนิดเดียวเองโดนคนตัวสูงๆบังเสียจนฉันแทบมองไม่เห็น ส่วนคนนั้นก็กอดกระเป๋าถือของตัวเองไว้แน่นเลยทำไมกันนะ โห กระเป๋าคนโน้นใบใหญ่มากเลยดูสิเขาต้องลากมันไปกับพื้นบ้านของฉันแทนที่จะถือเหมือนคนอื่นๆ
จะว่าไปแล้วญาติของฉันที่อยู่บ้านใกล้ๆกันบอกมาว่า มนุษย์ที่เข้ามาบ้านของเขาในแต่ละวันมีแต่คนชอบลากกระเป๋าใบใหญ่ไปกับพื้นบ้านของเขาแถมมนุษย์ที่มาบ้านเขาแต่ละวันก็ไม่ซ้ำหน้ากันเลย มนุษย์ที่มาบ้านฉันถึงจะเยอะก็จริงแต่บางคนฉันเห็นหน้าอยู่ทุกวันจนจำหน้าได้แล้ว
อ๊ะ เพื่อนรักฉันมาแล้วไม่รู้ทำไมพอเพื่อนของฉันเข้ามาบ้านฉันทีไร มนุษย์ทุกคนที่อยู่ในบ้านฉันเวลานั้นก็เหมือนจะเปล่งรังสีเคร่งเครียดออกมาอย่างพร้อมเพรียงกัน
08.00 น.
เวลานี้มนุษย์ในบ้านฉันยิ่งเยอะมากเข้าไปอีก
ทุกทีพอเพื่อนของฉันเข้ามาหาก็จะมีมนุษย์จำนวนหนึ่งที่หายไปหรือบางทีก็หายไปหมดเลย แต่พอถึงช่วงเวลาประมาณนี้ของวันกลับมีมนุษย์เหลือเต็มบ้านฉันอยู่ตลอดเวลา
พอเป็นแบบนี้แล้วมนุษย์ที่ฉันเห็นยืนอยู่ในบ้านของฉันนานเป็นพิเศษจะเริ่มหน้าตึงขึ้นมาทันทีพอเพื่อนของฉันเข้ามาอีกพวกคนที่หน้าตึงแล้วก็จะพยายามดันตัวเองเข้าไปในตัวเพื่อนของฉันจนเหมือนว่าทุกคนถลาตัวเข้าไปด้านในตัวมากกว่าเดินเข้าไปดีๆ แถมบางครั้งยังได้ยินเสียงโหวกเหวกดังมาจากคนที่อยู่ด้านในตัวเพื่อนของฉันอีกด้วย
จะว่าไปแล้วญาติของฉันอีกคนหนึ่งก็เล่าให้ฟังมาเหมือนกันว่า มนุษย์ที่มาบ้านเขาส่วนมากจะออกมาจากเพื่อนของฉันพอประตูบนตัวเพื่อนของฉันเปิดออกปุ๊ปมนุษย์ก็จะกรูกันออกมาจากด้านในจนเต็มบ้านของเขา
...
..
.
18.00 น.
รอบเดินวันนี้ของฉันอีกไม่นานก็ใกล้จบแล้วล่ะ
เวลานี้บ้านของฉันก็ครึกครื้นอีกแล้วมนุษย์ยืนกันแน่นบ้านของฉันไปหมด เบียดกันจนฉันคิดว่าพวกเขาอาจจะตกลงไปในทางเดินเฉพาะสำหรับเพื่อนรักของฉันก็เป็นได้
ฉันสังเกตเห็นมาสักพักแล้วว่ามนุษย์ชอบถือเครื่องมือสี่เหลี่ยมเล็กๆขนาดประมาณฝ่ามือไว้ตลอดเวลาที่พวกเขาอยู่ในบ้านของฉันเจ้าเครื่องมือนั้นมันส่องแสงและทำในสิ่งที่ฉันทำได้ด้วยเพราะฉะนั้นมนุษย์บางคนก็จะไม่เงยหน้าขึ้นมาดูรอบเดินของฉันแต่ดูตัวเลขที่แสดงบนกล่องสี่เหลี่ยมนั้นแทน
ฉันว่าเครื่องมือนั้นน่าสนใจนะมันส่งเสียงได้ด้วย บางทีฉันก็ได้ยินเสียงทะลุออกมาจากเจ้ากล่องสี่เหลี่ยมนั้นแต่ไม่รู้ทำไมมนุษย์ที่เป็นเจ้าของกล่องสี่เหลี่ยมที่ส่งเสียงดังออกมามักจะถูกมนุษย์รอบข้างเหลือบมองด้วยสายตาแปลกๆ
เอ๊ะ ว่าแต่ทำไมเพื่อนรักฉันยังไม่มาสักทีล่ะ
“ขออภัยในความไม่สะดวกขณะนี้ระบบรถไฟฟ้าขัดข้อง ขอความกรุณาผู้โดยสาร...”
อยู่ๆฉันก็รู้สึกว่าในบ้านร้อนขึ้นมาผิกปกติล่ะ
20.00 น.
เจ้าพระอาทิตย์หายไปแล้ว
อ่าเวลานี้สีหน้าของมนุษย์จะดูเหนื่อยล้าเป็นพิเศษ
ฉันเองก็เศร้าเหมือนกันนะรอบเดินวันนี้ของฉันใกล้หมดลงเข้าไปทุกทีแล้ว
หืม เหมือนได้ยินเสียงจ้อกแจ้กดังขึ้นมาจากใต้พื้นบ้านนะจะว่าไปทำไมอยู่ๆเจ้าบันไดเลื่อนก็ไม่พามนุษย์ขึ้นมาแล้วล่ะ
“ขณะนี้มีผู้โดยสารหนาแน่นบนชานชาลาเพื่อความปลอดภัย ขอความกรุณาผู้โดยสารรออยู่ที่ชั้นจำหน่ายตั๋ว...”
22.00 น.
เหงาจังเลย
มนุษย์เริ่มน้อยลงเหมือนช่วงเวลาที่ดวงอาทิตย์แผดแสงแรงๆอีกแล้วไม่รู้ทำไมในหนึ่งวันที่มนุษย์มาบ้านฉันจะมีช่วงที่เยอะบ้างน้อยบ้าง ทำไมถึงไม่มาหาฉันเยอะๆตลอดเวลานะยิ่งใกล้ช่วงเวลาหมดรอบเดินของฉันเข้าไปเท่าไหร่มนุษย์ที่มาหาฉันก็จะยิ่งน้อยลงเรื่อยๆเลยล่ะ
00.00 น.
ตอนนี้รอบตัวฉันมืดมากๆเลยไม่มีมนุษย์มาหาฉันแล้ว ฉันไม่ชอบเอาเสียเลย มันน่าเบื่อเอามากๆ แล้วก็เหงาเอามากๆด้วยเอาล่ะ ฉันจะรอให้เวลาเริ่มต้นวนมาอีกครั้ง
ฉันตั้งตารอพวกเธอมาหาอยู่นะ เพื่อนๆมนุษย์ที่น่ารักทุกคน
กว่าจะเป็นงานเขียน...ความสุขของคนมอง
ครั้งแรกเลยตอนจะเริ่มทำงานชิ้นนี้หัวข้อที่เราได้คือ“น่าเบื่อ”ก็คิดอยู่นานเหมือนกันว่าจะเขียนอะไรดีเพราะถ้าพูดถึงสิ่งที่น่าเบื่อจริงๆก็คงเขียนได้หลายอย่างแต่พอต้องมานั่งคิดเป็นจริงเป็นจังขึ้นมาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะเขียนเรื่องอะไรดีพอไปคุยกับเพื่อนลงท้ายเลยเขียนกับเรื่องที่ตัวเองเจอบ่อยๆในชีวิตประจำวันขึ้นมาแต่พอต้องมาเขียนรอบสอง(ก็คืองานที่โพสต์นี้แหละ)โดยได้โจทย์ว่าให้เขียนในมุมมองที่แตกต่างกันตรงข้ามกันเลยได้ยิ่งดี ก็กลับมานั่งคิดว่าจะเขียนยังไงดี เพราะตอนที่คุยกันในห้องเรียนแล้วให้เพื่อนๆทุกคนช่วยกันออกความเห็นเกี่ยวกับภาพภาพของเราความเห็นทุกคนค่อนข้างไปในทางเดียวกันหมดเลยตรงข้ามกับความน่าเบื่อก็คงจะเป็นความสนุกนั้นแหละแต่เราจะเขียนยังไงให้มันสนุกทั้งๆที่มันน่าเบื่อล่ะแล้วเรานึกถึงงานเขียนของเพื่อนในชั้นเรียนที่เขียนจากมุมมองของสิ่งของ(แล้วเราก็ชอบงานเขียนชิ้นนั้นของเพื่อนมากเลย)ก็เลยมาลองเขียนดูบ้างเลยออกมาเป็นงานชิ้นนี้ ตอนเขียนก็สนุกนะ แล้วก็ดีใจที่คนที่เราเอางานให้อ่านก่อนโพสต์บอกว่าน้องน่ารักทุกคนเลย
ขอบคุณค่ะ
**ลิขสิทธิ์งานเขียนและภาพถ่ายเป็นของผู้สร้างผลงาน**
--------------------------
ติดตามคอลัมน์ "เรื่องเล่า ตัวตน คนอื่น"
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in