จากประเด็นดราม่าร้อนจี๋ในโลกออนไลน์ ที่ชายคนหนึ่งถอยรถกระบะกระหน่ำชนรถเก๋งอีกคันพังยับเยิน ชนจนล้อหลังรถกระบะปีนขึ้นไปทับอยู่บนหน้ารถเก๋งจนลงมาไม่ได้เลยแหละ ซึ่งก็ดีแล้ว ไม่งั้นตอนนี้พี่แกอาจยังถอยชนๆ ไปเรื่อยจนน้ำมันหมดตอนตีสี่ก็ได้ ...เอาล่ะ เรื่องนั้นเราจะขอข้ามไปแล้วกัน

สิ่งที่มินิมอร์คิดขึ้นมาหลังจากดูคลิปนี้แล้วก็สงสัยว่า ถ้าเราเป็นคนที่นั่งอยู่ในรถเก๋งคันนั้น เราจะตื่นตกใจแค่ไหน รถที่นั่งอยู่จะป้องกันเราจากการประทะแบบนี้ได้มากน้อยเพียงใด จะปลอดภัยจนเรานั่งจิบกาแฟกระป๋องไป ดูรถกระบะถอยชนรถเราไปอย่างชิวๆ ได้หรือไม่ งั้นลองมาดูกันดีกว่าว่าในรถหนึ่งคันเนี่ย มีอะไรที่ป้องกันคนในรถได้บ้าง

ความปลอดภัยอันดับแรกที่ผู้ใช้รถทุกคนนึกถึง เมื่อเกิดอุบัติเหตุขึ้นเข็มขัดนี้จะช่วยรั้งให้ผู้คาดอยู่ติดกับที่นั่งให้ไม่กระเด็นออกไปนอกรถ หรือกระแทกเข้ากับส่วนอื่นของรถยนต์ ปัจจุบันเข็มขัดนิรภัยมีอยู่ 3 รูปแบบคือแบบยึด 4 จุด(นิยมใช้ในรถแข่ง), แบบยึด 3 จุด(แบบที่ใช้กันในปัจจุบัน) และแบบยึด 2 จุด(สำหรับผู้นั่งโดยสารด้านหลัง)

เรื่องการคาดเข็มขัดนิรภัยนี้สำคัญมาก จนมีการบังคับทางกฎหมายว่าผู้ขับขี่รถยนต์ และผู้นั่งโดยสารด้านหน้าจะต้องคาดเข็มขัดนิรภัย ในประเทศไทยเมื่อปี 2540

หรืออีกชื่อว่า airbag เป็นอุปกรณ์นิรภัยอีกอย่างที่สำคัญไม่แพ้เข็มขัดนิรภัย มีหน้าที่ลดแรงกระแทกส่วนลำตัวและศีรษะกับพวงมาลัยเมื่อเกิดขึ้นจากการประทะหรือการเบรคกระทันหันได้ มีระบบการทำงานคือเมื่อมีการกระแทก ถุงไนลอนหรือโพลีเอไมด์ที่บรรจุแก๊ซไนโตรเจนไว้ภายในจะทำการพองตัวขึ้นมาอย่างรวดเร็ว

แรกเริ่มถุงลมนิรภัยจะมีแค่ด้านหน้าของผู้ขับ และผู้โดยสารเท่านั้น แต่ภายหลังได้มีการเพิ่มจุดที่ถุงลมจะขยายตัวออกให้คลอบคลุมจุดอันตรายมากยิ่งขึ้น

หากเป็นรถสมัยก่อน จะเน้นให้โครงรถและตัวถังแข็งแรงให้มากที่สุดเพื่อคุ้มครองผู้ที่อยู่ในรถ แต่ถ้ารถแข็งเป๊ก 2 คันมาชนกันผลลัพธ์น่าจะออกมาแย่มากกว่าดี ปัจจุบันจึงมีการออกแบบโครงสร้างรถให้ไปในทางกระจายแรงกระแทกออกจากห้องโดยสาร แบบนี้ดูจะมีความปลอดภัยมากกว่า ส่วนอะไรที่แตกพังไปก็ให้ประกันจัดการทีหลังแล้วกันเนอะ

รถในสมัยก่อนเมื่อเกิดการชน ตัวเครื่องของรถถูกดันเข้ามาภายในห้องที่นั่งโดยสารแบบตรงๆ หรือพวงมาลัยก็จะถูกดันให้กระแทกเข้ากับผู้ขับอย่างจัง จนบาดเจ็บหนักหรือถึงกับเสียชีวิต แต่รถในปัจจุบันนี้มีการปรับปรุงพัฒนาเพิ่มความปลอดภัยในด้านนี้อย่างเสมอมา ทำให้เมื่อถูกชนตัวเครื่องจะถูกดันลงด้านล่างแทน รวมถึงพวงมาลัยรถที่สามารถยุบตัวได้ด้วย รู้สึกปลอดภัยขึ้นเยอะเลยนะเนี่ย

คุณแม่หลายคนเมื่อโดยสารรถยนต์พร้อมกับลูกน้อย มักจะใช้วิธีอุ้มลูกมานั่งไว้ที่ตักตัวเอง ขอบอกว่าเป็นสิ่งที่ผิดมากๆ เพราะเมื่อเกิดอุบัติเหตุ เด็กอาจกระเด็นออกจากตักไปกระแทกส่วนต่างๆ ของรถได้ ขอแนะนำให้ติดคาร์ซีทหรือที่นั่งเด็กเล็กไว้ในรถจะดีกว่า เพราะสิ่งนี้จะช่วยให้เด็กปลอดภัยจากแรงกระแทก และไม่หลุดออกมาจากที่นั่งแน่นอน ซึ่งคาร์ซีทนี้จะมีขนาดที่เหมาะสมกับเด็กหลายขนาดต่างๆ กันไปตั้งแต่แรกเกิดไปจนถึงช่วง 6 ขวบ ถึงจะไม่ได้มีติดตั้งมาแต่แรกแต่ก็ควรหามาใช้นะ

ถึงอาจจะไม่ช่วยในทางวิทยาศาสตร์ แต่มีวางไว้หน้ารถก็อุ่นใจล่ะน่า ยิ่งมีเยอะก็ยิ่งอุ่นเยอะ แต่อย่าเยอะเกินไปจนบังทัศนวิสัยตอนขับรถล่ะ แบบนั้นพระท่านก็ไม่น่าช่วยอะไรได้

แม้ตอนนี้เราจะรู้กันแล้วว่าในรถที่เรานั่งอยู่มีความปลอดภัยจากอุบัติเหตุมากมายแค่ไหน แต่ถ้าจะให้ดีที่สุด อย่าเปิดโอกาสให้มันเกิดขึ้นเลยจะดีกว่า มินิมอร์ขออวยพรให้ทุกท่านขับรถเดินทางกันอย่างปลอดภัย ไม่โดนใครถอยรถมาชนรัวๆ ให้หน้ารถยุบนะ เป็นห่วง