บางคนก็ไม่มีปัญหาเรื่องอาหารการกินหรอก แต่อยากเทคแคร์แฟนมากกว่า อ้างว่าติดงานเลื่อนนัดจนแฟนเริ่มสงสัยว่ามีกิ๊กล่ะ (จริงๆ คือเงินหมด) คนอื่นๆ ก็มีสร้างวิมานวางแผนการใช้เงินเดือนแตกต่างกันไป แต่เมื่อกลับมาพบกับความจริงและหนี้สินก็ฝันสลายไปตามๆ กันเมื่อพบว่าไอ้เงินเดือนที่วางแผนจะใช้ทำโน่นนี่นั่นน่ะ มันจ่ายหนี้หมดเกลี้ยงไปแล้ว!

อย่าว่าแต่จะใช้เงินยังไงเลย ไม่มีเงินให้ใช้แล้วด้วยซ้ำ ปล่อยไว้แบบนี้จะรอดไปถึงสิ้นเดือน... โอ๊ย ถึงวันมะรืนรึเปล่าเหอะ แบบนี้ต้องหาวิธีดิ้นรนให้มีชีวิตไปถึงวันเงินเดือนออกครั้งหน้าให้ได้! เอาน่ะ มันก็ยังพอมีทางรอดอยู่บ้างนะ

อย่าเพิ่งตื่นตระหนกไปกับอีแค่เงินเดือนจิ๊บจ๊อย ในเมื่อคุณน่าจะมีเงินเก็บอยู่ในบัญชีธนาคารอยู่บ้างซักสี่ซ่าห้าหมื่นบาทจริงมั้ย เพียงแต่คุณกำลังตกใจจนลืมเงินเก็บก้อนนี้ไปไงล่ะ โอเคหายใจเข้าออกลึกๆ แล้วเดินไปกดเงินส่วนนี้ออกมาใช้ไปก่อน เท่านี้ปัญหาก็จบ... อะไรนะ มียอดเงินคงเหลือ 50 บาท กดออกมาไม่ได้ โอเค ไปข้อต่อไป

คุณอาจจะเป็นคนประเภทที่ไม่อยากเห็นเงินตัวเองเป็นเพียงตัวเลขในสมุดบัญชี ก็เลยเลือกวิธีเก็บเงินเป็นการหยอดกระปุก ให้เงินอยู่ใกล้ตัวเข้าไว้ มันอุ่นใจกว่ากันเยอะจริงๆ นั่นแหละ แถมพอต้องการใช้ก็แคะออกมาได้ง่ายๆ ไม่ต้องเสียเวลาไปธนาคารให้เมื่อย เอ้าแคะออกมาเลย... อะไรนะ เดือนที่แล้วแคะไปใช้หมดแล้ว โอเค ไปข้อต่อไป

อ่ะฮ้า เห็นจนกรอบแบบนี้มีลูกหนี้เหมือนกันนะเรา แม้ช่วงที่ผ่านมาจะไม่ได้ลำบากอะไรจนปล่อยให้ลูกหนี้ติดเงินไว้ไปเรื่อยๆ ก็เถอะ แต่ในเมื่อเดือนนี้คุณมีปัญหาก็ควรทวงหนี้ที่ติดไว้กลับคืนมานะ ตอนเขาลำบากมายืมเรา แล้วตอนนี้เราเป็นฝ่ายลำบากก็ต้องให้เขาคืนมาล่ะ โทรไปคุยเลย จะได้รอดเดือนนี้ซะที... ไม่มีสัญญาณตอบรับจากเลขหมายที่ท่านเรียก... อ่ะ ข้อต่อไป

สุดท้ายก็คุณพ่อคุณแม่นี่แหละที่เป็นที่พึ่งของลูก สมกับที่มีการเปรียบเปรยว่าท่านเป็นพระอรหันต์ในบ้าน ในเมื่อเราไร้หนทางจริงๆ พวกท่านก็น่าจะยอมช่วยลูกสุดที่รักของท่านนะ แม้ว่าคุณจะไม่ได้โทรศัพท์ไปคุยกับพวกท่านเลย บ้านก็ไม่ได้กลับมาไม่รู้กี่ปี ก่อนออกจากบ้านขโมยพระเครื่องของพ่อไปขาย เตะจูลี่หมาพุดเดิ้ลสุดที่รักของแม่จนมันเพี้ยนคิดว่าตัวเองเป็นนกอีมู โดนตัดออกจากกองมรดก เฮ้ย นี่แกยังจะกล้าโทรไปหาอีกเรอะ

ว่ากันว่าแม้ความรักอันหวานซึ้งของคู่ชีวิตยังไม่ยั่งยืนเท่ามิตรภาพของเพื่อนแท้ ใช่แล้ว ไม่ต้องมองไปไหนไกลหรอกครับ ก็ขอยืมจากเพื่อนๆ นี่แหละ พอให้อยู่รอดเดือนนี้ไปได้ เพื่อนมันก็เห็นอยู่ว่าเรายืมไปแล้ว พอมีก็คืนทันทีไม่บิดพลิ้ว อย่างเช่นเดือนนี้ที่เงินเดือนเราหมดก็เพราะเอามาคืนมันจากที่ยืมไปเดือนที่แล้วนั่นแหละ ตอนนี้ก็เลยจะขอยืมไอ้ก้อนที่คืนไปเมื่อกี้อีกครั้งเป็นรอบที่ 8 นะๆๆ เพื่อนนะ แหมดูสิ ท่าทางกำลังยุ่ง ไม่ได้ยินที่เราพูดเลย เฮ้ มายเฟรนด์ เฮ้

ยุคนี้สมัยนี้ พวกบัตรเครดิตหรือบริการบัตรเงินสดมีให้เลือกใช้เยอะแยะเต็มไปหมด ก็คิดซะว่าเป็นเงินที่เราหยิบมาใช้จากอนาคตก็แล้วกัน (ฟังดูโดราเอม่อนมากๆ) เพียงแต่การใช้เงินแบบนี้จะต้องมีความระมัดระวัง อย่าไปเคลิ้มเป็นอันขาดว่ามีเงินออกมาให้ใช้เต็มไปหมดเลย เพราะว่าจะไปลำบากตอนใช้คื... ก็บอกว่าอย่าเคลิ้มไงล่ะเฮ้ย! เอาทีวี 50 นิ้วไปคืนเขาเดี๋ยวนี้! แล้วนั่น! ไอโฟนรุ่นใหม่ล่าสุด ตั๋วเครื่องบินไปญี่ปุ่น หม้อหุงข้าวระบบอุ่นทิพย์ เอาไปคืนให้หมดเลยยยยย

คงเคยได้ยินสำนวนที่ว่า ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน ถ้าเงินไม่มีก็ต้องหาจ๊อบเสริม นี่เป็นความคิดที่ดีมากเลยนะ แถมจ๊อบเล็กๆ น้อยๆ เดี๋ยวนี้ก็หาง่าย แค่ google แป๊บเดียวก็เจอ อ่ะจะทำอะไรล่ะ? เป็นพนักงานร้านสะดวกซื้องี้ รับพิมพ์งานงี้ ขับมอเตอร์ไซค์รับจ้างงี้ เขียนงานเสนอ Minimore Miniseries Project งี้ ก็ลองหาแล้วตัดสินใจดู เพียงแต่อย่ามานั่งหาในเวลางานแบบนี้สิ เดี๋ยวบอสมาเห็นจะคิดว่าคุณอยากเปลี่ยนงานเลยช่วยสนับสนุนให้ไปทำตามฝัน (สรุปง่ายๆ ว่าแกถูกไล่ออก) 

ตามบริเวณห้องพักของเราหรือบริเวณบ้าน มีซอกมีหลืบอยู่เต็มไปหมด ใครจะไปรู้ว่าในมุมเหล่านั้นคุณอาจเผลอวางธนบัตรสีสันต่างๆ หรือเหรียญเงินเงางามอยู่เต็มไปหมดก็ได้ ช่วงที่ไม่ติดปัญหาอะไรก็มองข้ามซะเฉยๆ แต่ตอนนี้ล่ะ ถึงเวลาต้องค้นฟ้าคว้าฝัน หยิบมาใช้แล้ว ไล่ไปตั้งแต่ขอบโต๊ะข้างทีวี ลิ้นชัก ชั้นหนังสือ ซอกกระเป๋า ใต้เตียง บนฝ้าเพดาน ฯลฯ ได้อารมณ์นักล่าขุมทรัพย์มากๆ เสริมความสมจริงด้วยการไม่เจอสมบัติก็จะต้องอดตาย อืม... สมจริง

มันใช่เวลาที่จะมาหวงพวกของสะสมต่างๆ พวกนี้มั้ย อันที่จริง สาเหตุหนึ่งที่เงินไม่พอใช้ก็เพราะเอาไปลงกับพวกนี้หมดนี่แหละ ทีหลังก่อนที่จะตัดสินใจซื้อพวกของแบบนี้ก็ต้องคำนวณค่าใช้จ่ายของตัวเองให้ดีก่อน เข้าใจนะ ทีนี้ก็เอาไปประกาศขายมือ 2 ซะ เช่น สตรอมทรูเปอร์ตัวนั้นน่ะ ขายเท่าไหร่ อ่ะ ผมยอมซื้อต่อในราคาเท่านี้ก็ได้ เฮ้ย อย่างอแงน่า ราคามือ 2 ก็ได้แค่นี้แหละ จะได้มีเงินซื้อข้าวกินไง จะเอาหรือไม่เอา ...ดีมาก (แหม กำไรๆ ฮุๆๆ)

จากการดิ้นรนทั้งหมดก็คงจะทำให้คุณพอมีทุนให้ใช้ชีวิตต่อไปได้ แต่ด้วยความที่มันไม่ได้มากมายอะไร หากใช้ไปตามปกติก็คงจะหมดภายในไม่เกิน 1 สัปดาห์แน่นอน ดังนั้นอะไรที่ประหยัดได้ก็ต้องประหยัด อย่างกาแฟที่ต้องกินแก้ง่วงก็ไม่ต้องกิน ซดน้ำร้อนแก้ง่วงแทน เคยนั่งรถแท็กซี่รถไฟฟ้ามาทำงานก็ไม่ต้องขึ้น เดินเอานี่แหละ กินข้าวบนห้างทุกมื้อก็สลับมากินข้าวแกงข้างทางบ้างมาม่าบ้าง อะไรแบบนี้ ถ้าทำได้ก็จะอยู่รอดไปจนถึงวันเงินเดือนออกอีกรอบได้แน่ และถ้าถึงวันนั้นแล้วเงินเดือนมันหมดตั้งแต่วันแรกอีกครั้งก็ให้กลับไปเริ่มที่ข้อ 1 ใหม่แล้วกันนะ ขอให้โชคดี