โดย วาฬสีฟ้า
เธอกลับมาที่นี่อีกแล้ว
พรพระพายมองไปรอบตัวพบแต่ความว่างเปล่าไร้ที่สิ้นสุด เธอพยายามมองหาเส้นขอบของพื้นที่หรือประตูสักบานเป็นครั้งที่เท่าไรเธอเองก็ไม่แน่ใจ สิ่งเดียวที่รู้คือเธอไม่มีวันพบสิ่งที่เธอหา จะมีก็แต่หลุมหลบภัยที่ไม่สามารถระบุตำแหน่งได้ก็เท่านั้น และครั้งนี้เธอเองก็ไม่รู้ว่ามันไปปรากฏอยู่ส่วนใดของผืนความว่างเปล่านี้
พรพระพายแหวกว่ายมวลอากาศ ร่างของเธอเคลื่อนตัวไปข้างหน้าอย่างไร้จุดหมาย เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเธอกำลังมุ่งหน้าไปสู่ทิศใด รู้แต่เธอไม่สามารถอยู่เฉย ๆ ณ ที่เดิมได้นอกเสียจากจะอยากให้ความหวาดกลัวเข้าเกาะกุมจิตใจ
ไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอรู้สึกว้าวุ่นและพยายามจะหนี และไม่ใช่ครั้งแรกเช่นกันที่เธอรู้ดีว่าเธอกำลังจะเจอกับอะไร
ทุกครั้งที่พรพระพายมาที่นี่กลุ่มควันสีเทาทะมึนจะก่อตัวขึ้นจากความว่างเปล่า เจ้าปีศาจสีเทานั่นจะจู่โจมเธอ มันไล่ตามและพยายามกลืนกินเธอ ครั้งหนึ่งเธอเคยพลาดท่าถูกมันโอบกลืนเข้าไปในร่างของมันห่างจากทางเข้าหลุมหลบภัยเพียงไม่กี่ช่วงตัว เธอจำได้ดีว่าสายตาเธอในตอนนั้นเห็นความว่างเปล่าเป็นสีเทา ลมหายใจติดขัดเหมือนท่อน้ำที่มีเศษไม้อุดตันไว้ อารมณ์ความรู้สึกห่อเหี่ยวจนเหมือนไม่เคยพบพานความสุขใดในชีวิต สติสัมปชัญญะเหมือนแตกออกเป็นเสี่ยง ๆ ก่อนทุกอย่างจะมืดสนิท
นั่นเป็นครั้งแรกและจะเป็นครั้งสุดท้ายเพราะเธอจะไม่ยอมให้ไอ้ปีศาจหน้าไหนแตะต้องเธอได้อีก
ปีศาจกลุ่มควันเคลื่อนตัวมาทางเธออย่างไม่รีบร้อนราวกับว่ามันมีเวลาเล่นสนุกกับเหยื่อชั่วกัปชั่วกัลป์ หญิงสาวไม่แม้แต่จะเสียเวลาสักเสี้ยววินาทีไปกับการลังเลใด ๆ เธอรีบแหวกว่ายมวลอากาศธาตุเพื่อทิ้งระยะห่างจากมันให้มากที่สุด และเมื่ออยู่ในระยะปลอดภัยแล้ว พรพระพายรีบจินตนาการถึงกำแพงใหญ่ ทันใดนั้นเองกำแพงคอนกรีตปูนเปลือยสูงตระหง่านก็ปรากฏตรงหน้าเธอ
เธอเรียนรู้เงื่อนไขของการอยู่ในมิติว่างเปล่าเมื่อไม่นานมานี้เองว่า เธอสามารถสร้างอะไรก็ได้ด้วยพลังจินตนาการของเธอ แต่ภาพในหัวต้องชัดเจนมากพอไม่เช่นนั้นปืนใหญ่จะกลายเป็นไปป์ยักษ์มีขาตั้งอย่างที่เธอเคยทำตอนตั้งใจจะยิงเจ้าปีศาจนั่นเมื่อครั้งก่อนๆ
“มาสิ ฉันไม่กลัวแกหรอก!”
หญิงสาวแผดตะโกนดังลั่น เธอเคยใช้กำแพงขวางปีศาจนั่นได้จนถึงเช้าและคิดว่าวันนี้ก็คงจะเป็นแบบนั้นอีกเช่นเคยจนกระทั่ง
“ไม่! อย่าเข้ามานะ”
พรพระพายตาเบิกโตทันทีที่เห็นมันทะลุกำแพงเข้ามาได้ สัญชาตญาณของเธออาจจะถูก เจ้าปีศาจในวันนี้ทรงพลังกว่าที่ผ่านมา เธอรีบหันหลังแหวกว่ายหนีออกห่างจากกำแพงโดยเร็ว
เธอพยายามรวบรวมสติที่กระเจิดกระเจิงไปพร้อมกับเลือดที่สูบฉีดหนักขึ้นให้กลับมาเข้าที่ก่อนจะวาดภาพกล่องกระจกกันกระสุนขนาดใหญ่ครอบตัวเอง
กล่องเสร็จสมบูรณ์ตอนที่เจ้าควันนั่นกำลังจะแตะปลายผมเธอแบบเส้นยาแดงผ่าแปด
หญิงสาวถอยกรูดไปชนกระจกอีกด้านตอนนี้เธอกำลังประจันหน้ากับมันโดยมีเพียงผนังโปร่งใสกั้นกลางเท่านั้น
ในขณะที่พรพะพายกำลังจะถอนหายใจด้วยความโล่งอก ควันปีศาจดูไม่พอใจอย่างมาก มันบิดตัวเป็นเกลียวหมุนคว้างกลางอากาศจากหมุนเอื่อยเฉื่อยค่อย ๆ เร่งขึ้นเป็นก้อนลมขนาดใหญ่ปลายกลุ่มควันหมุนเป็นเกลียวแหลมเล็กชี้มาที่ใบหน้าของเธอ คราวนี้แม้แต่พระพายก็คงไม่อยู่ข้างเธอเสียแล้ว
กึก กึก แคร่ก!
เธอกรีดร้องดังลั่นทันทีที่ปลายแหลมสีเทาเจาะทะลุกระจกกันกระสุนที่เธอสร้าง ไม่เพียงเจาะทะลุเท่านั้น มันยังพยายามเสือกตัวเข้ามาในกล่องเดียวกับเธอด้วย เธอรีบออกคำสั่งให้กระจกด้านหนึ่งหายไปก่อนกระเสือกกระสนหนีตายอีกครั้ง
พลันสายตาเธอเหลือบไปเห็นสี่เหลี่ยมแปลกประหลาดที่โผล่ขึ้นกลางความว่างเปล่าอยู่ห่างไปทางซ้ายมือเกือบห้าสิบเมตร ความทรงจำย้ำเตือนว่าสิ่งนั้นคือประตูหลุมหลบภัย เธอตัดสินใจเลี้ยวหักศอกในครั้งเดียวแล้วตะกายไปหาประตูนั่น หางตาเธอเห็นก้อนสีเทาน่าเกลียดก้อนเดิมพุ่งตรงมาทางเธอด้วยความเกรี้ยวกราดอย่างผิดวิสัย
เท้าขวาของเธอจมเข้าไปอยู่ในกลุ่มควันสีเทาแล้วตอนที่เธอกระชากประตูออก ดีที่เธอถีบตัวเองลงในหลุมหลบภัยและชักประตูปิดได้ทันท่วงที หญิงสาวหอบหายใจจนตัวโยนด้วยความเหนื่อยและหัวใจที่เต้นไม่เป็นจังหวะ
“ฮะๆๆๆ ฮ่าๆๆๆๆ คราวนี้แกจับฉันไม่ได้หรอก!”
พรพระพายมัวแต่หัวเราะอย่างผู้ชนะจนไม่ทันได้สังเกตว่าภายในห้องที่เธอเข้าใจว่าเป็นหลุมหลบภัยมีก้อนพลังงานสีขนกาหมุนวนอ้อยอิ่งอยู่รอบห้อง รู้ตัวอีกทีปีศาจสีดำก็โอบกลืนเธอไปทั้งตัวเสียแล้ว
เฮือกกก!!
พรพระพายสะดุ้งสุดตัวลุกขึ้นนั่งเหงื่อแตกพลั่กอยู่บนเตียง เธอหอบหายใจอย่างตะกละตะกลาม แสงแดดลอดผ้าม่านสีอ่อนตกกระทบเส้นผมที่ปรกหน้าทำให้เธอตระหนักได้ว่าฟ้าสว่างแล้ว โชคดีที่เป็นวันหยุด เธอไม่ต้องออกไปเรียนหรือทำธุระอะไรที่ไหน
หญิงสาวทบทวนความฝันที่เพิ่งเจอ อวัยวะในอกซ้ายยังเต้นแรงไม่ต่างจากยามฝัน พักนี้เธอมักจะฝันเห็นกลุ่มควันสีเทาในดินแดนว่างเปล่าอยู่บ่อยครั้ง แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เธอเห็นกลุ่มควันสีดำ เธอยังจำความรู้สึกตอนที่พลังงานในหลุมหลบภัยแทรกซึมเข้ามาในทุกอณูผิวและหลอมรวมเธอเข้ากับมันได้ เป็นความรู้สึกดำดิ่งที่ยากจะลืม พรพระพายสะบัดหัวไล่ความคิดก่อนใช้มือเสยผมที่ปิดหน้าปิดตาออกและลุกจะเดินไปเข้าห้องน้ำ
เพล้ง!
มือเจ้ากรรมดันเหวี่ยงไปปัดโดนแก้วน้ำสีชมพูพาสเทลที่วางอยู่บนโต๊ะข้างเตียงตกแตกอย่างไม่ได้ตั้งใจ
ทำไมเศษแก้วบนพื้นเป็นสีดำ
โต๊ะ เตียง ตู้ ประตู เพดาน ผนังพื้น ทำไมทุกอย่างเป็นสีดำ?
พรพระพายเยื้องย่างเข้าห้องน้ำโดยไม่สนเศษแก้วที่กระจัดกระจายอยู่บนพื้น สิ่งที่เธอเห็นทำให้เธอถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย ในหัวก็คิดว่า ‘อะไรกันนักหนาเนี่ย’
ภาพที่เธอเห็นในกระจก คือตัวเธอที่มีกลุ่มควันสีดำลอยวนอยู่ด้านหลังและยื่นบางสิ่งคล้ายมือมาบังตาเธอไว้ทั้งสองข้างนั่นเอง
**ลิขสิทธิ์งานเขียนและภาพถ่ายเป็นของผู้สร้างผลงาน**
--------------------------
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in